ลูกธนูหนึ่งพุ่งออกไปในท้องฟ้า แต่ลูกหนึ่งดั่งธาราละเลื่อยไหล ลูกที่หนึ่งเคว้งคว้างหลงทางไกล แต่ลูกหนึ่งยังผ่องใสในน้ำเย็น มองจุดหมายเหมือนคล้ายแต่ไกลห่าง ความแตกต่างคือความว่างสร้างความเห็น คนสองคนค้นหาทางอย่างที่เป็น เมื่อมองย้อนจึงได้เห็นเป็นผลกรรม ธนูหนึ่งยิ่งพุ่งไป ยิ่งไกลห่าง เหมือนหลงทางแต่สอนใจไม่ให้ถลำ ทางข้างหน้ายาวไกลไม่คืนคำ จะน้อมนำธรรมลิขิตชีวิตตน แต่วันนี้ที่ฟ้าหม่นฝนกระหน่ำ จึงเพลี่ยงพล้ำแรงใจให้สับสน อยากอยู่ในสายน้ำบ้างอย่างอีกคน อยากปะปนธารน้ำไหลไปด้วยกัน.. ฟ้าหลังฝนไม่สว่างกระจ่างแจ้ง เมฆฝนแสดงพายุมาน่าหวาดหวั่น ลมและฝนยังพรั่งพรูอยู่ทกวัน ธารน้ำนั้น คงไหลเชี่ยว เป็นเกลียวพัน ธนูหนึ่งหลงทางกลางพายุ ธนูหนึ่งอยู่ระหว่างทางผกผัน บนท้องฟ้าเหนือธารามองหากัน หวังเธอนั้นผ่านพ้นภัย..ด้วยใจทนง จงแน่วแน่ในความฝันอันสูงสุด จงอย่าหยุดโศกเศร้าร้าวรานหลง จงเพียรสู้สู่ปลายทางอย่างอาจอง แล้วเราคงพบฝั่งฝันนิรันดร์กาล
1 ตุลาคม 2552 14:08 น. - comment id 1045844
ผมคงเป็นธนูเถลไถล 555
1 ตุลาคม 2552 21:58 น. - comment id 1046052
ความเหมือนที่แตกต่าง ทั้งเพราะและลึกซึ้งมากเลยนะคะ คุณเก่งมาก ชื่นชม
5 ตุลาคม 2552 04:33 น. - comment id 1047380
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการแต่งบทนี้ ความแตกต่างมีพลังทังสองด้านเลยจริงไหมคะ ขึ้นอยู่กับความเข้มแข้งของหัวใจในแต่ละวัน ขอบคุณค่ะ