๑.ไอ้จุกวิ่งหน้าตั้งมานั่งหอบ แล้วดึงขอบชายเสื้อเช็ดเหงื่อไหล หลวงพ่อนั่งสมาธิกุฏิใน ก็ตกใจเสียงไอ้จุกที่ลุกลน ๒.เปิดประตูออกมาเห็นหน้าศิษย์ หลวงพ่อคิดถึงเจตน์และเหตุผล จึงนั่งลงที่เหมาะเฉพาะตน มิพร่ำบ่นแต่กลับคอยรับฟัง ๓.ตะกี้จุกเห็นทางลุงข้างบ้าน ลงไปคลานดิ้นรนเหมือนคนคลั่ง ร้องมอมอเหมือนวัวน่ากลัวจัง จุกหันหลังหลับตาไม่กล้ามอง ๔.สักครู่จึงดูเหมือนหยุดเคลื่อนไหว หรือแกหยุดหายใจจึงไม่ร้อง น้ำลายไหลเยิ้มเหม็นอยู่เป็นฟอง ตาลุกพองเบิ่งอ้าอย่างน่ากลัว ๕.จุกขอถามหลวงพ่อพอรู้ไหม ตอนหนุ่มใหญ่แกทำแต่กรรมชั่ว ชอบเชือดไก่จับปลาชอบฆ่าวัว ตอนนี้ตัวตายไปอยู่ไหนกัน ๖.หลวงพ่อยิ้มชอบใจตอบไอ้จุก แกรับทุกขเวทนาก่อนอาสัญ อาจเกิดเป็นสัตว์นรกตกโลกันตร์ อยู่ในนั้นทรมาณเป็นล้านปี ๗.จุกฟังยิ่งสนใจถามใหม่ว่า ยังงี้ถ้าคนตายใช่รายนี้ ถ้าเป็นคนเคยทำแต่กรรมดี อยากรู้ที่เกิดบ้างดูอย่างไร ๘.คนย่อมทำดีบ้างทั้งสร้างบาป ยากจะทราบชาติเกิดกำเนิดใหม่ ภาพนิมิตติดจินต์ก่อนสิ้นใจ ย่อมบอกใบ้ให้รู้ทุกผู้คน ๙.จะเห็นภาพแต่หลังเหมือนหนังฉาย ภาพสุดท้ายที่เห็นจะเป็นผล จึงสุดรู้สุดคาดถึงชาติตน แต่ฝึกฝนเลือกได้และง่ายทำ ๑๐.ถ้าเห็นภาพไฟฟอนเหล็กร้อนฉ่า สัตว์เคยฆ่าย่างกรายหมายขย้ำ จนหวาดกลัวร้องกรีดดั่งมีดตำ ย่อมดิ่งล้ำลงนรกไฟลุกแรง ๑๑.ถ้าเห็นภาพข้าวลีบรวงกลีบหล่น ถ้ำมัวหม่นมืดดับและอับแสง จะเป็นเปรตเวทนานัยน์ตาแดง ลำคอแห้งดั่งทรายกระหายน้ำ ๑๒.ถ้าเห็นภาพทุ่งหญ้าและป่ากว้าง เห็นม้า ช้าง กวาง ฯลฯ เล่นลมเย็นฉ่ำ จะเกิดเป็นเดรัจฉานจากฐานกรรม นิมิตย้ำภาพสัตว์อย่างชัดเจน ๑๓.ถ้าเห็นภาพเนื้อเหมือนว่าเคลื่อนไหว ก้อนหัวใจในครรภ์ที่มันเต้น จะเกิดเป็นคนใหม่ไปสร้างเวร หรือเลือกเป็นคนดีอยู่ที่เรา ๑๔.ถ้าเห็นภาพเทวดาและปราสาท รุกชาติงดงามไร้ความเศร้า จะเป็นเทพมีวิมานอยู่นานเนา ไม่แก่เฒ่าบนสวรรค์ตราบวันตาย ๑๕.ถ้าเห็นพระพุทธองค์ผู้ทรงฤทธิ์ อรหันต์สานุศิษย์ทุกทิศสาย เบื่อขันธ์เบือนเรือนร่างที่วางวาย ย่อมเกิดกายเป็นทิพย์อยู่นิพพาน ๑๖.ไอ้จุกฟังทุกข้อหลวงพ่อตอบ จึงถามสอบเพื่อแยกให้แตกฉาน ถ้าก่อเวรเข่นฆ่ามาช้านาน ก่อนวายปราณเปลี่ยนพับโจรกลับใจ. ๑๗.เอ็งไม่ต้องถามต่อหลวงพ่อรู้ เรื่องที่อยู่หลังตายแล้วใช่ไหม มีธรรมเนียมน่าสนของคนไทย คนสมัยก่อนเล่าให้เราฟัง ๑๘.ถ้าใกล้ตาย..มองพระพุทธ ผู้ผุดผ่อง เขาให้ท่อง สัมมา อะระหัง สมัยนี้ละทิ้งไม่จริงจัง สิ่งปลูกฝังยายย่าก็ว่าเชย ๑๙.ถ้าเราท่องภาวนา จำหน้าพระ ก่อนเราจะสิ้นใจไปเฉยเฉย โอกาสไปอเวจีไม่มีเลย และไม่เคยมีใครไม่ไปดี ๒๐.จะเกิดบนสวรรค์แม้ชั้นต่ำ ถึงก่อกรรมฆ่าสัตว์ทำบัดสี แต่อารมณ์ก่อนสิ้นชาติอินทรีย์ แหละบ่งชี้ที่เกิดดังกล่าวมา ๒๑.แต่ว่ากรรมทั้งหลายไม่หายสาป ที่สร้างซ้ำทำบาปจนหยาบหนา เมื่อหมดสิ้นผลหนุนจากบุญญา ย่อมมุ่งหน้านรกร้อนกลางฟอนไฟ ๒๒.ไอ้จุกเอ๋ย..ถ้าใครที่ใกล้ดับ หูเลิกรับรู้เสียงแม้เพียงไหน แม้แต่ภาพพระรัตนตรัย แม้แต่ใครมาฉุดท่องพุทโธ ๒๓.ภาพทุกภาพถึงเวลาย่อมปรากฏ เรากำหนดไม่ได้ไม่ให้โผล่ จะจนรวยแค่ไหนหรือใหญ่โต ไม่พ้นโซ่ตรวนกรรมที่ทำเวร ๒๔.พระพุทธองค์จึงตรัสดำรัสไว้ ให้ตั้งใจทำดีอย่ามีเว้น ลดละบาปไม่ทำแม้จำเป็น หมั่นบำเพ็ญภาวนาเป็นอาการ ๒๕.ถ้าจิตติดภาวนา..ก่อนลาลับ จิตจะจับท่องจำถ้อยคำขาน เสียง สัมมา อะระหัง จะกังวาน ในดวงมานเรารู้เพียงผู้เดียว ๒๖.จะลอยลิบสู่ทิพยสถาน อาจนิพพานสำเร็จถ้าเด็ดเดี่ยว เป็นความจริงแน่แน่โดยแท้เทียว ข้าถึงเคี่ยวเข็ญจุกอยู่ทุกวัน ๒๗.จุกก้มกราบหลวงพ่อ จุกขอโทษ อย่าได้โกรธที่ว่าจุกก๋ากั่น จะหมั่นท่อง พุทโธ เป็นโล่กัน จะสวดมนต์อย่างขยันจุกสัญญา ๑๓ มกราคม ๒๕๕๒
13 มกราคม 2552 17:42 น. - comment id 935474
ผลงานงดงามทางจิตวิญญาณ ที่จะยังประโยชน์ให้เราทุกคน ไม่ประมาทกับชีวิตค่ะ ด้วยรักชื่นชมค่ะ
13 มกราคม 2552 17:48 น. - comment id 935480
ที่สุดเลยค่ะ เคยอ่านแบบนี้เหมือนกันค่ะ ในหนังสือ กรรม อะคะ เก่งมากๆ เลย นับถือจริงๆ นะคะ ที่ถอดความมาได้แบบนี้ อ่านและเข้าใจง่ายดีจังเลยค่ะ
13 มกราคม 2552 17:51 น. - comment id 935482
แวะมาอ่านพอดี ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่วรรคสุดท้ายของบทสุดท้ายพิมพ์ผิดมั้ย หรือตั้งใจหว่า .. สวมมนต์... หรือ...สวดมนต์
13 มกราคม 2552 17:54 น. - comment id 935486
บุญเหนือโลกย์ลบโศกราน! http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72 (หนึ่งในร้อย) ............... บุญเหนือบุญคือการรู้จักตนเอง ไร้บทเพลงบรรเลงทุกข์สุขฤาเหงา บุญเหนือบุญใช่วิมานฝันสวรรค์เงา บุญของเราหยุดคิดได้ไร้เศร้าใจ.. บุญอยู่ไหนถามใครอยู่ในนี้ ที่จิตดีจิตว่างกระจ่างใส บุญแบบนี้เรียกว่านิพพานใจ อย่าสงสัยรอแสนชาติคลาดค้นพบ.. ที่เราทุกข์นักหนาเพราะความคิด หลงยึดติดยึดมั่นกิเลสกลบ สร้างบุญญาบารมีเลิกคิดลบ ก็จะพบใจว่างกระจ่างงาม... หากแสนยากหยุดคิดติดฟุ้งซ่าน อุปาทานมากมายคล้ายขวากหนาม ลองหยุดนิ่งรู้หายใจในทุกยาม เฝ้าติดตามปราณพรูรู้เท่าทัน.. สั้นหรือยาวเคล้าหยาบฤาละเอียด ค่อยมาเบียดความคิดจิตเพ้อฝัน พบมหัศจรรย์ว่างวางพร่างปิติพลัน ไร้สวรรค์ฤานรกตกต้องใจ.. รจนาภาษาเรียบง่ายจึ้ตรงจุด สู่วิมุตติหลุดพ้นกว่าคำไหน ตายก่อนตายหยุดคิดได้สว่างใจ ไม่วาบไหวหวั่นหวามตามโลกย์รัก.. หลวงพ่อเทียนนำทางธรรมสั้นกระชับ รู้รำงับจับอิริยาบถให้รู้จัก ความเคลื่อนไหวช้าช้าพาจิตพัก หยุดทุกข์หนักทุกข์หนาพาพบธรรม.. คือ.กุศโลบายให้จิตจ่อ เพียรอย่าท้อรู้ฝึกทุกคืนค่ำ ยามใดเหงาเหว่ว้าวิบากกรรม จงเพียรทำไร้น้ำตาหาใครมาปลอบใจ.. เพราะผู้ใดไหนเล่าจะช่วยเจ้า หลุดพ้นเศร้าดายเดียวยามวูบไหว เจ้าต้องอยู่กับเงาร้าวเปล่าเปลี่ยวใจ ตราบสิ้นลมหายใจใครไปด้วยช่วยบอกที.. มาลำพังไปลำพังอย่าเขลาโง่ จงรีบโผล่บัวพ้นน้ำงามศักดิ์ศรี ฝึกหยุดคิดนิมิตหมายนะคนดี นิพพานที่นี่เดี่ยวนี้สิพบว่างกระจ่างใจ.. ณ..โลกนี้นาทีนี้ใช่โลกหน้า เลิกเหว่ว้าลืมทางพรางหวั่นไหว ไม่มีเขาเราอยู่ได้นะดวงใจ เพราะจิตใสสิ้นทุกข์ได้ไร้ตัวตน... ตามรอยธรรมรอยทองของพระพุทธ เพียรรู้หยุดเลิกคิดได้ไร้สับสน มองเข้าไปในจิตวิญญาณบ้านแห่งตน สร้างกมลใสว่างพร่างแสงเพชรอัญมณี..! ....... ชีวิต คำสอน และปฏิปทาของ*หลวงพ่อเทียน*นั้น เป็นตำนานที่เล่าขานได้ เฉกเช่นพระอาจารย์เซนผู้ยิ่งใหญ่แต่ครั้งโบราณกาล นับเป็นโชคดีหนักหนาที่เรามีโอกาสได้ยินได้ฟัง หรือกระทั่งพบเห็นท่านด้วยตนเอง ทั้งด้วยตาเนื้อ(มังสจักษุ)และตาใน(ปัญญาจักขุ) ทำให้มีความเชื่อมั่นกำลังใจ และ มีชีวิตชีวาในการการปฎิบัติทางจิต ชนิดที่ไม่ต้อเชื่อหรือพึ่งพิงผู้อื่น นอกจากลงมือทำด้วยตัวเอง เห็นตัวเองในตัวเอง และเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ ชึ่งเป็นจุดเน้นประการเดียวของท่าน ในยุคโลกาภิวัฒน์และจิตใจของผู้คนพินาศย่อยยับ และยุ่งเหยิงด้วยความครุ่นคิดกังวล จนเป็นวิกฤติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมไปค่อนโลกเช่นนี้ คำสอนของหลวงพ่อเป็นแสงสว่างนำทาง เทคนิควิธีฝึกจิตใจอย่างได้ผลดียิ่งของหลวงพ่อ เป็นเครื่องมือเดินทางไปบนหนทางสู่ความสิ้นทุกข์ ที่พระบรมศาสดาสัมมาพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ผู้น้อมใจลงศึกษาด้วยความถ่อมตนว่าตนยังไม่รู้จักตน ยังมีโอกาส .. *มองตน บอกตนได้ ใช้ตนเป็น เห็นตนชัด..* และ ขจัดมายาภาพของตัวตนได้อย่างแน่นอน *คำนำ..จากหนังสือ*หลวงพ่อเทียน* พุดพัดชา..ศรัทธาในคำสอนของหลวงพ่อเทียน และ มีปาฎิหารย์หลายสิ่งพลันพึงบังเกิดกับชีวิตนิดน้อยนี้ ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา..พบยอดพระรัตนตรัย ที่เป็นดั่งสร้อยธรรมคอยกางกั้นปกป้องคุ้มครองให้จิตใสใจดวงดี ไม่รานร้าวเศร้าชีวีนาน ทุกเรื่องราวเศร้าสุขทุกข์ร้อนร้าย คล้ายแค่พบพายุวิบากกรรม มาพัดผ่านมากระทบเพียงชั่วครู่ ให้จิตภายใน..รำลึกรู้สึกตัว ลบลืม ที่ถือว่าแสนมีโชค ให้ได้พบร่มธรรมร่มทอง มายึดมั่นในทุกพระธรรมคำสั่งสอน ที่ใช่เพียงอ่าน หากทุกคืนค่ำ พุดเพียรฝึกเจริญสติด้วยอิริยาบถความเคลื่อนไหว ที่พุด..อยากพลีใจ ขอมอบธรรมล้ำค่านี้ มาวางพลีบรรณาการแด่ทุกดวงใจ ให้ลองเพียรพยายามดู และ... อาจจะค้นพบบางสิ่งที่มหัศจรรย์จิตเกินคำบรรยายค่ะ ......... ......... เมื่อเรามีเวลาว่าง จะเดินจงกรมสลับกับการนั่งสร้างจังหวะก็ได้ การฝึกสติแบบนี้ทีแรกต้องนั่งอย่างนี้ นั่งพับเพียบก็ได้ นั่งเหยียดขาก็ได้ นั่งขัดสมาธิก็ได้ นั่งเก้าอี้ห้อยเท้าอยู่ก็ได้.. ........... ............ เอามือวางไว้ที่ขาทั้งสองข้าง.....คว่ำไว้ พลิกมือขวาตะแคงขึ้น...ทำช้าช้า...ให้รู้สึก ยกมือขวาขึ้นครึ่งตัว...ให้รู้สึก..มันหยุดก็ให้รู้สึก เอามือขวามาที่สะดือ...ให้รู้สึก พลิกมือซ้ายตะแคงขึ้น...ทำช้าช้า...ให้รู้สึก ยกมือซ้ายขึ้นครึ่งตัว...ให้รู้สึก..มันหยุดก็ให้รู้สึก เอามือซ้ายมาที่สะดือ...ให้รู้สึก เลื่อนมือขวาขึ้นหน้าอก...ให้รู้สึก เอามือขวาออกตรงข้าง...ให้รู้สึก ลดมือขวาลงที่ขาขวา ตะแคงไว้...ให้รู้สึก คว่ำมือขวาลงที่ขาขวา...ให้รู้สึก เลื่อนมือซ้ายขึ้นหน้าอก...ให้รู้สึก เอามือซ้ายออกตรงข้าง...ให้รู้สึก ลดมือซ้ายลงที่ขาซ้าย ตะแคงไว้...ให้รู้สึก คว่ำมือซ้ายลงที่ขาซ้าย...ให้รู้สึก... ......... ....... และ... หวังจิตให้ทุกดวงใจลองฝึกนะคะ เป็นการเจริญสติค่ะ และจะหยุดคิดได้.. หากทำนานๆเข้าโดยนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีสติในทุกอิริยาบถไม่ว่าจะนั่งนอนยืนเดินหรือทำอะไร ให้จิตจับในกิริยานั้นคือให้รู้สึกตัวตลอดเวลา และไม่ช้านานเราก็จะค้นพบความว่างกระจ่างใจค่ะ แล้วความทุกข์จากความคิดใด ก็จะมิหมายมากลายกล้ำทำให้เราช้ำใจเศร้าใจทุกข์ใจได้นานเลย ลองดูนะคะ... .............. http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72 หนึ่งในร้อย พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
13 มกราคม 2552 17:58 น. - comment id 935489
หวัดดีค่ะครูฤทธิ์..ศรีดวง ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากคำว่าเยี่ยม เคารพและนับถือค่ะ
13 มกราคม 2552 18:03 น. - comment id 935501
คุณพุด ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย นับถือแนวงานของคุณพุดเช่นกันครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ krajokngao ดีใจจัง ที่อ่านแล้วเข้าใจ นี่พยายามตัดให้สั้นที่สุดแล้ว ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจแปลว่าผมล้มเหลวในการสื่อความ ขอให้มีความสุขครับ คนนั้นแระ ขอบคุณมากๆเลย จากใจ รบกวนหน่อย ฝากบอก ป. ให้ด้วยว่า ถ้านึกครึ้มใจ อยากลงกลอนสักบทให้บอกด้วย เอาเรื่อง lonely didy นะ เอางานมาประชันด้วย ขอให้มีความสุขนะครับ
13 มกราคม 2552 18:05 น. - comment id 935507
เจอจะบอกให้
13 มกราคม 2552 18:13 น. - comment id 935519
พี่ชายพิมว่าพิมพ์เป้ฯเล่มได้แล้วนะคะ เป็นวิทยาทานอะพี่ แล้วถ้าหากให้ดี ในวิชาพทธศาสนาสามารถแทรกบทกลอนแนวธรรมมะน่าอ่านแบบนี้ พิมว่าเด็กๆคงไม่เบื่ออะคะ
13 มกราคม 2552 18:16 น. - comment id 935521
คุณพุด อีกครั้งครับ ที่จริงงานชุดนี้ผมเขียนเตือนตัวเอง เพราะเลิกปฏิบัติไปนานมาก จนกระทั่งเขียนเรื่องนี้เสร็จ ก็เลยรู้สึกสงบและจะเริ่มปฏิบัติอีกครั้งในวันนี้ ขอบคุณสำหรับแนวทางปฏิบัติธรรมที่นำมาฝากครับ คุณหมอ ขอบคุณนะครับ อย่าเรียกครูเลยครับ เป็นพี่เป็นน้องในที่นี่ดีกว่า ผมมีความรู้แค่พื้นฐานเท่านั้นเอง เอาเข้าจริงๆ เหมือนกบในกะลา เพียงแต่เวลาไปอ่านงานใครแล้ว อยากอ่านให้รู้ถึงอารมณ์ ของผู้เขียนที่ต้องการสื่อสาร มีนักกลอนหลายท่านที่เก่งๆ แต่ไม่คอมเมนท์เหมือนผม บางทีเขากลัวว่าเจ้าของเรื่องอาจจะไม่พอใจก็ได้ ผมเลือกคอมเมนท์เหมือนกันครับ ต้องดูว่าคณที่เราอยากบอกเขารับได้แค่ไหน ขอให้มีความสุขครับ
13 มกราคม 2552 18:28 น. - comment id 935529
ตีพิมพ์ได้แล้วล่ะครับ หรือว่าคงตีพิมพ์ไปนานแล้ว
13 มกราคม 2552 18:41 น. - comment id 935532
.............. เขียนได้ดี..จนไม่ต้องมีคำบรรยาย... ...
13 มกราคม 2552 18:45 น. - comment id 935536
อ่านกี่เรื่องกี่เรื่อง...ก็เห็นความงดงาม ทั้งถ้อยคำและความคิดค่ะ ขอยืมบทนี้ไปให้นักเรียนอ่านนะคะ.. ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ..
13 มกราคม 2552 19:21 น. - comment id 935553
พิมจัง หวัดดี แค่นี้ล่ะ เอาสั้นๆ (งานได้ตีพิพิมพ์หรือยังน้อง) แมวเหลือง ขอบคุณครับ เอาไปตีพิมพ์ก็คงเป็นได้แค่ถุงกล้วยแขกกระมังครับ ขอให้มีความสุขครับ คุณวุ้นเส้น สวัสดีครับ มีความสุขมากๆนะครับ ครูพิม เชิญตามสบายครับ ขอให้มีความสุขครับ
13 มกราคม 2552 19:43 น. - comment id 935567
เดือนแห่งรักคะพี่ชาย หุหุ..พี่หนับหนุนน้องไหมละ แหมๆๆสั้นๆๆแต่ตอบยาวอะ มีรายปาว
13 มกราคม 2552 19:44 น. - comment id 935570
ได้อรรถรสมากครับ..
13 มกราคม 2552 19:46 น. - comment id 935576
กราบสวัสดีค่ะ พี่ฤทธิ์ค่ะ
13 มกราคม 2552 20:01 น. - comment id 935600
สวัสดีค่ะคุณฤทธิ์ เขียนได้เยี่ยมจริงๆค่ะ กลอนสอนใจ ธรรมะ อยู่กับเราได้ทุกที่ เพียงแต่ใครจะรู้จักแสวงหา หาทางพ้นทุกข์ เจริญธรรมเจ้าค่ะ
13 มกราคม 2552 20:04 น. - comment id 935609
เข้ามาชมผลงานที่มากด้วยคุณภาพครับ...
13 มกราคม 2552 20:25 น. - comment id 935624
ก่อนอื่นขอ นมัสการหลวงพ่อ ก่อนครับ วันนี้โชคดี เมื่อวานพึ่งพูดเรื่อง งานเกี่ยวกับศาสนา วันนี้ได้อ่านจริงๆ คงต้องขอบคุณ คุณฤทธิ์ครับ นิทานเรื่องนี้มีประโยชน์จริงๆ ครับ ถ้าผมจะตายผมจะจำไว้ครับ สัมมา อะระหัง ผมจะท่อง ให้ดังเข้าไปในจิตใจเลย ขอบคุณครับ
13 มกราคม 2552 20:46 น. - comment id 935643
สวัสดีปีใหม่ครับท่านริด......อ้าว.... พระคุณเจ้ามาบวชตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะขอรับ
13 มกราคม 2552 21:05 น. - comment id 935668
เยี่ยมมากคับ บรรยายไดจริงๆเลย
13 มกราคม 2552 21:15 น. - comment id 935683
สวัสดีครับ...อ่านกลอนจุใจเลยครับ
13 มกราคม 2552 23:09 น. - comment id 935777
อ่านแล้วชื่นเย็นหัวใจครับ
14 มกราคม 2552 03:28 น. - comment id 935794
นิทานที่ท่านเล่าเข้าใจหมด แต่ก็อดไม่ได้ยามใจเผลอ ซากกิเลสรุกล้ำคอยบำเรอ ตามปรนเปรอทุกภพจบไม่ลง อะไรอะไรก็เข้าใจพบเห็นและผ่านมาบ้าง สุดท้ายก็พ่ายแพ้อยู่ดี จิตดวงเดียวยากแท้หยั่งถึงกิเลสดึงยื้อยุดหยุดไม่ไหว ก็หักห้ามหลายครั้งยังแพ้ใจ ลุกขึ้นใหม่หลายครั้งยังล้มลง ใจหนึ่งไปถึงซึ่งชั้นสรวง ใจหนึ่งกลับติดบ่วงเสน่ห์หา ใจหนึ่งผ่องผุดดุจเทวา ใจหนึ่งชั่วช้าดั่งซาตาน สงสารใจเจ้าของเหลือเกินแต่ยากที่จะเอาชนะได้ พ่ายแพ้และลุกขึ้นใหม่หลายสิบรอบแล้ว
14 มกราคม 2552 16:30 น. - comment id 935998
อ่านแล้วหนาวหลังวูบ เพราะกิเลสยังหนาอยู่ แต่จะพยายามไม่เบียดเบียนใครเจ้าค่ะ
14 มกราคม 2552 20:55 น. - comment id 936118
พิมจัง ชื่อ เดือนแห่งรัก เรอะ ดีแล้วจะไปหาอ่านสักเล่ม จอมปราชญ์ ขอบคุณครับที่มาทักทายกัน ดอกบัว สวัสดีน้องสาว ขอให้มีความสุขครับ คุณแบม เจริญในธรรมเช่นกันครับ ลิลิต ขอบคุณครับ ขอให้มีความสุขครับ คุณสืบ อนุโมทนาด้วยครับ ขอให้มีความสุขครับ พี่ก่องกิก สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขกับสาวๆครับ คุณวิทย์ ศิริ ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมเยียนกัน ท่านอินสวน โถท่าน แค่ ๒๗ บทเอง ผมมีเรื่องใหม่ยาวน่าถึงร้อย up ขอให้มีความสุขครับ คุณก่อพงษ์ ดีใจครับ ที่คุณก่อพงษ์ เข้ามาอ่าน สบายดีนะครับ ขอให้มีความสุขกับสมาธิครับ คุณมนต์กวี ดีใจครับที่อ่านรู้เรื่อง เรื่องแบบนี้ถ้ายังเป็นปุถุชน อยู่ ก็ธรรมดาครับบังคับใจได้บ้างไม่ได้บ้างครับ อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำก็แล้วกัน ขอให้มีความสุขกับงานเพลงครับ ยาแก้ปวด นี่เป็นครั้งที่สองกระมังที่เราได้คุยกัน ดีใจครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ขอบพระคุณเพื่อนๆทุกท่านครับ
14 มกราคม 2552 21:35 น. - comment id 936159
อะๆๆๆสุดยอดจริงๆๆเลยค่ะ นับถือๆๆ อ่านสนุกดีค่ะ ได้ใจๆๆๆ
14 มกราคม 2552 21:43 น. - comment id 936170
เยี่ยมมากๆครับผม ทั่นอาจารย์ เก่งมากลูกเพ่ อิอิ อ่านแล้วน่ากลัวกว่าเดิมเยอะอ่ะ อ่านแล้วหยดหยองๆๆ
14 มกราคม 2552 22:06 น. - comment id 936181
ถึงเวลานั้นไม่รู้จะลำดับภาพอะไรมาบ้างค่ะ พ่อเคยเล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะให้ท่อง "พุทโธ" หรือ "สัมมา อะระหัง" แล้วจะไปอยู่แดนดี.. แต่จิตใจคนยากนิ่งเฉยค่ะ มีว่อกแว่กเสมอ บางทีคิดแทบตายยังนึกภาพความดีของตัวเองไมใจอเลย มีแต่ภาพชั่วร้ายผุดมาในสมองเพียบ อิอิ จะพยายามค่ะ
14 มกราคม 2552 22:21 น. - comment id 936190
คนนั้นฝากบอกมา ว่าให้คุณฤทธิ์เอาเรื่อง มาลงเลย คนนั้นจะได้เอาเจ้าหมานั่นมาลง ประชันด้วย ตามนี้นะ อิอิ
15 มกราคม 2552 09:01 น. - comment id 936271
อ่า....นึกถึงหนังสือ "อ่านก่อนตาย" กับ "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน"เลยค่ะ แค่ชื่อเรื่องก็อยากจะอ่านแล้ว อ่านไปก็ทำให้รู้สึกว่า มนุษย์เราควรใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท อย่าสร้างกรรมใหม่ในชาตินี้ขึ้นมาอีก เพราะ ไม่แน่คุณอาจเคยสร้างกรรมเก่าในชาติก่อนไว้มากมาย และรอวันชดใช้อยู่ ปล.คนนั้นแระ จะประชันกันวันไหนบอกด้วยเน้อจะมาโหมโรงให้
15 มกราคม 2552 10:39 น. - comment id 936311
^ ^ ^ ถึงคนข้างบน ก็ให้คุณฤทธิ์เป็นคนเปิดประเด็นแระ แต่คนข้างบนเตรียมตัวพร้อมไว้เลยนะ
15 มกราคม 2552 11:52 น. - comment id 936346
^ ^ ^ แฮ่ม...ถึงคนข้างบน...โคลอน เตรียมกะละมังไว้ตีฆ้องร้องป่าวแระ...อิอิ
15 มกราคม 2552 12:15 น. - comment id 936360
Alto2 สวีสดีครับ ยินดีที่รู้จัก ดีใจครับที่มัคนอ่านรู้เรื่องอีกหนึ่งคน ขอให้มัความสุขครับ แมวซุ่มซ่าม หวัดดึไอ้น้องชาย สบายดีไหม เฌอมาลย์ ขอให้เจริญในธรรมครับ คนนั้นแระ ขอบคุณครับที่ชวยบอก ป. ให้ ที่จริงต้องเอาต้นฉบับลงก่อนนะถึงจะถูก แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ได้ ว่าจะลงเลยแต่เกรงใจ ชุดเดิมยังไม่ตกหน้าเลย จะไปเบียดบังที่ท่านอื่นเขา เอางี้! 21.00 ตรงครับ ของ ป.ด้วยนะ เอาให้ชนกันกลางอากาศเลย โอเค? ฝน หวัดดี เตรียมขนมนมเนยต้อนรับ เพื่อนหรือยัง เตรียมยาแก้ปวดไว้ด้วยนะ แกเป็นโรคปวดท้องกับปวดหัว หนังสือที่ฝนว่าทั้งสองเล่มผมไม่เคยอ่าน สนุกหรือเปล่า สนใจๆ ขอให้มีความสุขและมีแฟน(ซะที) ครับ
15 มกราคม 2552 12:37 น. - comment id 936383
เอิ๊กส์...21.00 น. ฝนนอนแอ้งแม้งเรียบโร๊ยแล้วอ่ะ งั้นโหมโรงล่วงหน้าเลยแระกันนะคะ กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ๊ย เพื่อนเราเอ๋ยรีบมาหาที่นั่ง จะปูเสื่อนอนเดี่ยวตามลำพัง ฤาใช้หลังพิงฝาก็ขอเชิญ เพื่อนของเราประชันกลอนคืนนี้ ณ ที่นี่ไทยโพเอ็มอย่าขวยเขิน 21.00 ให้เพลิดเพลิน ส่วนโคลอนคงเดินสู่นิทรา พรุ่งนี้เช้าจะมาร่วมวงอ่าน ขอให้สุขสราญกันถ้วนหน้า ส่วนขนมนมเนยวานเพื่อนยา(แก้ปวด) รับผิดชอบก่อนน๊าคงไม่แพง ........................................ ปล.ฤทธิ์ ศรีดวง เป็นหนังสือแนวธรรมมะ ติดอันดับขายดี หาซื้อไดตามร้านหนังสืออ่ะค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆมากมายในชีวิตเลยค่ะ ขอให้มีความสุขเช่นกันนะคะ เรื่องแควน เอาไว้ก่อนค่ะ....(เอาไว้แก่กว่านี้ก่อน...55 ขำๆ..เนอะ
15 มกราคม 2552 12:56 น. - comment id 936398
^^ ^^ ^^ ไว้รอเป็น ยาย ก่อนก็ได้เนอะ ค่อยหา แควนน่ะ นะป้าโคลอน >> คุณฤทธิ์ ตกลงจะลงยังไง คะ ป้าโคลอนจะหนีไปนอนดิ้
15 มกราคม 2552 14:56 น. - comment id 936440
ใครทำกรรมใดไว้ก็ย่อมได้รับ ผลกรรมนั้นนะค่ะ คุณฤทธิ์ แต่งได้เยี่ยมเลยค่ะ เห็นภาพและได้อารมณ์ สุดยอด สุดยอด ท่านอาจารย์