ซอสามสาย...เส้นที่สี่
ว.วโรดม
เสียงซอดังแว่วหวานจากลานกว้าง
ตรงริมทางข้างเสาเขานั่งอยู่
ชายผู้หนึ่งคนนั้นฉันเหลียวดู
หันหลังสู้แดดฝนทนมานาน
มีแผ่นฟ้าเป็นผ้าห่มข่มความหนาว
พื้นทอดยาวที่เห็นเป็นเหมือนบ้าน
ซอสามสายเป็นเครื่องมือถือทำงาน
เงินเศษทานต่อหัวใจไปอีกวัน
นิ้วกดโน้ตพลิ้วร่ายบนสายเสียง
เสนาะสำเนียงด้วยใจไร้หวาดหวั่น
ทำนองเพลงพร่ำกรุ่นกลางฝุ่นควัน
ในเมืองหลวงที่นั่นที่ฉันยืน
ชายชราผู้หนึ่งซึ่งตาบอด
ใจเยี่ยมยอดกล้าแกร่งยังแข็งขืน
เล่นดนตรีแลกเศษทานผ่านวันคืน
ยังทนฝืนกลางสังคมโสมมทราม
แม้ตามืดไร้แสงแห่งความหวัง
แต่พลังเชื่อมั่นไม่หวั่นหวาม
ป้ายข้างหน้านั้นควรคิดควรติดตาม
ว่า วันนี้นั้นงดงามยามเห็นมัน
ฉันจึงถาม จะเล่นไปถึงไรหรือ
ชายผู้ถือซอคันเก่าเขาตอบฉัน
จะเล่นจนโลกนี้ไม่มีจันทร์
หรือถึงวันที่ดับดิ้นสิ้นชีวี
ฉันจึงเขียนต่อเติมเพิ่มท้ายวรรค
ให้โลกรู้ให้ประจักษ์สมศักดิ์ศรี
ว่า มนุษย์จงสร้างสรรค์มั่นทำดี
ตราบยังมีลมหายใจให้ตัวเอง
ฉันผ่านมาวันใหม่ในที่เก่า
ไร้แม้เงาผู้เติมไฟใจกล้าเก่ง
ผู้เต็มเปี่ยมจิตวิญญาณการบรรเลง
ผู้สร้างเพลงสอนชีวิตให้คิดดี