หากจะผกโผบินดั่งหนึ่งนก หากเหาะเหินดั่งวิหกสู่ห้วงหาว สูงลิบลิ่วไปเทียมจันทร์ตะวันดาว คงเหน็บหนาวน่าดูอยู่สูงนัก เคยลองแหงนหน้ามองบนยอดไม้ สูงขึ้นไปสิบวาตาประจักษ์ ก็ลองป่ายปีนปลายแทบตายชัก ได้สักพักแลลงมาแทบบ้าตาย ปีนขึ้นต่อก็ไม่ไหวใจมันสั่น หนักกว่านั้นมองลงมามันใจหาย มันหวิวหวิวว้าวุ่นกระวนกระวาย เหงื่อเม็ดโป้งโซมกายแทบไร้แรง ค่อยค่อยไต่ลงมากว่าจะถึง ตอนอยากขึ้นปีนประหนึ่งความเร็วแสง แต่ตอนลงสิลำบากอยากตะแบง เพราะเรี่ยวแรงมีเท่าไหร่ก็ไร้ร้าง แต่หากสูงระดับนกโบกโบยบิน คงได้กลิ่นหวาดผวามาห่างห่าง เพราะทั้งสูงทั้งเยียบเย็นเป็นเคว้งคว้าง คงไม่ต่างปีนต้นไม้เท่าใดนัก เดินแล้วล้มท่ามกงล้อก็ดีอยู่ ได้ฝึกรู้วิธีลุกไม่ทุกข์หนัก แต่หากบินแล้วหล่นมาน่ากลัวนัก แข้งขาหักมากกว่านั้นก็ไม่รู้
11 มีนาคม 2552 13:41 น. - comment id 961526
นำดอกไม้มาให้ก่อนแล้วจะแวะมาใหม่นะ
11 มีนาคม 2552 13:58 น. - comment id 961534
แวะมาทักทายอ่านกลอนเพราะๆค่ะ กลอนคู่หรือเปล่าคะ เขียนได้ดีมากค่ะ
11 มีนาคม 2552 14:49 น. - comment id 961540
เคยตกต้นไม้หน้าบ้านแล้วเบ็ดเกี่ยวปากแหว่งเลยครับนิก ปีนต้นไม้ไม่ค่อยเก่งเลยครับ
11 มีนาคม 2552 15:15 น. - comment id 961561
ก้าวที่...กล้า ขอบคุณสำหรับดอกไม้ ขอบคุณสำหรับกลอนนำบทนั้นด้วยนะครับ เพราะกลอนบทนี้ต่อยอดมาจากคุณ แก้วประภัสสร ไม่ใช่กลอนคู่หรอกครับ เป็นกลอนแปดธรรมดา ถ้ามีเวลาจะแว๊บมาเขียนบทเพราะกว่านี้ให้อ่าน อย่าเลี่ยนก่อนก็พอ อิอิ กานต์ ตอนนี้แผลหายแล้ว บทเรียนล้ำค่าคงทำให้กานต์ไม่ซนแบบนั้นอีกแล้วเนาะ อย่าเจ็บแบบนั้นอีกนะครับ
11 มีนาคม 2552 15:28 น. - comment id 961573
ความสูงไม่กลัวนะค่ะ แต่ก็ไม่ขอตกดีกว่าค่ะเดี๋ยวมันจาเจ็บแน่ะ....
11 มีนาคม 2552 15:35 น. - comment id 961579
whitelily คุณรี ตอนผมยังไม่ปีนต้นไม้ผมก็ไม่กลัวความสูงเหมือนกันครับ อิอิ ไม่ตกดีแล้วแหล่ะ ถ้าตกมา ต้องซ่อมอีกรอบ ซัมเมอร์ที ไม่ได้ไปจัดกิจกรรมต่างจังหวัด เพราะตกแล้วมัวซ่อมกันนี่แหล่ะครับ เอ๊ ! ใช่ตกอันนี้รึเปล่าคับ
11 มีนาคม 2552 16:50 น. - comment id 961641
เคยแต่ฝันว่าตกจากที่สูง สะดุ้ง ผวาตื่นเลยค่ะ ที่แท้ตกเตียง พวกแก๊งค์เจ้าจอมมารวมตัวกันทำไรที่บ้านนี่เนี่ย
12 มีนาคม 2552 00:56 น. - comment id 961818
เฌอมาลย์ โห ฝันแล้วหล่นเตียงแบบนั้น คงกลับไปหลับต่อไม่ไหวแล้วหล่ะครับ วิธีป้องกันการตกเตียงต้องล่ามโซ่ เอ้ย ต้องลงมานอนที่พื้น พื้นอ๊อกซิเจนมากกว่าบนเตียงถึงจะห่างกันไม่กี่ฟุต คนที่นอนพื้นส่วนใหญ่ถึงตื่นไวกว่าคนนอนบนเตียงดูก็ได้ แฮ่ม ! ว่าแต่ไปทำอะไรให้คนที่นอนข้าง ๆ โกรธหรือหมั่นไส้รึเปล่าเนี่ย แก๊งค์ที่ว่านี่ เป็นแขกพิเศษของอินทรีน้อยเชียวนะ อิอิ ดึกแล้วหลับฝันดีคับ
12 มีนาคม 2552 08:59 น. - comment id 961890
หากว่าฉันบินเคลื่อนได้เหมือนนก ก็จะหกเหินฝันท่ามวันผ่าน- สายลมล้อเกรียวกรูมิรู้ลาญ อยู่กับกาลเวลาอันท้าทาย หากว่าฉันผกผินทั่วถิ่นฟ้า จะเสาะหาดัชนีเป็นที่หมาย จะเกาะเกี่ยวเรียวนั้นจนวันตาย มิให้สายสัมพันธ์ได้ผันแปร เพราะว่าฉันบินไม่ได้ดั่งใจคิด จึงเพียงจึงใกล้ชิดสนิทแค่- ฝันในฝันร้อยสรวงกับดวงแด เป็นหนึ่งเดียวหนึ่งแท้อยู่แค่นั้น เพราะว่าฉันยังเดินล้มท่ามกงล้อ ที่หมุนต่อเวลากาลแล้วผ่านผัน ฟ้าท้องฟ้าจึงเลือนรางเหมือนทางตัน เพียงเพราะเพียงใจฉันไหวหวั่น-ร้าว ตอนเขียนบทนี้ ความรู้สึกหนักอึ้งจนบอกไม่ถูกเลย และ.. ครวญคำพร่ำพ้อคงพอแล้ว เสียงแผ่วโอดอ้อนยามอ่อนไหว เพียงครั้งร่องรอยรอคอยใจ เผยผ่านมาให้จารไว้จำ ปรารถนาอื่นใดคงไม่มี ตราบที่โหยไห้หัวใจถลำ จ่อมจมรู้สึกจารึกคำ น้อมนำความเคลื่อนลงเปื้อนปน หลงคว้างกลางวิถีของลีลา พรายพร่าพ่ายพรับให้สับสน ส่งจิตสั่งใจแกว่งไหวจน- ร้อนรนหม่นหมองครอบครองไว้ ครวญคำพร่ำพ้อคงพอแล้ว ผ่องแผ้วรู้สึกลึกลึกได้- บ่งบอกความหมายจากภายใน หัวใจหวงแหนด้วยแสนรัก ตอนเขียนบทนี้ ความรู้สึกหนักอึ้งนั้นได้สูญสลายไปแล้ว ยินดีนะ ที่เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้ได้
12 มีนาคม 2552 11:53 น. - comment id 962004
ก้าวที่...กล้า ขอบคุณที่วางสิ่งที่หนักอึ้งลงได้ ขอบคุณดอกไม้เป็นกอบเป็นกำ ผมชอบกลอนคุณแบบไม่มีเหตุผลจริง ๆ ครับ ไม่รู้สิ