ปรัชญา (รัก+ปัญญา)
yamayurikai
นิราศภูเขาทอง
ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ต้องมัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ
พระสรรเพ็ชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารั ก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
แต่เมาใ จนี้ประจำทุกค่ำคืนถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
...
แม้มิได้เป็นดอกกุหลาบหอม
เราจะยอมเป็นเพียงลดาขาว
แม้มิได้เป็นจันทร์อันสกาว
จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตา
...แม้มิได้เป็นหงส์ผู้ทรงศักดิ์
ก็จงรักเป็นโนรีที่หรรษา
แม้มิได้เป็นน้ำแม่คงคา
จงเป็นธารธาราใสอันไหลเย็น
...แม้มิได้เป็นดั่งภูผาใหญ่
จงพอใจจอมปลวกที่แลเห็น
แม้มิได้เป็นวันพระจันทร์เพ็ญ
ก็จงเป็นวันแรมอันแจ่มจาง
...แม้มิได้เป็นสนต้นระหงษ์
จงเป็นพงอ้อสบัดมิขัดขวาง
แม้มิได้เป็นนุชสุดสอางค์
จงเป็นนางที่มิใช่ไร้ความดี
...
เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
...
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย
...