กลีบโรยโปรยเหลืองลมเนื่องหนุน สมดุลหมุนติ้วพลิ้วตามสาย คลื่นรับขยับเร้นเย็นกระจาย ช้ำชอกออกลายกระอายชล ส่วนหนึ่งซึ่งน้อมลงพร้อมสรรพ คำนับวารีขุ่นสีข้น ยินคลื่นปวงคล้ายเป็นตายคน เลือดปนใครแปรแม่น้ำก ู เหลืององค์สงฆ์ชัดโปรดสัตว์เช้า อกอ้าวข้าวอุ่นคอยกรุ่นอยู่ คูนเบื้องเรืองบาตรยาตรฤดู เช้าชูช่อชื่นริมคลื่นคำ พรายแสงแดดขุ่นกระสุนเข้า โขงเราโขงใครไหวเช้า-ค่ำ ปลาบึก-ปืนกราดฆาตกรรม คูนร่วงคนร่ำเลือดโขงริน เงื้อมเงาเหล่าร้ายคล้ายเรือล่อง แกะกล่องระเบิดแก่งแหล่งหิน ร้อยทุนเลื้อยเขี้ยวเลี้ยวกิน หน้าดินพังกล่น...หนอจนใจ ใครตุนคูนต้นควรต้องตัด ไทร-โพธิ์สารพัดต้องจัดให้ ชาวบ้านชาวช่องคุณต้องไกล ทางปืนทางไปอินโดจีน ขอบโขงทั่วหล้าว่าทุนโลก ดูก่อนวิปโยคโลกมีศีล เด็กน้อยลอยน้ำตามป่ายปีน มือ-ตีนต่างโตรกโลกเสรี นาคาสิบห้าค่ำรับคูนหล่น ความเชื่อเหนือชลใช่ป่นปี้ เป็นมาปลา กุ้ง สะดุ้งมี ตอคูนบ่หนีการแตกบาน วสันต์เม็ดซ่าลงมาเสร็จ เมล็ดคูนสืบคงรู้ซ่าน ข้าว ปลา นา น้ำ คือตำนาน ลูกหลานคงรู้สูคือใคร วับ-วับจีวรพระคุณเจ้า กลับวัดตรัสเช้าพร้อมข้าวใหม่ คูน-โขงรับธรรมลำนำไท ผลิ-ร่วงล้วนในแม่น้ำเรา หนุ่มน้อยรู้สึกสำนึกน้ำ ควบกล้ำคำยื่นกลับคืนเหย้า เชื่อมโยงโขงใหญ่ฟังวัยเยาว์ น้ำใจไผเน่าพอเฮานึก วันนี้พอหอมปากหอมคอก่อนนะครับ วันหลังจะเอาตอนที่สองมาฝาก
25 กุมภาพันธ์ 2551 13:34 น. - comment id 826639
เติบโตมากับ แม่น้ำโขง เหมือนกันค่ะ เพราะบ้านอยู่ริมโขงเลย
25 กุมภาพันธ์ 2551 15:43 น. - comment id 826730
หวัดดีจ้ะ..ฟ้าฯ.... กลอนเพราะดีนะ..ไม่ได้ต่อกลอนกันนานมากแล้ว..คงสบายดีนะคะ..เป็นกำลังใจให้ค่ะ.. *******************************************