*เคยชอุ่ม ชุ่มชื้น เต็มผืนป่า แตกสาขา แผ่ขยาย ใบ,กิ่ง,ก้าน หยั่งรากแทรก พสุธา มาเนานาน ก็ถึงกาล สิ้นซาก จากดงดอน *มองต้นไม้ สารพัน หลากปัญหา รอเวลา สุดท้าย ไฟสุมขอน คล้ายสังคม ร้าวฉาน จนสั่นคลอน คอยบั่นทอน ทับถม ชาติจมลง *จากครอบครัว เข้มแข็ง มีแรงต้าน เริ่มหย่อนยาน แหลกยุ่ย เป็นผุยผง ที่แตกแยก หย่ากัน ขาดมั่นคง ที่ทะนง หลงทาง บ้านพังครืน *เศรษฐกิจ ติดหล่ม ตรมหมองไหม้ ฉุดรายได้ ตกต่ำ ช้ำขมขื่น พึ่งตนเอง ไม่ได้...ไม่ยั่งยืน สุดกล้ำกลืน ฝืนลำบาก เพราะยากจน *ขาดโอกาส เล่าเรียน เพียรศึกษา หมดปัญญา พาชีวิต สัมฤทธิ์ผล ด้อยทักษะ ไร้สำนึก รู้สึกตน หนี้สินล้น พ้นตัว มั่วอบาย *หาทางออก บั้นปลาย ให้ชีวิต แอบค้ายา เสพติด ผิดกฎหมาย อิทธิพล อุปถัมภ์ บ่อนทำลาย นิ่งดูดาย ปล่อยสังคม โทรมเสื่อมทราม *แรงจูงใจ ใฝ่สัมฤทธิ์ ต่ำติดพื้น จึงถูกกลืน สู่ครรลอง โลกต้องห้าม ธุรกิจ หยาบช้า ค้าน้ำกาม เอดส์คุกคาม อายุขัย ให้สั้นลง *อำนาจนิยม ฟูเฟื่อง การเมืองยุ่ง ต่างหมายมุ่ง ประโยชน์ตน จนเหลิงหลง เมินหลักเกณฑ์ อิงหลักกู ให้อยู่คง ไม่ซื่อตรง ไม่โปร่งใส...ตายทั้งเป็น *กระแสโลกาภิวัตน์ ซัดกระหน่ำ ศีลธรรม นำสุข พ้นทุกข์เข็ญ บทเพลงสวด ของชาวพุทธ สุดเยือกเย็น เปลี่ยนประเด็น เป็นเพลงเสก ของเทคโน ฯ *บริโภค วัตถุนิยม ชมคลั่งไคล้ สื่อเร็วไว แพร่ข่าว ดังฉาวโฉ่ สังคมเปรียบ ต้นไม้ ไทร,ร่มโพธิ์ เคยใหญ่โต เหลือแต่ตอ...รอวันตาย
10 ตุลาคม 2552 07:29 น. - comment id 1049552
อ่านแล้วหดหู่ใจ
10 ตุลาคม 2552 07:29 น. - comment id 1049553
เมื่อครั้งเป็นนักเรียน คุณครูเคยสอนค่ะว่า... เมื่อความเจริญมาขึ้นเท่าไหร่ ความเสื่อมทรามของจิตใจ.. จะนำไปสู่ความเสื่อมของสังคม ........... มาถึงวันนี้....เห็นประจักษ์ตามที่ครูสอน.. บุญใดไหน..พอจะช่วยคนไทย โดยเฉพาะเด็กไทย.... ความของกลอนดีจังเลยค่ะ.. ขอบคุณกลอนดีดี และขออนุญาติเก็นไปสอนนักเรียนค่ะ.
10 ตุลาคม 2552 07:51 น. - comment id 1049560
ขอบคุณครับ...คุณปฐวี... ที่เข้ามาเยี่ยมชม....
10 ตุลาคม 2552 08:02 น. - comment id 1049561
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง..... ที่ครูพิมจะนำบทกวี..บทนี้ไปสอนนักเรียน... ทำให้วิญญาณความเป็นครู... ของ "กวี ซีม่า"...ฉีดสูงขึ้นเป็นทวีคูณ... กวี ซีม่า...เกษียณจากราชการครูแล้วครับ... แต่...สัญญาว่าจะรังสรรค์กลอนแบบนี้.... นำมาฝากครูพิมไปปลูกฝัง บ่มเพาะเยาวชน... ต่อไปอีก...ขอบคุณครับ...
10 ตุลาคม 2552 08:14 น. - comment id 1049562
ขอบคุณมากค่ะ คุณครูกวี ช่วงปิดเทอมสองอาทิตย์ จะเก็บงานทำแบบฝึกทักษะ การอ่านคิด วิเคราะห์จากบทกวี ไว้เตรียมสอนนักเรียนม.๕ ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ.. หนูถือเป็นคำสัญญานะคะครู จะรองานสำนวนต่อไปคะ.. ขอบคุณค่ะ
10 ตุลาคม 2552 12:49 น. - comment id 1049647
สวัสดีงามๆยามเที่ยงเจ้า กลอนดี มีคุณค่า น่าอ่านเจ้า ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะเจ้า
10 ตุลาคม 2552 14:50 น. - comment id 1049682
ขอด้วยคนนะคะ ครูกวี จะนำไปสอนเด็กเหมือนครูพิมค่ะ แต่คนละวิชานะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
10 ตุลาคม 2552 18:49 น. - comment id 1049800
กระแทกกระทั้น อารมณ์ดีจังเลยครับ งานงามมากครับ หาอ่านยากยิ่งนัก
10 ตุลาคม 2552 20:36 น. - comment id 1049917
ตีแผ่สังคมหมดเปลือกเลย เฮ้อ
10 ตุลาคม 2552 21:07 น. - comment id 1049948
มาทายปัญหา ต้นไม้ครับ ต้นไม้อะไรเอ่ย กินไม่ได้ ใช้ไม่ได้ ทำได้แต่มอง ติ๊กต๊อก อย่าคิดนานครับ เพราะต้นนี้ไม่มีคำตอบ อิอิ
10 ตุลาคม 2552 23:23 น. - comment id 1050020
สวัสดีครับ...คุณม่านดอย... ขอบคุณที่กรุณามาแวะมาทักทาย..ขอรับ..
10 ตุลาคม 2552 23:25 น. - comment id 1050022
สวัสดีครับ...ครูนิลวรรณ... เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา.... กวี ซีม่า...ยินดีครับ....
10 ตุลาคม 2552 23:28 น. - comment id 1050023
ขอบคุณ...คุณเรไร.... ที่กรุณาเข้ามาเยี่ยมชม...ขอรับ
10 ตุลาคม 2552 23:30 น. - comment id 1050024
ขอบคุณครับ...คุณเฌอมาลย์.... ที่กรุณาเข้ามาเยี่ยมชม....
10 ตุลาคม 2552 23:33 น. - comment id 1050025
ขอคารวะด้วย..ท่านซอลิ้วเฮียง.... ด้วยยาดอง...สองโหล...ขอรับกระผม..
11 ตุลาคม 2552 13:40 น. - comment id 1050214
""" ยิ่งอึดอัดขัดข้องยิ่งหมองจิต เหมือนความคิดติดหล่มค่อยจมหาย ยิ่งดิ้นรนชนตอรอความตาย ดั่งใบไม้วายต้นหล่นซบดิน งดงามครับ..
12 ตุลาคม 2552 09:36 น. - comment id 1050476
หวัดดีคับ...คุณ กวี ซีม่า อยากให้แพร่ไปให้คนได้อ่านมากๆ... มีประโยชน์มาก...ถ้าคิดตาม...ขอรับ...