บรรพชิต อาศัย ปัจจัยสี่ หนึ่งนั้นมี ข้าวปลา กระยาหาร โดยยังชีพ อย่างผู้ รู้ประมาณ อิ่มในฌาน สมถะ ละเฟื่องฟู สองจีวร ห่มกาย ให้พอเหมาะ มิต้องเสาะ แสวง แข่งเลิศหรู ประดับศีล ดำรงธรรม อันค้ำชู คือประตู สู่สรวง ห้วงนิพพาน สามโอสถ หยูกยา รักษาโรค บริโภค ประทัง คงสังขาร ยามเจ็บไข้ ได้ป่วย ช่วยต้านทาน บริบาล รักษา คราลำเค็ญ สี่นิวาส หนแห่ง แหล่งอาศัย ซึ่งปลอดภัย สงบ เมื่อพบเห็น ทั้งวิเวก อุดม แลร่มเย็น รวมแล้วเป็น ปัจจัยสี่ ที่กล่าวมา ปัจจุบัน มิเห็น เป็นเช่นนั้น สงฆ์แข่งขัน บัญญัติ ปัจจัยห้า ขวนขวายยศ สรรเสริญ ลาภเงินตรา อีกสีกา บริวาร บานตะไท ไยภิกษุ พ่ายแพ้ แก่อามิส สานุศิษย์ ขัดแย้ง แย่งกันใหญ่ ศาสนา ง่อยเปลี้ย ละเหี่ยใจ เพราะอะไร ใครคิดออก วานบอกที
25 สิงหาคม 2554 00:30 น. - comment id 1206424
โลกวิปริตผิดแผก จวนแตกดับ แผ่นดินใกล้ โถมทับ สรรพสิ่ง น้ำท่วมล้น คนล้มหาย ไร้พักพิง บอกความจริง ทุกสิ่งเน่า โลกเอาคืน ! ค่าเงินล้า ค่าแรงถูก ทุกหย่อมหญ้า มนุษย์บ้า กล้าห้ำหั่น กันสุดฝืน คนดีแพ้.. แต่คนชั่ว ยังหยัดยืน ยากพลิกฟื้น ยุติธรรม สุดนำพา ทุกสิ่งสรรพ สลับกัน มันน่าคิด น้ำเต้ากลม ถอยจมมิด ปริศนา กระเบื้องแบน แล่นลอยฟู ดูทายท้า สุดกังขา กลับตาลปัตร วิบัติภัย เศรษฐกิจ ตกสะเก็ด เจ็ดชั่วโคตร เหมือนโจรโหด กดหน้าคว่ำ ร่ำโหยไห้ ข้าวไม่ได้กล้ำ น้ำน้อยกลืน ฝืนข่มใจ ยังแบ่งฝ่าย.. ไม่ดีกัน อยู่นั่นเอง ! เฮ้อ ! (ถอนใจ..) คนละเรื่องเดียวกัน
24 สิงหาคม 2554 22:41 น. - comment id 1206487
กิเลสไง หลวงตา