บางคนทุกข์... บางคนสุข... บางคนเศร้า.. บางคนเหงา... บางคนเปลี่ยว... บ้างเที่ยวหลง... บ้างยึดมั่น... บ้างยึดถือ... บ้างปลดปลง... บางคนลง... บางคนขึ้น... สลับวน... อนิจจา... ความสุข.. นั้นไม่เที่ยง... ทุกข์ก็เพียง... ผ่านมา.. น่าฉงน... ใยไปยึด... ไปแบกไว้.. เล่า! ละคน... เดี๋ยวก็พ้น... เดี๋ยวก็ผ่าน.. จากมันไป... ไม่มีใคร... ทุกข์ไป... ตลอดดอก... ไม่มีหรอก... ใครที่สุข... ชั่วกัลป์ได้... สุขทุกข์โลก.. หมุ่นเปลี่ยน... ผ่านเวียนไป... สุดท้ายไซร้... ชีวิต... ต้องม้วยลง... เราเลือกได้... ชีวิต... อันน้อยนี้... สิทธิเลือกที่... จะมี... หรือขัดสน... สิทธิเลือกที่... จะสุข.. หรือทุกข์วน.. หรือเลือกพ้น... สิ้นทุกข์... ตลอดกาล.... พุทธะท่าน... ชี้ทาง... ดำเนินแล้ว... ทางผ่องแผ่ว.... โล่งเตียน.... ไร้ขวากหนาม.. ทางพ้นทุกข์... อยู่ข้างหน้า... จะพยายาม... หรือจะตาม... กิเลส... ทุกข์ร่ำไป.... อันว่าทุกข์.... เจือใส้... กิเลสนี้... มันทุกข์ที... ทุกข์ทน... ไม่หมดให้.... ถึงจะ "สุข".... โลกโลกย์.. แท้จริงไซร้... ก็เป็นได้... แค่"ทุกข์.. ลดน้อยลง"... ลองดำริ.... ตริเหตุ.. ดูเอาเถิด... สุขที่เกิด.... จากกิเลส... เหตุเศร้าหลง... มันอยู่ได้... แต่ไม่... อยู่ทนคง... สุดท้างลง.... ต้องกลาย... สลายไป... สุขอันใด... สุขหนอ... สุขที่แท้... สุขที่แม้... ทุกข์ซ้ำ... ไม่พลันหาย... สุขภายนอก.... ถ้าทุกข์แทรก... พลันมลาย.... แล้วสุขไหน.... ที่แท้... ที่หวังกัน... สุขจากใจ... ไม่ยึดมั่น... กับสิ่งของ... สุขที่ต้อง... ไร้ "กิเลส... เจือ"หมดสิ้น... สุขจากเหตุ.... ละวาง... คือทางจริง.... เพราะทุกสิ่ง.... ต้องจาก... ตัวเราไป... หากไปยึด... เอาสุข... จากเหล่านั้น... ต้องมีวัน... ทุกข์แน่.. แน่ใช่ไหม... เพราะทุกสิ่ง... ต้องจาก... ตัวเราไป... ยึดเข้าไว้... ก็รอทุกข์... อยู่ได้เลย..... พุทธะสอน... กู ๆ.... เหตุตัวทุกข์.... กิเลสสุด.... ยอดนี้.... คือเฉลย... หากรู้จัก... "วาง" เสียบ้าง... คงลงเอย.... ที่เราเคย... ทุกข์! ย่อมพลัน... มลายไป... แบกโลกไว้.... แน่ไซร้.... มันย่อมหนัก.... วางลงจัก.... เบาแน่.... ง่ายใช่ไหม... รู้อยู่แล้ว.... ทางสุขแท้... อยู่เช่นไร.... จะเลือกไป... หรือเลือกโง่... เชิญเลือกเอง ๚ะ๛ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
2 พฤศจิกายน 2550 09:32 น. - comment id 781290
ถือก็หนัก วางก็เบาค่ะ
2 พฤศจิกายน 2550 12:46 น. - comment id 781412
สุขหรือทุกข์เพียงบันไดได้เรียนรู้ ด้วยต้องอยู่ในโลกอันโศกหลง หากไร้ทุกข์ไร้สุขไร้ปล่อยปลง แล้วจะลงมาทนทุกข์อยู่ทำไม ต่างภาระหน้าที่ตามที่รับ เพื่อระงับความเขลาเศร้าหวั่นไหว มิโง่ก่อนจะสอนเขายากเข้าใจ ฉลาดไซร้มาจากโง่โอ้คนดี.....อิอิอิ.. แวะมาทักทายครับ.....เอาอีกง่ะ..ชอบจังเยย หนุกดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....
2 พฤศจิกายน 2550 15:40 น. - comment id 781526
หูย...นี่มือใหม่เหรอคะ...ฝีมือไม่ใหม่เลยอ่ะ...เก่งจัง...ชื่นชมๆ
2 พฤศจิกายน 2550 21:58 น. - comment id 781771
แวะมาอ่านค่ะ..คงไม่ใช่มือใหม่แล้วมั๊ง.... เก่าจากไหน มาใหม่แถวนี้...
12 พฤศจิกายน 2550 16:06 น. - comment id 787289
ให้กำลังใจคนเขียนครับ แต่อยากให้ระวังเรื่องสัมผัสระหว่างบทครับ คำสุดท้ายของบาทที่ 1 จะต้องสัมผัสกับคำสุดท้ายของบาทที่ 2 ในบทก่อนหน้า ไม่ได้ยึดติดรูปแบบครับ แต่พอมันไม่สัมผัส มันก็สะดุด ตัวอย่างเช่น คำว่าลง (บรรทัดที่ 12) กับคำว่า สน (บรรทัดที่ 14) ไม่สัมผัสกันครับ
30 พฤศจิกายน 2550 22:07 น. - comment id 795234
ขอบพระคุณมากครับท่านผ่านมา ก็บอกแล้วไงค้าบ ว่าผมมือใหม่ อิอิ
12 พฤศจิกายน 2552 19:14 น. - comment id 1063592
เรียนพุทธบริษัททั้งข้างบน และทั้งมวล ---------------------------------------------- เตือนตนนะ^ เพียงชาวพุทธทั้งพระฆราวาส เบื้องหน้าฉากคือชาวพุทธตามคำสอน แต่ในใจ ไม่ "พุทธะ" จิตอาวรณ์ จะหวังวอนโวยวายทำไมกัน พระ: โยม ๆ ช่วยกันดิ... ทั้งหน้าที่ อย่าโยน แต่เพียง "พระ" "โยม" ด้วยนะ ทั้งสิ้นคือเหตุผล ช่วยรักษาเตือนกันบ้างหวังดีคน จะได้ผลเป็นวิเศษเหตุไพบูลย์ โยม: ว่าแล้ว โยมช่วยหลวงพี่บ้างละกัน... เดิมโวยวาย ว่าโรงเรียน ออกจากวัด พระก็ซัด น้ำชา ลืมกุศล ทั้งก่อสร้าง ก่อนู่นนี่ มากมายจน ลืมตัวตน หน้าที่แท้ คืออะไร มาบัดนี้ กรมศาสน์ ดำริแล้ว ยกเหตุแก้ว นำพระเข้า โรงเรียนสอน แถมถวาย ปัจจัยให้ ไม่อาวรณ์ หวังพระสอน เด็กดี ประเทศไทย เทวภูธร: เออ... แต่มาพอ พอมาพูด เรื่องงูพิษ ทำตัวจิต ตกดังตู๊ม สุดแก้ไข ก็หวังว่า อย่ามัวสอน หวังปัจจัย สอนหวังให้ เด็กดี เท่านี้พอ... นะจ๊ะ