....อันกลอนไทยใช่จะไร้ในคุณค่า จำเรียงถ้อยร้อยกานท์สำราญรื่น รวยระรินกลิ่นเกสรเมื่อค่อนคืน ปานดื่มกลืนชื่นทิพวารี อันกลอนไทยใช่จะไร้ในคุณค่า ด้วยงามกว่ามรกตที่สดศรี ดังบุหลันทรงกลดหมดราคี ราวมณียอดมงกุฏผุดพริ้งเพรา ชโลธรกลอนกานท์เข้าซ่านฝั่ง ระลอกแก้วแววหวังครั้งเงียบเหงา พลันสะท้านสุขสันต์ไม่บรรเทา สรรพสิ่งโศกเศร้ากลับเย้ายวน อารมณ์รักหักอารมณ์อาลัยหาย ร้อยกรองกลายความช้ำเคยกำศรวล แปรเปลี่ยนปิ้มปางตายคลายคร่ำครวญ สุขสำรวลยวนเย้าเข้าฉับพลัน เพียงพิมานผ่านฟ้าจินดารัตน์ เพียงประภัสสร์อักษราค่าสวรรค์ เพียงอมฤตอิศราธาราจันทร์ เพียงแดนฝันอันสมรมณีย์ เพียงเจ้าฟ้าสุราฤทธิ์ประสิทธิสุข เพียงดวงมุขเม็ดงามอร่ามศรี เพียงหิ่งห้อยร้อยผองคล้องฤดี เพียงนวรัตนามณีทวีแวม อันกลอนไทยใช่จะไร้ในคุณค่า งามยิ่งกว่าเพชรพรรณสรรแต่งแต้ม งามยิ่งกว่าดาราคราเดือนแรม เชิญเถิดท่านจารแจร่มจำเรียงกานท์ ฯ
21 มิถุนายน 2551 14:29 น. - comment id 864191
สุดยอดศิลปะแห่งภาษา ร้อยวาจาผ่านสายป่านตัวอักษร ตกแต่งแต้มให้งามจนเป็นกลอน จะโอนอ่อนหรือแข็งกร้าวก็งดงาม
21 มิถุนายน 2551 11:59 น. - comment id 864268
เห็นด้วยอย่างยื่ง...
21 มิถุนายน 2551 12:12 น. - comment id 864277
๏ พลิ้วลมโชยกลิ่นกล่อมล้อมกอหญ้า พวงลัดดาบานเบ่งเปล่งเครือเถา สร้อยอักษรขจรไหวในลำเนา กลีบจักเคล้าวลีฟ้ามาโปรยดิน ๏ หอมบุปผามาลัยในโลกหล้า ไม่หอมกว่าภาษาสรรค์วรรณศิลป์ โชยละมุนไหลล่วงจากดวงจินต์ ขจรกลิ่นหอมหวานบนลานกลอน ๏ ลายสือไทยไหวพลิ้วดั่งริ้วเมฆ งามราวเสกสวรรค์สู่บรรจถรณ์ ดอกสร้อยศิลป์ผลิช่ออรชร เรณูกลอนปลิวฟุ้งรุ้งกวี ๏ อิ่มไหนเล่าเท่าอิ่มทิพยรส ยามเสพบททุกตอนอักษรศรี ดั่งเสวยสวรรค์อันรุจี ชั้นกวีเพริศแพร้วแก้วกรองกานท์ ๏ ร่ายสำเนียงสังคีตคำทำนองเสนาะ หวานไพเราะดุจคนธรรพ์นั้นวาทย์ขาน พลิ้วจังหวะฉันทลักษณ์กล่อมสำราญ บนวิมานลานกรองของกลอนไทย ๏ บรรเลงถ้อยร้อยรักวาดจินตนา ฤๅ กำสรวลครวญอุราพิลาปไหน บ่มความคิดปรัญชามาแทรกใน วากย์วิไลตามครรลองทำนองกานท์ ๏ ชนรุ่นหลังพึงสังวรให้ตระหนัก สำเหนียกรักษ์รักษาไว้ให้สืบสาน วัฒนธรรมบ่มภาษามาช้านาน จนแตกฉานถักถ้อยเป็นร้อยกรอง
21 มิถุนายน 2551 17:32 น. - comment id 864462
อักษรกลอนไทยงามและมีคุณค่าเสมอค่ะ
21 มิถุนายน 2551 19:06 น. - comment id 864487
กลอนไทยไม่ไร้ค่าจริง ๆ ครับ แต่งกลอนได้เพราะจังครับ