เมตตาธรรมค้ำจุนโลกา...

คีตากะ

ข้าวหนึ่งมื้อหนึ่งจานท่านโปรดคิด	
ผลาญชีวิตของใครให้ประหาร		
เอาเนื้อเขาเป็นเนื้อเราเฝ้าประจาน		
สร้างสุสานในกายหลายชีพปลง		
		
เลือดและเนื้อเพื่อบำรุงมุ่งเข่นฆ่า		
หลากชีวาพร่าชีวิตคิดใหลหลง		
รสเลิศหรูของผู้ใดไซร้ปลดปลง		
หวังสูงส่งเทียมฟ้าน่าขำคน		
		
สุสานสัตว์แออัดซากจากภูตผี		
รวมสรรพชีวีทุกที่หน		
ยังกลัวตายกลัวผีทั้งที่ตน		
หมั่นแบกขนซากศพกลบกายา		
เว้นหนึ่งมื้อยื้อชีวิตนับหมื่นแสน		
เมตตาแทนค้ำจุนคุณหนักหนา		
ปลอดจากบาปอาบเลือดสัตว์ตัดปาณา		
สูงส่งกว่าทำทานใดในปฐพี		
ทานพืชผักผลไม้ให้แร่ธาตุ		
โรคภัยปราศจากกายหมายสุขศรี		
ยังอิ่มบุญหนุนนำล้ำชีวี		
ไม่ต้องมีเวรบาปตราบสิ้นลม...	
พรหมจรรย์สูตร
" ผู้คนที่รับประทานเนื้อสัตว์ย่อมทำลายเมล็ดพันธุ์แห่งจิตเมตตาอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติพุทธะของพวกเขาเอง และสรรพสัตว์ใดๆ ที่พบเห็น พวกเขาก็จะละทิ้งพวกเขาไป ดังนั้น โพธิสัตว์ทั้งหลายต้องหลีกเลี่ยงจากการทานเนื้อของสรรพสัตว์ใดๆ เพราะนั่นจะสร้างบาปอันไม่สิ้นสุด"

ศุรางคมสูตร
" ผู้คนที่รับประทานเนื้อสัตว์จะตกเข้าไปในวัฏจักรของการเวียนว่ายตายเกิด และทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอันไม่สิ้นสุด"
" ผู้คนที่รับประทานเนื้อสัตว์จะไม่อาจพบความสำเร็จในการรับพระพร หรือบุญกุศลใดๆ ที่พวกเขาสวดภาวนาขอ"
" ผู้รับประทานเนื้อสัตว์ย่อมทำให้สิ่งมีชีวิตบนสรวงสวรรค์หลีกห่างไปจากพวกเขา และสรรพสัตว์อื่นๆ หวั่นกลัวพวกเขา"

ลังกาวัฏรสูตร
" เหล่านักบุญทั้งหมดล้วนรังเกียจการกินเลือดหรือเนื้อ สิ่งมีชีวิตบนสวรรค์ย่อมไม่เข้าใกล้ผู้คนที่ทานเนื้อสัตว์ เพราะปากของพวกเขามีกลิ่นเหม็นเน่าอยู่เสมอ เนื้อไม่เป็นสิ่งที่ดี เนื้อเป็นของไม่สะอาด ผู้ที่ทานเนื้อก่อให้เกิดมารและทำลายบุญกุศลและพระพรให้หมดสิ้นไป นักบุญทั้งหลายล้วนตำหนิการทานเนื้อสัตว์! "
" ในบางสถานที่ ฉันห้ามผู้คนไม่ให้ทานเนื้อ 10 ชนิดและอนุญาตให้พวกเขาทานเนื้อบริสุทธิ์ 3 ประเภท เพื่อช่วยให้พวกเขาเลิกทานเนื้อสัตว์แบบค่อยเป็นค่อยไป และต่อมาภายหลังจึงเข้าร่วมการปฏิบัติธรรม เวลานี้ฉันบอกว่า ฉันห้ามการทานเนื้อทุกชนิด ไม่ว่าสัตว์นั้นตายอย่างธรรมชาติหรือถูกฆ่าตาย ฉันไม่เคยอนุญาตลูกศิษย์ของฉันทานเนื้อสัตว์  และฉันจะไม่อนุญาตเลยทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
" สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนมาจากต้นกำเนิดเดียวกัน ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมามากมายเหลือคณานับ สรรพสัตว์ล้วนเป็นญาติพี่น้องกันและกัน เราสามารถทานเนื้อของญาติพี่น้องเราได้อย่างไร?"

นิพพานสูตร
" พระกัสปะถามพระพุทธเจ้าว่า " ทำไมในอดีตพระองค์จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุฉัน " เนื้อบริสุทธิ์ 3 ประเภท หรือกระทั่ง " เนื้อบริสุทธิ์ 9 ประเภทได้?" พระพุทธเจ้าตรัสว่า " มันเป็นการอนุโลมตามความต้องการของสภาวะการณ์ และค่อยๆ ไปทีละก้าวในการละจากการทานเนื้อสัตว์"

ไข่มุกแห่งปัญญา-อนุตราจารย์ชิงไห่
เราต้องเห็นความทุกข์ของสัตว์อื่นๆเป็นเสมือนความทุกข์ของเราเอง ดังนั้น เราจึงไม่ควรยินดีในการฆ่าสัตว์และรับประทานมัน นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงควรเป็นมังสวิรัติ นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึงในการโน้มไปสู่ความเมตตามากขึ้นๆ และแผ่ขยายความรักของเราไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ศาสนาทุกศาสนาไม่ใช่ศาสนาเดียวล้วนพูดถึงว่า เราควรแผ่ขยายความรักของเราไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราจะศรัทธาในศาสนาใดหรือไม่ เราทั้งหลายต่างก็สามารถเชื่อในความดีได้ ในความเมตตาของหัวใจเรา ดังนั้นเราจึงพยายามช่วยชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นไม่ได้หมายความว่า ถ้าเธอรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง 1 ชิ้น สิ่งต่างๆมากมายจะเปลี่ยนแปลง แต่มันเป็นหลักการในการฝึกฝนใจของเราสู่ความเมตตา ขอให้ความเมตตาของเราเติบโตขึ้น อย่าฆ่าความเมตตาของเรา เจตนานั้นเป็นสิ่งสำคัญ...
				
comments powered by Disqus
  • sonax0651

    24 ธันวาคม 2550 05:22 น. - comment id 803728

    11.gif
    แวะมารับกลอนเพราะๆยามเช้าตรู
    ธรรมยามเช้าครับ
    41.gif31.gif36.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    24 ธันวาคม 2550 19:51 น. - comment id 803945

    จะลด  ละ  แต่คงเลิกทานเลยไม่ได้
    
    เว้นสักมื้อสองมื้อ  พอไหวค่ะ อิอิ
    
    ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
    
    และขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่มีมาแนะนำค่ะ
  • ต้นทิวา

    25 ธันวาคม 2550 08:41 น. - comment id 804072

    36.gif36.gif36.gif59.gif46.gif
  • โคลอน

    25 ธันวาคม 2550 16:26 น. - comment id 804231

    29.gif29.gif29.gif36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน