เดินทางกลางเมืองอันเขื่องโข แหกโซ่กรงกรอบที่ครอบขัง หลายมือยื้อยุดจะฉุดรั้ง หลายหน้าตาตั้งพลางก่นว่า แต่เสียงเรียงกราดไม่อาจทัด มุ่งฝ่าอาณัติการวัดค่า เพราะทั่วหัวใจไร้ศรัทธา สุดท้ายกลายว่าเป็นหมาขี้เรื้อน เมืองกระเพื่อมเหลื่อมขอบกรอบความคิด อารยะปะติดให้บิดเคลื่อน วิถีชีวิตมันบิดเบือน ถูกผิดอิดเอื้อนไม่เลื่อนที่ แท่นหูกผูกล้อทอวัฏจักร หลอมเส้นเป็นชนักกักทางหนี กฎกรอบครอบถิ่น - บ้าสิ้นดี! เกลียดโลกใบนี้เสียที่สุด แต่เหลือบมอง.. วนิพกร่ำร้องกลางกลองชุด ณ ทางข้างถนนผู้คนหยุด - โอบห้อมล้อมมนุษย์ผู้รุดบรรเลง เขาปิดเปลือกตามาร่ำร้อง ผุดดำทำนองรัวกลองเร่ง เขาเปรียบเรียบเรียงด้วยเสียงเพลง ใจฉันมันเคว้งละเลงลม ไยเขาก้าวย่างอย่างอิสระ? เหมือนไร้พันธะให้สะสม ทั้งที่ชีวิตเหมือนติดหล่ม นี่หรือ เรียกผมบังภูเขา? วนิพกชกกลองร้องเพลงร่า ทายท้า ฟ้า ฝน คน เขม่า ดูเขาสุขใจไปถึงเหง้า เหมือนเขาเข้าใจ - อะไรชีวิต ......... ฉันแอบยิ้ม.. เขามองรอบริมส่งยิ้มสะกิด คล้ายบอกคอกขังจะฝังทุกทิศ หากมีชีวิตไม่คิดจะรับ
26 กันยายน 2552 15:53 น. - comment id 1042872
2 ...... ตามสหายยามาอีกแระ อิอิ ......
26 กันยายน 2552 12:04 น. - comment id 1042929
แจ่มครับ
26 กันยายน 2552 12:59 น. - comment id 1042988
ตามมาศึกษาแนวต่อ อิอิ ดีจ้า
26 กันยายน 2552 16:16 น. - comment id 1043059
เฮ้อ !นี่แหละชีวิต
26 กันยายน 2552 16:37 น. - comment id 1043080
มีหลายอย่างที่เรามองข้ามจริงๆ ต่อไปต้องมองข้างทางบ้าง เผื่อได้เห็นอีกมุมมองของชีวิต