โอ้...กาย ***** โอ้...กาย ไม่นานหนอ บังเกิดก่อ แล้วกลับกลาย ดุจฟอง แห่งน้ำหมาย แล้วแตกดับ ลงฉับพลัน ***** สิ้นลม แห่งหายใจ ชีพบรรลัย บ่กลับหัน ห่อนมี สิ่งสำคัญ เพื่อประโยชน์ สักนิดเดียว ***** ทอดทิ้ง ดุจท่อนฝืน กลิ้งเหนือพิ้น สุธาเทียว ฟองซ้ำ เน่าดำเขียว ส่งกลิ่นฟุ้ง บ่เว้นวาย ***** ดูเถิด ท่านทั้งหลาย บุรุษนาย คนานาง ควรปลง ปัญญาทาง ปรมัต อรรถธรรม ***** พยาน ปรากฎแก่ จักษุแท้ บ่ปิดงำ ควรคิด พินิจจำ หีบศพนั้น อันแล....เห็น ฯ
6 มกราคม 2552 09:04 น. - comment id 932303
ลุงแทน..ขอรับ ผมว่าน่าจะเป็น...ดุจฟองแห่งน้ำลาย ..........................พองซ้ำเน่าดำเขียว ..........................ทอดทิ้งดุจท่อนฟืน นะขอรับ...ช่วยเช็คให้หน่อย เผื่อเก็บไว้สวดเตือนสติมั่ง
6 มกราคม 2552 10:28 น. - comment id 932326
สวัสดีคุณ กิตติเวทย์ ขอบคุณครับ แต่เป็น "แห่งน้ำหมายครับ" เพราะชีวิตเปรียบกับฟองของเม็ดน้ำที่โป่งขึ้นเหนือน้ำ เพียงไม่นานก็แตกดับ เปรียบชีวิตคนเราอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องแตกสลาย ดุจดั่งฟองน้ำครับ เป็นข้อเปรียบเทียบให้เห็นสัจจธรรมครับ สุขสันต์วันปีใหม่ ชีวิตสดใส ประสพความสำเร็จในชีวิต และหน้าที่การงาน พร้อมครอบครัวครับ
6 มกราคม 2552 10:34 น. - comment id 932327
"ฟองซ้ำ เน่าดำเขียว" ประโยคนี้หมายถึง ฟองแห่งอกุศล ที่ถึงแม้ตายไปแล้ว ก็ยังส่งกลิ่นประจานตนเองอยุ่ ครับคุณกิตติเวทย์
6 มกราคม 2552 10:54 น. - comment id 932329
2 เพราะเคยได้ยินว่าชีวิตมีอุปมาดั่งน้ำลาย จึงเข้าใจเช่นว่า ....จากอรรถาธิบาย..ก็กระจ่างใจ แต่หากว่าโดยพยัญชนะ.. "ดุจฟองแห่งน้ำหมายแล้วแตกดับลงฉับพลัน" ก็ยังต้องตีความ..ได้นะครับ ................ กำลังหาแนวร่วมตั้งโต๊ะกลมเสวนา
6 มกราคม 2552 11:00 น. - comment id 932330
ด้วยความยินดีครับ คุณกิตติเวทย์ เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ดีมากเลยครับ ลุงแทนมีความยินดีอย่างยิ่ง เพราะสิ่งที่ลุงแทนยังไม่รู้มีอีกเยอมากครับ phrabaidikasuppachai@windowslive.com เมลส่วนตัวลุงแทนครับ
6 มกราคม 2552 11:00 น. - comment id 932331
3 พอง (ฟอง) ซ้ำเน่าดำเขียว... ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นบทที่รับข้อความจากข้างบน ที่แสดงถึงกายที่ทอดลงเหนือแผ่นดิน หลังจากนั้นก็จะ "พองซ้ำเน่าดำเขียว ส่งกลิ่นฟุ้ง" นะขอรับ
6 มกราคม 2552 11:44 น. - comment id 932333
อันกายเรา ตายไป ก็เท่านั้น เปรียบดุจดัง ทอนไม้ ที่ไร้ค่า กลิ้งอยู่บน แผ่นผื้น พสุธา จะเหลือค่า ดีชั่ว ที่ตัวทำ มีฟองแห่ง กิตติศัพท์ ความดีชั่ว ที่คนทั่ว ได้รู้ นำกล่าวซ้ำ เป็นกลิ่นแห่ง กุศล อกุสลทำ ชนภายหลัง กล่าวชม หรือนินทา
6 มกราคม 2552 21:40 น. - comment id 932583
อามิตตาพุทธ
8 มกราคม 2552 08:59 น. - comment id 933286
สังขารไม่เที่ยงใช่มั้ยค่ะ อย่ายึดมั่นถือมั่น คนเราเกิดมาไม่มีอะไรเป็นของเราสักอย่าง