สิ้นสุดสายปลายทางรางความฝัน ค่ำคืนวันพร่างพรายมลายสาง เงามืดมนต์ดลสลายละลายจาง เพื่อทอดทางสู่วันพรุ่งรุ่งอรุณ จ้าวสุริยะฉะแดงแผลงอิทธิฤทธิ์ ทอสถิตย์เรืองรองช่องเขาขุน ค่อยคลืบคลานหว่านแสงแห่งอดุลย์ อบอวลอุ่นไออิ่มกริ่มพนา มวลพฤกษามาลีทุกชีวิต นิ่งสนิทหลับใหลไซ้หมอกหนา ยามต้องแสงแห่งอาทิตย์กริดกรีดมา กายนิทราผวาตื่นคืนสามัญ ทอประกายฉายฉาดฟาดรังสี ทอดนทีแสงระเรื่อเหนือขอบ*หวัน จดบรรจบพบหาดทรายปลายตะวัน ส่องสรัญวันใหม่ไปทั่วแดน ก้าววันใหม่คลืบคลานผ่านอีกก้าว ทุกย่างเท้าสำคัญนั้นสุดแสน เพราะสังคมจมน้ำใจใคร่ขาดแคลน เป็นดินแดนแก่งแย่งตำแหน่งคน พระอาทิตย์ผลิตแสงแห่งโลกหล้า มิใช่แสงแห่งฝันกล้าใช้ฝ่าฝน อุปสรรคมากมายกรายมายล ดุจเม็ดฝนดับแสงแห่งตะวัน แสงแห่งฝันนั้นคือใจเป็นไฟจุด สว่างสุดนำทางสู่รางฝัน ก้าวด้วยใจไฟแสงส่องผ่องอำพัน รับตะวัน..วันใหม่เส้นชัยรอ ......กะลาสีเบจ (๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๐) *หวัน - ตะวัน (หวัน เป็นคำภาษาถิ่นใต้)
15 พฤศจิกายน 2550 16:48 น. - comment id 788961
เดี๋ยวนี้เช้าๆ ตะวันก็คงหลับอุตุเหมือนกันค่ะ อากาศเลยขมุกขมัวพิกล
18 พฤศจิกายน 2550 06:24 น. - comment id 790268
สวัสดีค่ะ กลอนเพราะมากค่ะ
7 ธันวาคม 2550 20:28 น. - comment id 797886
กลอนเพราะมากเลยค่า เป็นกำลังใจให้แต่งกลอนต่อไปน้า