เหม่อแลฟ้า พาใส่ ใจลอยล่อง แสงสีทอง รองเรือง ประเทืองแสง เมฆคล้อยเคลื่อน เตือนรู้ คู่เปลี่ยนแปลง ไร้สิ่งแรง ฤทธิ์ยั้ง ยั่งอยู่คง ทัศน์ตราตรึง บึ้งแก่น แดนความฝัน ลืมคืนวัน สั่นร้าย หมายลุ่มหลง ดึงฤดี ลี้โลก วิโยคปลง เพื่อคืนคง ยงแรง แสงดำเนิน แสงยวลตา คราทบ สบสายเนตร ฟ้าเขียวเฉด ธรรมชาติ พาดใจเหิน สิ่งเคร่งเครียด เบียดสติ ตริลุเดิน น้ำหยอกเอิน หล่อเลี้ยง ชุ่มฉ่ำใจ วิหคน้อย คอยใคร ที่ไหนเล่า คู่คลอเคล้า เอาใจ อยู่แห่งไหน ไยอยู่เดียว เปลี่ยวปล่าว ราวฤทัย โผผินไซร้ ได้พบ สบเคลียคลอ อย่ามัวรอ อยู่เลย เจ้านกเอ๋ย คู่หมายเชย เฉยแน่ ไม่มาขอ จงกางปีก หลีกพาย สู่ชายพะนอ จงสานต่อ ห่อรัก พรักพร้อมเรือน อย่าเหมือนข้า พาใจ ให้แห้งเหี่ยว หมดแรงเรี่ยว รอชาย ที่หมายเหมือน ดั่งนกน้อย กรงทอง จ้องดาวเดือน ไม่อาจเลื่อน เคลื่อนกาย ดังหมายใจ อิสระ เจ้ามี เกินตัวข้า ขออย่ามา ล้าเหนื่อย เฉื่อยอับใส โผโลกกว้าง แล่นสู่ จุดหมายไกล ตัวแทนไซร้ ใจข้า ผู้ต้องทน
30 มิถุนายน 2551 11:24 น. - comment id 867290
โอ้วๆๆ โอ้โหๆ ภาพก็งามกลอนก็สุดจะงดงาม อ่อนช้อยไหวหวิวพลิ้วอารมณ์ดีจริง ทั้งชื่อนั้นก็เหมือน ชื่อศิษย์รักผมคนคือ " ช่ออักษราลี" ด้วยการเขียน ท่วงทีทำนองเหมือนหรือคล้ายๆกันมากเชียวล่ะ อ้อ ขอเก็บภาพไว้ด้วยนะครับเผื่อจะได้ลงในกลอนไว้ ขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อน ให้หรือไม่เก็บไว้แล้วครับ ขอบคุณมากครับ ดีใจนับว่ามีนักกวีที่แท้จริงเกิด ขึ้นอีกครับ แก้วประเสริฐ.
30 มิถุนายน 2551 13:24 น. - comment id 867394
คุณลุงคิดเหมือนหนูจังเลยคล้ายๆคุ้นๆขอให้เป็นคุณช่ออักษราลีจริงเถอะนะคะคิดถึงเธอจังเลยค่ะ ว่าแต่ บทกลอนนี้งามมากเลยนะคะ
30 มิถุนายน 2551 14:51 น. - comment id 867436
สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ และคุณนรศิริ มนต์อักษรา หาใช่ คุณช่ออักษราลีไม่ แต่ก็ขอขอบคุณจากใจจริงที่ชื่นชมงานกลอนของมนต์อักษราค่ะ สำหรับรูปภาพนั้น ไม่หวงค่ะ นำไปใช้ได้เลย และดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เลือกสรรสิ่งที่สวยงามได้ถูกใจผู้อ่านค่ะ มนต์อักษรา ก็คืออีกแง่มุมหนึ่งของจิตใจ ด้วยความสัจจริง เป็นคนละคนกับคุณช่ออักษราลีค่ะ
1 กรกฎาคม 2551 09:23 น. - comment id 867724
1 กรกฎาคม 2551 11:12 น. - comment id 867750
อิสระเสรีอยู่ที่ใจให้ใจเบิกบานก็พอแล้ว ใช่ไหมครับคุณมนต์อักษรา