มองดูเจ้าลุกนั่งเริ่มตั้งไข่ เดินเตาะแตะก้าวไปในมือพ่อ ท่ามนกน้อยแมกไม้ตายเกิดก่อ ขณะหนึ่งยายรอจักไกวเปล เป็นช่วงขณะพระบิณฑบาต ไก่ขันอาดตีปีกชันมองหันเห แล้วยายลุกหยิบขันพลางขึ้นห่างเปล บอกแม่เตรียมกล่อมเห่ในไม่นาน จึงมองไปยังยายที่ผ่ายผอม สองมือน้อมพร้อมบุปผาภัตตาหาร ไก่บินกรูลงจากรังมายังลาน นกขับขานผ่านฟ้าลงมาดิน พอพระท่านผ่านไปเพียงไม่นาน ก็ถึงกาลหมู่วิหคเริ่มผกผิน คล้ายลูกน้อยในอกเป็นนกบิน สัมผัสดินแรกเดินเผชิญโลกา เสียงแผ่วเบาเย้าหยอกยายบอกกล่าว ลองกินข้าวก้นบาตรพระศาสนา ดำรงอยู่คู่ชาติศาสดา หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินบนถิ่นทอง ตามเวลาแสงตะวันที่ผันเปลี่ยน เจ้าเริ่มเรียนทุกผู้หมู่เพื่อนผอง ใครเดินล้มก้มเก็บเจ็บประคอง บางใครร้องว้าเหว่ห่างเปลไกว บนมือผากสากกร้านดูด้านหยาบ ก็เพราะหาบทุกวันแบกคันไถ ทั้งหว่านกล้าคราฝนแรกจนแตกใบ เริ่มตั้งไข่ใบเหลืองพราวเป็นข้าวรวง มองหลังคาบ้านนั้นตะวันส่อง เจ้าเหมียวร้องมองปลาทำท่าหวง มีอึ่งแห้งเสียบไม้อีกหลายพวง คงรอดพ้นลุล่วงใครทวงคืน ตาไล่ตีหนีแล้วเห็นแมวเหมียว ว่าแล้วเชียวเร่งรัดรีบขัดขืน ของของใครใครก็หวงต้องทวงคืน รอหยิบยื่นหลังกินข้าวมื้อเช้าเย็น ตรงที่เดิมกระถางหมานกกากิน หลายชีวินหลากเจ้าของที่มองเห็น ชามใบเก่าเหย้าเยือนเหมือนจำเป็น หล่อเลี้ยงความลำเข็ญให้เป็นไป เตาะแตะก้าวรอยเท้าเท่าฝาหอย พ่อแม่คอยเจ้าเบ่งบานการเคลื่อนไหว บนพื้นดินกลิ่นกรุ่นละมุนละไม หรืออีกหนึ่งความเป็นไปบนไกปืน จากคำพูดบอกเล่าอันเศร้าโศก รัตติกาลวิปโยคใครขัดขืน หลายชีวิตดับไปไม่หวนคืน ไม่อาจยื่นมือจับประคับประคอง เสียงระฆังวังเวงจากวัดวา อนิจจาลับเลือนแล้วเพื่อนผอง จึงกอดแน่นลูกน้อยคอยประคอง แว่วกรีดร้องบางใครในศาลา ยังมีเสียงหัวร่อให้พอเห็น เด็กวิ่งเล่นลุ่มดอนแอบซ่อนหา บนยุ้งฉางร้างเงาไร้ข้าวปลา เสียงเฮฮาหน้าเตาถ่านข้างชานเรือน เจ้าดีใจเริงร่าแขนขาสั่น เด็กน้อยพลันรุมชะเง้อเสมอเหมือน ประหนึ่งดาวร้อยดวงเป็นห่วงเดือน หากแปดเปื้อนรอยคาวเป็นดาวดิน เสียงระฆังดังหายที่ท้ายวัด คฤหัสถ์ทั้งปวงยังห่วงถวิล มาจับจอบสู่ท้องนาเริ่มหากิน บนแผ่นดินหลับตื่นค่ำคืนภวังค์ โอละเห่...หลับได้แล้วนะแก้วตา ในผืนผ้าห้วงเปลคือความหวัง แม่จักเห่เพลงกล่อมพร้อมระวัง พ่อจักนั่งจับมือไว้ตั้งไข่เดิน.... ...รักและคิดถึงลูกมาก พ่อจะกลับบ้านไปหาลูกในวันปีใหม่ อีกเช่นกัน ขอให้เพื่อนกับที่แห่งนี้มีความสุขตลอดไป และหากพรอันใดที่เกิดแก่ข้าพเจ้า ขอพรนั้นให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ว เป็นมิ่งขวัญของลูกทุกคนตลอดไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญ แล้วพบกันใหม่ปีหน้าครับ ขอบคุณครับ นาคะพรรณ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
24 ธันวาคม 2552 18:07 น. - comment id 1078604
แวะมายิ้มค่ะ^^ ชื่นชมและจะขอนำมาเป็นแบบอย่างค่ะ เป็นบทกลอนที่มีคุณค่ายามสิ้นปี ให้คนที่สิ้นหวังจริงๆ ^^
24 ธันวาคม 2552 18:44 น. - comment id 1078611
มาให้กำลังใจนะคะ ขอให้เดินทางปลอดภัย วันนี้อนงค์นางก็จะได้พบกับลูกคนโตเหมือนกันค่ะ นานๆที่ลูกได้กลับบ้าน ดีใจเหมือนกันเลยนะคะ
24 ธันวาคม 2552 19:19 น. - comment id 1078620
สวัสดีค่ะ คุณนาคะพรรณ อ่านแล้วให้รู้สึกอบอุ่นมากค่ะ ชีวิตเรียบง่าย ครอบครัวพร้อมหน้า ขอให้ครอบครัวคุณมีแต่ความอบอุ่น เจริญรุ่งเรืองค่ะ
24 ธันวาคม 2552 19:28 น. - comment id 1078623
บทกลอนอบอุ่นจังเลยค่ะ ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่ กับ ครอบครัวนะคะ
25 ธันวาคม 2552 05:07 น. - comment id 1078718
อ่านแล้วประทับใจครับ ซึ้ง....น้ำตาซึมครับ
25 ธันวาคม 2552 16:35 น. - comment id 1078970
เทศกาลงานส่งท้ายย้ายปีใหม่ สุขสดใสงานก้าวไกลใสสุขี สุขภาพกายสุขสมบูรณ์พูนทวี ขอทั้งปีเงินไหลมาพาอิ่มเอม ความรักคู่แสนสุขไม่ทุกข์แน่ เป็นคู่แท้คู่ใจให้เกษม พรประเสริฐเลิศล้ำนำปรีดิ์เปรม สุขเกษมนำพาให้สมใจปอง ขอความทุกข์หลุดพ้นกมลแก้ว ใจเพริดแพร้วบริสุทธ์ฉุดความหมอง ได้ความดีนำชีวิตจิตประคอง ขออวยพรให้โชคดี..ปีใหม่เอย ********************* แวะมาส่งความสุขค่ะ ขอให้มีความสุขในปีใหม่นะคะ อิอิอิ