ไหวกาลสะท้านห้วง สิ่งทั้งปวงเกิดแจ้งแสดงผล ใดวิเศษเกินนภาธราดล ณ สามัญสกลธรรมดา เสียงอภิธรรมหลังความตาย มิเคยย้อนใดหมายในหนหา แต่ต้นตีนแตะตั้งรั้งชีวา เกิดดับมาแสนหมื่นชื่นกระไร ไม่มีดอกน้ำตา ในความจริงแห่งมายาอันสาไถย ประเดี๋ยวทุกข์ประเดี๋ยวสุขเคล้าคลุกไป รึน้ำตาเจ้ารินไหลอยู่ทุกวัน ไม่มีดอกรอยยิ้ม โดยพรายพริ้มพร่างแย้มเจิดแจ่มฝัน เพียงวาบไหวระรื่นหยิบยื่นปัน ใช่นิรันดร์ในยิ้มพิมพ์ประกาย ไม่มีดอกความสุข ที่ปั่นปลุกคุณค่าแลความหมาย ไม่มีดอกความทุกข์ที่รุกราย ยังแต่ความวุ่นวายของอารมณ์ ไหวกาลสะท้านห้วง สิ่งทั้งปวงแต่เริ่มเดิมปฐม เกิดเพื่อดับลับไปในสายลม ดีชั่วชมคำวางอ้างว้างใจ อภิธรรมบทสุดท้าย สิ้นลับหายด้วยเสียงสำเนียงไหว เหตุปัจจะโย โ อ้ปัจจัย มาแต่ใดไปแลล้วนแต่กรรม ------------------------------- ลานเทวา
30 สิงหาคม 2550 07:04 น. - comment id 746219
คนลานเทวา คือท่อนไม้ไร้ชีวิต หมดความคิดทอดอาลัย หลงรัก ขึ้ง เครียดใด ก็สิ้นไปตามลมปราณ ไม่มีเสียงสำเหนียก ไม่อาจเรียกร้องต้องการ ชีวิตที่พ้นผ่าน ทรมานหยุดเสียที
30 สิงหาคม 2550 12:19 น. - comment id 746364
บอกแล้วไงเล่า ของชอบจะจัดให้...อิอิ...
30 สิงหาคม 2550 12:44 น. - comment id 746395
แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ..
31 สิงหาคม 2550 14:34 น. - comment id 747016
จากจรลับลาโลก แค่ทุกข์โศก ผ่านพ้นไป จากนี้ ใช่จากไกล คงครวญใคร่ อนัตตา กงกรรม ที่ก่อเกิด จะบรรเจิด ร่วมทุกขา กรรมเก่า ย้อนตามมา เพราะชาติหน้า เป็นกงเกวียน
1 กันยายน 2550 23:26 น. - comment id 747590