๏ แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ ให้ยืดถือโบราณท่านพร่ำสอน ฉันทลักษณ์มักเน้นเป็นบทกลอน อีกวรรคตอนย้อนคำนำใส่ใจ มีมากนักหากเรียนเพียรศึกษา เทศนาโวหารครั้นสงสัย คือบทกลอนสอนสั่งดั่งจูงใจ ให้ฝักใฝ่ในธรรมหนุนนำตน ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน เพื่อให้มั่นให้หมายคลายสับสน นำคำสอนคำสั่งฝังกมล พ้นวังวนพ้นเวียนว่ายในมัวเมา พรรณาโวหารหมั่นศึกษา ดุจคุณตาปรานีชี้เรื่องเล่า ให้คลายร้อนผ่อนหนาวเศร้าบรรเทา นิทานเก่าเราฟังอย่างตั้งใจ ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน หากจริงนั้นผสานสิ่งเป็นจริงได้ เสนาะหูรู้แจ้งแฝงความนัย ฟังครั้งใดคล้ายชมโขนกรมศิลป์ อีกแบบหนึ่งตรึงตราจะหาไหน อุปมาอุปมัยได้สุขิน อ้างเรื่องเทียบเปรียบเปรยแผ่เผยจินต์ ยกศัพท์สิ้นส่อความตามโบราณ แต่ต้องกลั่นจากห้วงของดวงใจ กฎเกณฑ์ใดไม่หลงตรงอรรถสาส์น เรื่องใดเหมาะเพราะพริ้งแอบอิงกานท์ ยกตำนานผสานส่งจำนงไป พึงเพิ่มเติมเสริมแนบแบบฉบับ ดุจประดับอาภรณ์ตอนสวมใส่ จักงดงามตามฉันท์กาพย์กานท์ไทย แม้นผู้ใดได้ชมภิรมย์พลัน แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน ควรกรองกลั่นจากห้วงของดวงใจ ต้องคำนึงถึงความอันงามเฟื่อง ก่อนวางเรื่องเรียงพจน์กำหนดไข ต้องรู้ชอบทุกจารที่สาส์นไป รู้รับใช้รอบด้านที่กานท์มา ต้องสำรวจตรวจสอบระบอบศัพท์ รู้ระงับรู้ประกาศปรารถนา แม่นลำดับบังคับบทพจนา จึงสมค่าควรชมนิยมกัน บนเส้นทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์ อันแจ่มจินตนาการวิญญานฝัน หากเพียงลากอักษรแค่คอนดัน ป่วยการจะประพันธ์เรื่องอันใด ๚ะ๛
21 กรกฎาคม 2552 15:59 น. - comment id 1017270
การเรียงร้อยถ้อยคำย้ำประเด็น อย่าทำเล่นผิดแผกแหกกฏไหน ควรยึดอย่างวางแนบตามแบบไทย แต่อย่าไร้อิสระเกินประมาณ เฉกยึดมั่นสรรค์สร้างต้องอย่างนี้ กลวิธีรูปพรรณทรงสัณฐาน แท้ควรคัดจัดเพราะเหมาะเหตุการณ์ จงเชี่ยวชาญเลือกบทเลือกรสกรอง อย่าดึงดันมั่นหมายคล้ายคุกขัง เพียงลำพังบังคับตำรับผอง จะรื่นเริงบันเทิงใจเลือดไหลนอง ล้วนใฝ่ปองจิตจ่อกฎข้อเดียว ร้อยกรองไทยหลายหลากมากประเภท ย่อมแฝงเลศสื่อขานขมหวานเปรี้ยว จะโกรธแค้นแน่นหนักฤๅหักเกลียว สวาทง้อระย่อเกี้ยววานเหลียวแล มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
21 กรกฎาคม 2552 16:47 น. - comment id 1017280
ฮ่าๆๆๆในที่สุดยอดหญิงของเราก็ใจอ่อนแล้ว เอ๊าๆๆๆแก้ว+กิ่งเอ๋ย มานำไปเป็นครูในการฝึกฝน ในกลอนนี้ยังแทรกด้วยกลบทไว้ด้วยนะ พิจารณา เอาเองจะได้สติปัญญา นี่แหละคือการใช้เขียน ร้อยกรอง ขอขอบใจยอดหญิงมากที่มาเผยแพร่ ไว้ให้แก่เพื่อนพ้องน้องพี่ได้สดับไว้ รักยอดหญิงมาก แก้วประเสริฐ.
21 กรกฎาคม 2552 17:12 น. - comment id 1017293
เข้ามารับคำสอนจากคุณอัลฯค่ะ ขอบคุณที่แนะนำสิ่งดีๆให้ค่ะ เพื่อจะได้ไปพัฒนาการเขียนให้ดียิ่งขึ้น แต่ยังคงความคิดที่อิสระไว้นะคะ ไม่งั้น หนูต้องกดดันแน่ๆเลย อิ
21 กรกฎาคม 2552 17:32 น. - comment id 1017300
ชื่นชมค่ะ ขอน้อมรับคำแนะนำด้วยคนนะคะ
21 กรกฎาคม 2552 17:43 น. - comment id 1017305
แวะมาอ่านคำแนะนำค่ะ....
21 กรกฎาคม 2552 17:44 น. - comment id 1017306
คุณ อัลมิตรา ขออภัยฝากข้อความถึง แก้วประภัสสรด้วยนะ ครับ แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน ควรกรองกลั่นจากห้วงของดวงใจ บทนี้ใช้อะไรเป็นสื่อในการค้นคว้าล่ะ จำไว้ การเรียงร้อยถ้อยคำย้ำประเด็น อย่าทำเล่นผิดแผกแหกกฏไหน ควรยึดอย่างวางแนบตามแบบไทย แต่อย่าไร้อิสระเกินประมาณ บาทนี้ก็แจ้งชัดแล้วนะพิจารณาดูทุกๆอย่าง ต้องทำงานให้เป็นอิสระ มิฉนั้นประตูทางก็จะถูก ปิดทันที เกิดปมด้อยแทรกซ้อนแก่เรา จำไว้ แล้วบอกเจ้ากิ่งด้วยนะให้รีบมาเก็บความรู้ ไว้ ทุกอย่างขยายความในตัวเองเสร็จแล้วจ้า ขอบคุณยอดหญิงมากครับ ที่ผมขอใช้บ้าน สื่อถึงศิษย์ครับ อิอิ เมื่อกี้นี้ดีใจมากเลยลืม ด้านหลังชื่อซะเลย นี่แหละน๊าคนแก่จ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 กรกฎาคม 2552 17:49 น. - comment id 1017310
เห็นด้วยกับผู้ประพันธ์ครับ
21 กรกฎาคม 2552 18:04 น. - comment id 1017320
มาขอรับคำแนะนำนะครับ ส่วนจะปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงสุดแท้แต่พรสวรรค์อันน้อยนิด และพรแสวง...ที่น้อยมาก (สงสัยจะไม่พัฒนากะเขา) ถ้าผมบอกความนัยจริงๆ ผมชอบ บทกลอนของพี่ อัลมิตรา เป็นอย่างมาก เพราะผมถือว่า สุดยอดของสุดยอด แต่หากย้อนในอดีต หลายๆวันที่ผ่านมา ผมอาจไม่สร้างความประทับใจต่อพี่เท่าไร แต่ด้วยใจจริง หากสิ่งใดทำให้พี่ยังไม่พอใจ ผมต้องขอ อภัยเป็นอย่างยิ่ง แม้พี่จะไม่ให้อภัยก็ตามที ที่ผมเคยล่วงเกิน อย่างน้อยการบอกความนัย ก็ดีกว่าไม่บอก
21 กรกฎาคม 2552 18:32 น. - comment id 1017336
ดีค่ะ..คุณอัลมิตรา.. จะบอกว่า..ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอย่างถูกต้องสักเท่าไหร่ ต้องขออภัยไว้ที่นี้..ไว้จะปรับปรุง.. ในคราวหน้า..เหอ ๆ ๆ.. จะพยายามคร้า...
21 กรกฎาคม 2552 18:41 น. - comment id 1017345
แต่หากย้อนในอดีต หลายๆวันที่ผ่านมา ผมอาจไม่สร้างความประทับใจต่อพี่เท่าไร แต่ด้วยใจจริง หากสิ่งใดทำให้พี่ยังไม่พอใจ ผมต้องขอ อภัยเป็นอย่างยิ่ง แม้พี่จะไม่ให้อภัยก็ตามที ที่ผมเคยล่วงเกิน อย่างน้อยการบอกความนัย ก็ดีกว่าไม่บอก กวีน้อยเจ้าสำราญครับ 21 ก.ค. 52 - 18:04 IP 117.47.138.104 ศิษย์พี่ เธอเป็นคนมีเมตตา และเอ็นดูกวีน้อยเจ้าสำราญเสียด้วยซ้ำครับ สบายใจได้ครับ จริงไหมครับท่านศิษย์พี่
21 กรกฎาคม 2552 18:43 น. - comment id 1017346
ขอบคุณค่า น้องอัลมินตรา อยากแต่งให้ได้อารมณ์ศิลป์ และถูกต้องตามหลักด้วย บางทีก็ฝืดๆนะ อิอิ ต้องพยายามต่อไปค่ะ
21 กรกฎาคม 2552 19:59 น. - comment id 1017380
ก็ยากเหมือนกันที่จะสื่อได้อย่างที่ใจอยากสือ ที่ผ่านมาทำได้ไม่ดี ก็จะพยายามค่ะ ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
21 กรกฎาคม 2552 20:12 น. - comment id 1017390
ฉางน้อยไม่กล้าเขียนกลอนแระ เขียนกลอนทีไร ออกเป็นลูกบิดทุ๊กกกกที ( ทำได้เพียงเขียนกลอนเปล่า ) เซ็งห่าน อิอิ ........
21 กรกฎาคม 2552 20:26 น. - comment id 1017400
ขอบคุณบทกลอน..ที่เชิงชี้แนะ และเป็นแนว จักพยายามยิ่งอันจะต่อแตกผลิ กำจายด้วยใจกิ่งโศกครับคุณอัลฯ และขอบคุณครูแก้วด้วยครับ กิ่งโศกจำได้ในสิ่งที่ครูแก้วบอกไว้ครับ.จักนำแนว เพื่อมารีดเร้นจินตนาการ ของตัวเองครับ ..ชอบบทท้ายนี้ยิ่งครับคุณอัลฯ บนเส้นทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์ อันแจ่มจินตนาการวิญญานฝัน หากเพียงลากอักษรแค่คอนดัน ป่วยการจะประพันธ์เรื่องอันใด ...นีคือบทสรุปชี้แนะอย่างดีเลยครับ
21 กรกฎาคม 2552 20:56 น. - comment id 1017425
เห็นควรให้บทกลอนนี้เป็นบทกลอนโชว์ในหน้าแรกหลายๆวันเพื่อให้ได้ผ่านตา ผ่านใจ กันถ้วนทั่วครับ สมกับตำแหน่งยอดหญิงจากคุณแก้วประเสริฐจริงๆครับ มอบกุหลาบสวยๆให้ล่ะกัน อิอิ
21 กรกฎาคม 2552 21:42 น. - comment id 1017457
ขอบคุณในคำชี้แนะจากใจ
21 กรกฎาคม 2552 22:38 น. - comment id 1017487
แวะมาเยี่ยมและดูเส้นทางคับ
21 กรกฎาคม 2552 23:16 น. - comment id 1017505
นับเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของ เทียนหยด ที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิก ณ บ้านกลอนแห่งนี้ เหมือนกับว่าได้เข้ามาโรงเรียนอีกครั้ง...เพราะที่นี่ล้วนแล้วแต่มีปรมาจารย์ทางด้านการประพันธ์กลอนทั้งนั้น...ขอโอกาสผู้น้อยได้เรียนรู้ด้วยคนน๊ะค่ะ...
21 กรกฎาคม 2552 23:41 น. - comment id 1017519
น้อมรับค่ะ ทำให้ต้องกลับไปมอง กันเลยนะคะ
22 กรกฎาคม 2552 07:44 น. - comment id 1017565
ต้องจัดกลุ่มผู้ประพันธ์วรรณศิลป์ ในระดับศิลปินถึงขั้นไหน บ้างถึงขั้นศิลปินแห่งชาติไทย บางคนได้รางวัลตามงานวัด เราเป็นได้แค่เสนาไว้เก็บฉาก คอยดึงลากอักษรมาย้อนจัด หมดหนทางฝึกปรือให้สันทัด คงถูกคัดทิ้งออกนอกบ้านกลอน
22 กรกฎาคม 2552 07:51 น. - comment id 1017567
ชื่อไม่ติดเดี๋ยวหาว่าเป็นบัตรสนเทห์ อิอิ
22 กรกฎาคม 2552 09:47 น. - comment id 1017591
คุณแก้วประเสริฐ .. ที่ถูกต้องแล้ว ไม่ควรตั้งความหวังกับอัลมิตรานะ เพราะอัลมิตราไม่ได้อยู่ในสถานที่จะวางตัวให้เป็นครูสอนได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเทียบวิทยฐานะใด ๆ รวมถึงคุณวุฒิ ก็ยังไม่เข้าขั้นครู ไม่ได้ระดับอยู่ดี .. อีกอย่าง อาจจะทำให้ภาระที่แบกรับผิดชอบอยู่ กลายเพิ่มพูนทบทวีขึ้นเป็นอีกหลายเท่า แค่อัลมิตราอยากจะเขียนอะไรตามใจตัวเองโดยอิสระ ก็ยังจะต้องเว้นระยะประชิดขอบเลย ในขณะที่อัลมิตราแนะนำผู้อื่นให้ทำเช่นนั้น เช่นนี้ .. แต่ตัวเองกลับทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ในที่สุดแล้ว อัลมิตราก็จะเป็นตัวอย่างที่ใช้ไม่ได้เลย ค่ะ คุณแก้วประภัสสร .. สิ่งที่อัลมิตราเขียน คือสิ่งที่ถูกคัดกรองและถูกสั่งสอนมาอีกทอดค่ะ ซึ่งอัลมิตราคิดว่าอาจจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย ใครก็ตามที่เก็บเกี่ยวและนำข้อคิดไปใช้ ก็ถือเสียว่าเป็นเพราะความเอื้ออารีย์ของผู้ที่แนะนำสั่งสอนอัลมิตรามาอีกชั้นหนึ่งค่ะ และให้คิดว่า อัลมิตราเป็นแค่ผู้ประชาสัมพันธ์เท่านั้น ดีไหมคะ คุณอนงค์นาง .. :) ยังมีบรรยายโวหาร กับ สาธกโวหารอีกนะคะ คุณกุหลาบขาว .. อัลมิตราแค่ถ่ายทอดนะคะ ทั้งหมดนี้เกิดจากการสั่งสมค่ะ ศิษย์น้อง .. :) มาทานลูกชุบกันมั๊ย .. ตอนนี้เรากำลังแอบเอาขนมซ่อนไว้ในลิ้นชักน่ะ คุณกวีน้อยฯ .. อัลมิตราก็เฉกเช่นปุถุชนธรรมดา มีผิด มีถูก และก็ไม่ได้อยู่ในฐานะคนที่ควรถูกยกเว้นให้เห็นแต่ถ้อยคำในเชิงบวกเพียงด้านเดียว ดังนั้น ทุกความคิดเห็นที่ใครก็ตามเขียนลงมา อัลมิตราอ่านด้วยความตั้งใจเสมอค่ะ คุณหมอนอิง .. :) แค่คำว่าพยายาม ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีแล้วค่ะ ศิษย์น้อง .. ตกลงนอกจากลูกชุบแล้ว คงหวังเกสรลำเจียกด้วยสิ .. ฮา คุณกันนาเทวี .. อัลมิตราก็จะพยายามเช่นกันค่ะ คุณใจปลายทาง .. ไม่กล้าบอกว่าแนะนำเลย อยากบอกว่า อัลมิตราแค่หยิบมาเขียนเท่านั้นดีกว่าค่ะ คุณฉางน้อย .. เขียนเรื่องเล่าได้ดีอยู่แล้วนะ คุณกิ่งโศก .. บนเส้นทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์ มิสูญสิ้นแนวทางการสร้างสรรค์ ใช่เพียงแค่ถ้อยคำคอยรำพัน แต่ควรกลั่นจากห้วงของดวงใจ คำนึงต่อข้อความต้องงามสวย วางเรื่องช่วยเรียงงานก่อนขานไข พึงสำรวจตรวจสอบรอบด้านไป ธำรงไว้รูปลักษณ์หลักวิชา ทั้งสัมผัสจัดส่งตรงจริต ร่ายลิลิตโคลงฉันท์หมั่นศึกษา กาพย์กลอนกลบทพจนา ให้สมค่าควรชมนิยมจริง ฉันทลักษณ์หลักการในงานศิลป์ ประทับจินต์เจตนามีค่ายิ่ง เป็นรากฐานแนวทางไว้อ้างอิง โดยไม่ทิ้งครรลองลืมของไทย ขอเพียงคิดนิดหนึ่งแล้วพึงสร้าง ว่าเกิดอย่างมีค่าดีกว่าไหม เพื่อภาพพจน์งดงามติดตามไป จักทุ่มใจในจารการประพันธ์ มอบแก่นสารผ่านธรรมนำชีวิต มอบความคิดไกลกว้างอย่างสร้างสรรค์ มอบความจริงสิ่งสร้างต่างกำนัล ให้วงวรรณสดสวยเกิดด้วยใจ. คุณกุ้งกุหลาบ .. ซะงั้นเชียว คำว่ายอดหญิงเนี่ยไม่ชอบเลย มันเหมือน hero wonder women อย่างไง ก็ไม่รู้ .. แปลงกาย ปล่อยแสงได้อ่ะ คุณบุญเกื้อ .. ขอบคุณที่แวะมาอ่านเช่นกันค่ะ คุณวิทย์ .. ต้องดูทางหนีทีไล่ด้วยนะคะ เส้นทางลัดก็มีนา คุณเทียนหยด .. ที่เวปนี้มีผู้มากความสามารถหลายคนค่ะ ซึ่งคุณสามารถขอคำแนะนำหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ สำหรับอัลมิตรา เป็นผู้รับใช้ในเวปค่ะ ทำงานทั่วไป เก็บกวาดบ้าง จัดเก็บบ้าง บางทีก็นึกสนุกเขียนกลอนบ้าง ประมาณว่าทำหลายอย่างหลายเรื่องแต่เอาดีไม่ได้สักอย่างสักเรื่องค่ะ :) คุณปรางทิพย์ .. ที่จริงแล้ว เขียนเรื่องนี้ก็เสียงโดนอิฐ โดนหิน เหมือนกันนะเนี่ย คุณฤกษ์ .. ขอถ้อยคำนำวางจงสร้างสรรค์ ขอประพันธ์เพื่อชนอันหม่นหมอง ขอหัวใจความคิดตรงจิตครอง ขอครรลองงามที่วิถีไทย ให้เกิดความแปลกใหม่ในเสนอ ให้บำเรอคนทุกข์สร้างสุขใส ให้ผู้เสพงานสร้างอย่างวางใจ ให้สยามยองใยในกวี ขอภาพพจน์เพียงน้ำอันฉ่ำชื่น ขอจุดยืนเที่ยงจารกานท์วิถี ขอวิญญาณดาลหมดจรดวจี ขอวางศรีแก่นสารในกานท์กลอน ให้เกิดความเคลื่อนไหวในความนิ่ง ให้ความจริงผุดพร่างหว่างอักษร ให้ซึ้งซาบภาพพจน์ทุกบทตอน ให้สะท้อนสัจจธรรมนำชีวิต
22 กรกฎาคม 2552 09:54 น. - comment id 1017594
หวัดดีคับ...คุณอัลฯ ชวนคิดอีกแล้ว.... ขอคิดด้วยคนนะ...ขอรับ... การประพันธ์บทกวี...ให้ดีเลิศ ใช่บังเกิดได้ตาม...นิยามฝัน ต้องศึกษา...อักขรา...ค่าประพันธ์ โดยมุ่งมั่น...พลันค่า...สง่าชม บางคน...ก็ได้....บางคนก็ไม่ได้... ผมมองว่า...เพื่อนๆ...เข้าบ้านกลอน ส่วนใหญ่เหงา...อยากได้อรรถรสแห่งมิตรา... และเพียงว่าบ้านกลอน...ก็ยินดีต้อนรับ...ทุกผู้ทุกนาม...อยู่เป็นนิจ... เราจึงได้เห็น...ผลงานที่ดีเลิศ...ดี..พอใช้..และ.....เพิ่งเริ่ม... และคิดว่าทุกท่านก็คงทราบ...ว่า...ฝีมือการเขียน...และระดับของตนอยู่ในระดับใด... โดยทั่วไป...ผมเห็นว่า...หลายท่านมีการพัฒนา...ที่ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ... บางท่านก็ทรงตัว....อยู่ที่ระดับหนึ่ง... ซึ่งแสดงว่า...ทุกๆท่านคิด...ตามที่คุณอัลฯเสนอกลอนชุดนี้...อยู่เสมอ... หากแต่เพียงว่า...ขาดผู้ที่เป็นผู้รู้มาชี้แนะ... ข้อบกพร่อง..ในข้อบังคับและฉันทลักษณ์.... ก็อย่างที่กล่าวแหละครับ...จะให้ไปศึกษา เพิ่มเติม...ก็คงทำได้แต่น้อย...และอาจติดอยู่ในเงื่อนของเวลา.... ดังนั้น ...ถ้าจะเป็นการดี...ถ้าจะมีผู้รู้(อย่างเป็นทางการ..)จากเวปบ้านกลอน...คอยตรวจตรา ชี้แนะ...เสนอข้อควรศึกษา.เพิ่มเติมแก้เพื่อน สมาชิก....เพื่อให้มีการปรับปรุงการเขียน ให้ดีขึ้น....ทั้งนี้...ผู้ที่เป็นมิตรรักที่เข้าเยี่ยม ชม...ผลงาน..ก็จะได้รับความรู้จากคำชี้แนะนั้นไปด้วย...ได้... อันนี้...ก็ไม่รู้...ว่าทางเวปมาสเตอร์...มีแนวทาง..อย่างไร...ไว้บ้างแล้ว.... ก็แค่หวังว่า...เวปมาสเตอร์...คงจะได้อ่านข้อเสนอแนะ....นี้...นะขอรับ... สำหรับ...คุณอัลฯ...กลอนบทนี้...นับถือๆ...เยี่ยมมาก...ขอรับ...
22 กรกฎาคม 2552 10:25 น. - comment id 1017605
สบายดีหรือเปล่า...อิอิ ไม่ค่อยได้แวะมาเขียนเลย...แต่ก็ยินดีรับฟังน่ะ เก็บตังค่าอ่านหรือเปล่า...ถ้าเก็บอย่าเยอะน่ะ ตัวเอง...
22 กรกฎาคม 2552 11:12 น. - comment id 1017624
คุณ kirati .. เปรียบไปแล้ว กาพย์ ฉันท์ โคลง กลอน ก็เหมือนกับประดาอาหาร ซึ่งอาหารที่ใครต่อใครบอกว่าเลิศล้ำแสนอร่อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครชอบรสชาติแบบไหน บางคนชอบอาหารเลิศหรู แต่ละชิ้น แต่ละคำ ชอบการประดิษฐ์ประดอยแกะสลัก บางคนชอบอาหารง่าย ๆ แค่ห่อใบตอง ใบบัว ก็สามารถเปิบด้วยมืออย่างเอร็ดอร่อยแล้ว บางคนชอบบรรยากาศในการกิน ถึงอาหารไม่ได้เรื่องเลยก็ไม่เป็นไร แต่บรรยากาศช่วยให้เจริญอาหารดี บางคนชอบอาหารด่วน เพราะมีเวลาไม่มาก การทานอาหารจึงเหมาะสมกับระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด อาหารเอง ก็มีหลากหลาย คาว หวาน ขนม ผลไม้ ........ เวลาที่อัลมิตราเขียนกลอน อัลมิตรามักนึกถึงข้าวราดแกงเขียวหวานทันที เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะว่า ร้านไหน ๆ ที่เป็นร้านข้าวแกง มักจะมีแกงเขียวหวาน ฮา .. นาน ๆ นึกจะเขียนอะไรที่วิจิตรพิศดาร แต่นั่นก็ต้องหมายความว่า ต้องบรรจงงานสร้างจริง ๆ การทุ่มเทอย่างนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เพราะอัลมิตราเองก็ยังต้องแบ่งเวลาให้กับตัวเองเหมือนกัน มีงานอยู่หลายชิ้น จั่วหัวตั้งใจไว้นานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เขียนสักที มันเหมือนยังไม่ถึงเวลาเขียน อยากรู้มั๊ย งานอะไร ? ถึงไม่อยากรู้ อัลมิตราก็อยากจะบอกล่ะ ฮา .. "สุวรรณภูมิ" .. อัลมิตราตั้งใจจะเขียนเป็นดิลกวิเชียรฉันท์ ก็ตั้งแต่ปี 49 แล้ว ที่ยังค้างเติ่งอยู่แค่ชื่อฉันท์ และเป็นงานที่ยังคงติดค้างอยู่ในความรู้สึก ไม่แน่นะ ถ้าอัลมิตรายังไม่รีบตายซะก่อน งานชุดนี้ก็อาจจะเสร็จสมบูรณ์สักที .. วกมาถึงเรื่องที่คุณเสนอแนวคิดไปยังเวปมาสเตอร์ .. pheerakarn@gmail.com,pheerakarn@hotmail.com อัลมิตราเป็นแค่คนรับใช้ในเวป ถ้านายบ้านมอบหน้าที่ให้ทำอะไร อัลมิตราก็ทำตามนั้นค่ะ :) แต่ถ้าถามความคิดเห็นของอัลมิตรานะ .. คำตอบ ก็คงอยู่ในบรรทัดต้น ๆ ค่ะ ใครชอบอย่างไหน ก็ให้ไปหาคนปรุงอาหารแบบนั้น แล้วก็ขอคำแนะนำ ฝากเนื้อฝากตัวกันไป ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะกล้าเข้าไปหา และ อีกฝ่ายจะยินดีตอบรับอย่างไรค่ะ เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะอัลมิตราไม่สามารถไปกะเกณฑ์ให้ใครรับหน้าที่เป็น กูรู ได้อย่างไม่มีเงื่อนไขค่ะ :) คุณครูกระดาษทราย .. ย้ำหยดหมึกตรึกตรองพ้องอักษร เป็นกาพย์กลอนฉันท์โคลงบ่งศักดิ์ศรี เปล่าเปรื่องปราดช่ำชองพ้องเมธี เรา...ผู้ที่หัดเขียนเลียนแบบครู คุณกุ้งหนามแดง .. สบายดีจ้า เสาร์นี้จะไปปั่นจักรยานที่สุโขทัยนะ จะได้ไปเที่ยวโบราณสถานด้วยล่ะ
22 กรกฎาคม 2552 13:00 น. - comment id 1017658
จะพยายามค่ะ
22 กรกฎาคม 2552 14:52 น. - comment id 1017697
@อินทรีย์ศรีอักษร จะใฝ่คว้าเดือนดารามาลาห้อย มาร่วมร้อยเคียงดาวมณีสรรค์ เป็นเส้นทางวรรณศิลป์มอบกำนัล น้ำค้างพรรณหยดย้อยช้อยงดงาม มารำพรรณพรรณาเป็นเชิงอรรถ คิดตรรกทัศนาหลากล้นหลาม อักขราสวยหรูบ่งบอกความ ชั่วดีทรามต่ำช้าน้ำใจคน อักขราภาษาศิลป์กวียอด ไม่เข้นขอดโยกย้ายเสียหลายหน สำนวนงามนามไพเราะไม่วกวน นรชนถ่องแท้แดนกวี เปรียบวิหกผกผินเหินเวหา ผงาดฟ้ามองไกลไล้ภูผา เป็นอินทรีย์ศรีอักษรนครา เหนือท้องฟ้าผงาดอยู่ไม่รู้ลืม ฝากบทกลอนไว้ด้วยครับ
22 กรกฎาคม 2552 15:35 น. - comment id 1017710
คุณเฌอมาลย์ .. ก็คงเหมือนกับการฝึกใจอะนะ มาพยายามกันค่ะ คุณวิชัย .. ขออนุญาตฝากกลอนหกให้อ่านแก้ง่วงยามบ่ายค่ะ ร้อยกรองรายกรอบรอบกั้น แท้นั้นเน้นเพื่อเนื้อหา จังหวะจัดวางสร้างมา ลีลาผสานผสมกลมกลืน เรียบเรียงอารมณ์บ่มร่ำ ความนำคำทยอยรอยคลื่น แพรวพราวผ่องผุดจุดยืน ไหลลื่นลึกล้ำคำคม พากเพียรเขียนคิดประดิษฐ์ถ้อย ใช่พล่อยพลั้งเผลอเพ้อผสม คุณค่าราคาแล้งลม ควร ฤๅ ชื่นชมเชิดชู ร้อยกรองก่ายกองตรองตั้ง ร้อยครั้งอรรถรสอดสู ร้อยเรื่องหลากหน้าพาดู ร้อยรู้ ฤๅ ครึ่งหนึ่งทำ
22 กรกฎาคม 2552 22:37 น. - comment id 1017893
๐ คนรักกลอนตอนนี้มีหลายแบบ บ้างมาแอบตามอ่านงานสร้างสรรค์ อ่านทุกบทพจนาสารพัน เพื่อปลอบฝันวันเหงาใต้เงาใจ ๐ บ้างก็มีที่เม้นท์เห็นอยู่บ้าง มิอำพรางตอบถ้อยคอยอาศัย อ่านจบบทรจน์ชอบก็ตอบไป ไม่คิดไกลเขียนเฟื่องเป็นเรื่องราว ๐ มีบางพวกเฝ้าเขียนวนเวียนหวัง เพื่อประทังใจตนวันหม่นหนาว หรืออยากร่ายหมายบ่งบอกเรื่องราว ระยะยาวมิไช่หวังได้ดี ๐ มีเพียงน้อยคอยหวังตั้งใจหมาย หวังผลร่ายกลอนกลบนวิถ๊ เฝ้าฝึกเพียรเรียนหวังดังกวี มุ่งชีวีตั้งใจในกาพย์กลอน ๐ คำแนะนำงามล้ำเกินกำหนด อาจงามงดว่าใครที่ได้สอน กับบางกลุ่มแม้ใจใฝ่อาทร หากบทกลอนเหมือนเฆี่ยนเจ็บเจียนตาย ................... ด้วยมิตรไมตรี %1 %
22 กรกฎาคม 2552 23:19 น. - comment id 1017906
คุณเขียนกลอนดีนะ เข้าใจหยิบปรัชญามาเรียงร้อย เก่งนะครับ แสดงความรนับถือ
23 กรกฎาคม 2552 10:10 น. - comment id 1018050
คุณกุลา .. เราผู้เขียน..เส้นทางวรรณศิลป์ ใช่ดูหมิ่นหยามเยาะปากเปราะถาง แม้นใครเจ็บเจียนตายคล้ายระคาง ขอเชิญวาง.. อย่านำไปช้ำใจ เราผู้เขียน..เทียบชาติเฉกปาดน้อย ตัวเล็กจ้อยคราวเทียบเปรียบปราชญ์ใหญ่ หากถ้อยเขียนเฆี่ยนฆ่ามัวช้าไย ยื่นดาบให้ประหารบนลานกลอน คุณรำจวน .. คุณก็เช่นกันนะ ที่จริงแล้วสิ่งที่คุณเขียนก็มีอะไรมากมายในนั้น
23 กรกฎาคม 2552 18:31 น. - comment id 1018276
ทุกคำกลอนนั่น่งคืองานศิลป์ ที่โบยบินตามกวีได้ใฝ่ฝัน มิใช่เพียงร้อยเรียงคำเพื่อรำพัน แต่เน้นย้ำจิตวิญญาณจินตนา จะเส้นทางหนใดในวรรณศิลป์ ก็กว้างเกินผืนดินและผืนฟ้า ในเส้นทางอันหอมหวนแห่งอัษรา จักศึกษาสรรพวิธีในเส้นทาง น้อมรับคำแนะนำ และจะนำไปปรับปรุงครับ
23 กรกฎาคม 2552 21:52 น. - comment id 1018349
คุณ ..Darkness_Hero การเรียงร้อยถ้อยคำย้ำประเด็น อย่าทำเล่นผิดแผกแหกกฏไหน ควรยึดอย่างวางแนบตามแบบไทย แต่อย่าไร้อิสระเกินประมาณ เฉกยึดมั่นสรรค์สร้างต้องอย่างนี้ กลวิธีรูปพรรณทรงสัณฐาน แท้ควรคัดจัดเพราะเหมาะเหตุการณ์ จงเชี่ยวชาญเลือกบทเลือกรสกรอง
27 กรกฎาคม 2552 17:45 น. - comment id 1020091
แวะมาชมครับ