บุคคลใด รักดี มีสติ พึ่งหิริ-โอตตัปปะ เป็นกระสาย บุคคลนั้น สุขสันต์ นิรันตราย เรื่องวุ่นวาย อุปสรรค มักไม่มี หิริคือ ละอาย ในพิษบาป เตือนคนหยาบ ให้เห็นธรรม กรรมวิถี การหมดอาย ขายชื่อ คือหมดดี คนอัปรีย์ จึงจะ ขาดละอาย โอตตัปปะ คือกลัวบาป มิหยาบช้า เปรียบธรรมา ชั้นเลิศ ส่องเฉิดฉาย ช่วยดับทุกข์ กลบร้อน ให้ผ่อนคลาย มีจุดหมาย งดงาม ตามครรลอง การมี หิริโอตตัปปะ ในมนุษย์ ประเสริฐสุด เหนือสิ่งสรรพ ทรัพย์ทั้งผอง คนชาติหิน สิ้นอาย ใจลำพอง ล้วนจับต้อง ไม่ถึง ซึ่งเนื้อใน คนรู้อาย รู้หลาบ ต่อบาปนั้น ดุจอนันต-วิญญู ผู้ยิ่งใหญ่ คนไม่ อำมหิต คิดร้ายใคร ย่อมสุขใจ เหมือนมีธรรม คอยค้ำจุน
22 กันยายน 2554 23:14 น. - comment id 1208849
ได้หนังสือลีลาภาษาศิลป์ ส่งถึงถิ่นนิเวศน์เขตสถาน ขอบพระคุณสุนทรวิทย์ จิตเจือจาน ได้เปิดอ่านได้ลิ้ม ชิมกวี เหมือนอาถรรพ์ล้มป่วยด้วยไข้หวัด อากาศเปลี่ยนลมพัดจัดถึงที่ ต้องนอนซมขมยาบรรดามี ก็ยังดี ได้อ่านกลอน. สุนทรวิทย์..... ขอบพระคุณมากครับ ขอพักก่อนนะครับ
23 กันยายน 2554 05:31 น. - comment id 1208878
คารมคมคายเอาเรื่อง เก็บงำไว้ซะเงียบเชียวปล่อยให้ผมปล่อยไก่อยู่ได้ตั้งนาน ออกมาร่ายรำบ้างนะครับ ขอให้หายหวัดเร็วๆนะครับ
24 กันยายน 2554 03:41 น. - comment id 1209085
หากชนใดมีหิริโอคตัปปะ ก็อย่าชะล่าใจท้าทายบาป หิริเปรียบเป็นไม้ใช้กำราบ ไม่ให้จิตหยาบหยามตามอบาย หากคนเราไม่ละอายจะวายสิ้น ทั้งชื่อเสียง ทรัพย์สิน สิ้นเสียหาย ทำสิ่งใดใคร่ครวญก่อนไม่วอดวาย สติคือสายสร้อยร้อยดวงใจ
24 กันยายน 2554 05:54 น. - comment id 1209098
สาธุพระคุณเจ้า ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน