โลกมีเมื่อสมมติ ครั้นลืมตาพาเห็นสิ่งเป็นทุกข์ ทั้งสนุกทั้งโศกเศร้าเคล้าไฉน เมาสมมติว่าสิ่งนั้นมันวิไล พาหัวใจเข้าไปจมหวังชมเชย ทั้งโลกนี้ว่างเปล่าเหงาที่สุด ไร้มนุษย์ไร้สัตว์ชัดเฉลย ไร้ต้นไม้ไร้ใบหญ้าอย่าบ้าเลย ไร้ทุกสิ่งที่เราเคยได้เห็นมา มันก็ล้วนชวนแต่หลงพะวงจิต ปรุงให้คิดสมมติสุดหรรษา นั่นสิ่งนั้นมันชื่นรื่นกายา จึงชักพาให้หลงทุกข์สนุกไป ในโลกนี้มีอะไรที่ไหนแน่ ที่สุขแท้ไม่ร้างสว่างไสว มีสิ่งหนึ่งสำคัญนั้นที่ใจ สงบได้พบสุขแน่อย่างแท้จริง ชี้ร่างกายของเราที่สาวสวย สุดสำรวยหลากหลายทั้งชายหญิง ที่เห็นงามทรามวสงวนชวนแอบอิง ก็ในสิ่งที่มายาอันบ้าบอ มองให้เห็นชัดชัดถนัดเนตร สิ่งสมเพสเทวษใจอันใดหนอ พาหัวใจเรานั่งลงรั้งรอ ชื่นสมมติดุจช่อมาลากรรม สิ่งสมมติให้เห็นเป็นสมมติ แล้วเร่งรุดเริ่มใจให้ชื่นฉ่ำ พิจารณาให้เห็นเป็นรสธรรม จะพาใจดื่มด่ำทุกค่ำเช้า วัฏฏะสงสารสงสารดังขานว่า เวทนามิได้สิ้นจินต์สุดเศร้า มองให้เห็นหนึ่งในนั้นมันตัวเรา เกิดมาเขลาชั่วประเดี๋ยวก็เลี้ยวไป ชีวิตเราเหมือนเป็นเช่นละคอน มันยอกย้อนโย้เย้เขวไฉน พอจบตอนจะปรีดาหรือหาไม่ พาหัวใจเลือกได้ในครานี้ สงบเถิดเปิดพระธรรมนำชีวิต อย่าหวนคิดถึงมายาจงกล้าหนี พบสุขจริงสุขยิ่งพ้นทวี หลุดแหล่งโลกทุกข์นี้ที่นิพพาน 4:24 8/11/255
12 พฤศจิกายน 2550 18:12 น. - comment id 787373
ทั้งวุ่นวายว่ายวนบนวงวัฏ สรรพสัตว์สับสนจิตหม่นหมอง คอยแสงธรรมส่องใจให้ครรลอง เห็นทางทองทอดไกลไปนิพพาน
12 พฤศจิกายน 2550 19:43 น. - comment id 787416
คุณเพชรสังคีต สื่อความหมายถึงหลักธรรมได้เยี่ยมครับ สมติมีสองประเภท สมมติสัจจะ ความจริงตามกระแสโลก และ ปรมัตถสัจจะ ความจริงตามกระแสธรรม
12 พฤศจิกายน 2550 20:39 น. - comment id 787457
โลกสมมติ สุขทุกข์อยู่ที่ใจ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
13 พฤศจิกายน 2550 08:04 น. - comment id 787609