ชายคนหนึ่งออกเดินทางข้ามท้องทุ่ง ระหว่างที่มุ่งหน้าเพลินเดินกลับบ้าน พบเสือใหญ่คอยซุ่มรออยู่ช้านาน จึงลนลานวิ่งหลบลี้หนีภัยมา ขณะที่ปีนป่ายอยู่ข้ามภูเขา เดินสะดุดรากไม้เข้าหล่นภูผา โชคดีที่สองมือไวรีบไขว่คว้า เถาวัลย์หนึ่งเส้นหล่นมาให้เกาะกุม ขณะที่ลอยเคว้งคว้างอย่างโชคร้าย ก็มีหนูมา...กัดเถาไม้ ที่อ่อนนุ่ม ตัวหนึ่งดำตัวหนึ่งขาวพากันรุม กลุ้มแสนกลุ้มเสียวหัวใจทำไงดี เห็นองุ่นห้อยแขวนพวงอยู่ตรงหน้า รีบเอื้อมมือเข้าไขว่คว้าอย่างเร็วรี่ บอกช่างหวานหอมชื่นใจอะไรเช่นนี้ สุขในทุกเสี้ยวนาทีที่...ที่ผ่านไป
13 สิงหาคม 2553 20:13 น. - comment id 1151077
แซมกำลัง เป็นชายผู้นั้น และ กำลัง enjoy องุ่นพวงนั้นอยู่ในทุกหยาดหยดของรสชาดค่ะ... ไม่น่าเชื่อ คติ อันนี้ เป็นสิ่งแรกที่แซมได้ยินเมื่อหลายปีก่อน... อาจาร์ยพูดในวันแรก คลาสแรก ของภาควิชาที่แซมจบมา...แซมจำไม่ลืมเลย... ขอบคุณพี่ใบไม้ที่ หยิบยกมันขึ้นมาอีกนะคะ... แซมค่ะ
14 สิงหาคม 2553 10:13 น. - comment id 1151137
ช่วยขยายความด้วยครับ อานแล้วยังไม่เข้าใจ หรือว่าเราสามารถหาความสุขบนความทุกข์ได้ เช่นนั้นหรือเปล่า
14 สิงหาคม 2553 13:10 น. - comment id 1151148
ตอบคุณ สุริยันต์ จันทราทิตย์ ครับ ผมแต่ง(ไม่ควรเรียกว่าแต่งสิ ควรเรียกว่าดัดแปลงมาเป็นบทกลอนดีกว่า) นิทานเซ็น นี้ขึ้น ด้วยความพยายามที่จะคง คำ และ ความ เดิมไว้ให้ได้ทั้งหมด ซึ่งการตีความก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและประสบการณ์ของแต่ละบุคคลเป็นหลัก อันนี้เป็นการตีความตามความเห็นเฉพาะส่วนตัวของกระบี่ใบไม้นะครับ(ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้) นิทานเรื่องนี้บอกเล่าถึงชายคนหนึ่งที่หนีเสือมา เสือในที่นี้ น่าจะหมายถึงความทุกข์ในพระพุทธศาสนา ที่ทุกคนในโลกนี้พยายามวิ่งหนีความทุกข์กันสุดชีวิต จึงทำให้ต้องมาสะดุดตกลงที่หน้าผาแห่งวัฏสงสารแห่งนี้กันทุกคน ห้อยต่องแต่งอยู่ในสายเชือกแห่งกรรม ที่แต่ละบุคคลได้ร่วมกระทำมา โดยชีวิตแต่ละชีวิต ล้วนถูกกัดกร่อนด้วยหนูสองตัวที่มักมาเป็นคู่กันเสมอ หนูสีดำและหนูสีขาวที่ นิทานเรื่องนี้กล่าวถึง น่าจะหมายถึงโลกธรรม8 นั่นเอง (มีลาภ+เสื่อมลาภ มียศ+เสื่อมยศ มีสรรเสริญ+มีนินทา มีสุข+มีทุกข์) ถ้าจะกล่าวโดยสรุปก็คือมีทั้งสิ่งที่ชอบใจ(หนูสีขาว) และมีสิ่งที่ไม่ชอบใจ(หนูสีดำ) แต่เราๆท่านๆจะหาความสุขในชีวิตนี้ตามอัตภาพได้ยังไง ความสุขสงบในทางเซ็น ก็คือเราจะต้องรู้จักปล่อยวางเรื่องราวทั้งหมด โดยไม่กลัดกลุ้มถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีตและไม่กังวลถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึงในอนาคต นั่นคือมีความสุขอยู่ในโลกปัจจุบันที่มีสตินั้นเอง อันนี้ผมตีความเอาเองนะครับ คุณสุริยันต์ จันทราทิตย์ ลองไปสอบถามผู้รู้ท่านอื่นดูเพิ่มเติมนะครับ เผื่อจะได้ความจริงมากกว่าที่ผมเข้าใจก็เป็นได้ ขอบคุณที่สอบถามมานะครับ
14 สิงหาคม 2553 13:44 น. - comment id 1151151
แซมเห็นด้วยกับพี่ใบไม้ค่ะ.... ....นั่นคือมีความสุขอยู่ในโลกปัจจุบันที่มีสตินั้นเอง..... จารย์ พี่โป้ง....แบบว่า.... วาง...ว่าง ว่าง ไงคะ....... อดีต....ก็ผ่านไปแล้ว อนาคต...ก็ยังมาไม่ถึง ปัจจุบัน..คือสิ่งที่เรา...มี... เป็น..อยู่..คือ.... Happy....Happy นะคะ มะขิ่น De California
16 สิงหาคม 2553 07:19 น. - comment id 1151403
สวัสดีค่ะพี่ใบไม้