พรมธารายามอรุณด้วยกรุ่นกลิ่น อาบผืนดินด้วยเกสรละอองป่า หยาดน้ำค้างพร่างสายพรายดารา ภาวนาอยู่ระวางวิมานพฤกษ์ ดุจริมฝั่งสายธารนิมานรดี เมทินีสว่างสรวงแม้นห้วงดึก รับบรรเลงมนต์ธรรมอันล้ำลึก ผลผลึกอภิญญาณ-ฌานภิญโญ เมื่ออาทิตย์อุทัยแรกแตกดอกวับ พร้อมบทเพลงวิหคขับจับกิ่งโผ บัลลังก์อาสน์ใต้ร่มบรมโพธิ์ มนต์พุทธโทแว่วผ่านวิมานไพร ทิวาวันวิสาขปุณณมี มะลุลีผลิรับจากหลับใหล หยดน้ำค้างหยาดเย็นค่อยเป็นไป ว่อนไหวเหล่ารุกขชาติดาษอัมพร ริมธารธรรมสายน้ำยามรุ่งเช้า ใต้ร่มเงาวนาวัลย์บรรจถรณ์ โพธิสัตว์แสงประทับจับจีวร พนันดรก็บรรสารทุกธารพราย มธุปายาสข้าวทิพย์วิจิตรสรร กรุ่นสุคันธ์สุชาดามาถวาย เครื่องพลีกรรมอวลกลิ่นมิสิ้นวาย โลกบาลร่วมเรียงรายรับพิธี รัตนบัลลังก์นั่งภาวนา เมื่อทิพย์ทองส่องหล้าพระโพธิ์ศรี ทินกรร่อนเริงเวิ้งวารี บารมีคลี่อาบทาบไพรวัลย์ สัตยาอธิษฐานลงธารน้ำ อรุณยามฤกษ์ล่วงดั่งสรวงสรรค์ ถาดทองทวนลอยย้อยสาครครัน ทวนกระแสเนรัญฯ เป็นมรรคา ปฐมยามราตรีค่อยหรี่ล่วง ยามโสมสรวงเสวยแสงแหล่งเวหา สมาบัติสำเร็จแจ้งแห่งวิญญาญ์ ซึ่งปุพเพนิวาสา-นุสสติญาณ มัชฌิมกาลล่วงผ่านทวารสอง องค์สัมมาลุครรลองจักษุสาส์น นิรมิตทิพย-จักขุญาณ สรรพสัตว์เพรงกาลมาวางวาย ปัจฉิมยามกาลสมัยใกล้รุ่งฤทธิ์ หยั่งพินิจปัจจยาการมินานหมาย อริยสัจรู้แจ้งสำแดงกาย คลายซึ่งปฏิจจสมุปบาทอวิชชา เมื่อแสงทองทอรับจับระบัด โพธิสัตว์สดับแจ้งแรงตัญหา ตรัสรู้ลุพระสัพพัญญุตา ดับสูญสิ้นกิเลสกล้าอัตตามาร มหัศจรรย์อุบัติซ้องมรรคผล หมื่นปฐพีดลลั่นธาตุปราชญ์สถาน ทศพลเปล่งสีหนาทปฐมทาน ใต้ร่มโพธิญาณอุรุเวฬาฯ ทิพย์ดนตรีบรรเลงเพลงอภิวาท เอนกชาติสังสารังองค์คาถา สัปบุรุษตรัสรู้แล้วแก้วสัมมาฯ พุทธธาดาโลกนาถทุกชาติภพ ---------------------------------- ยามเช้าที่ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง ณ ริมฝั่งน้ำเนรัญชราฯ อุรุเวฬาเสนานิคม ไม่มีสรรพสิ่งไหนจะเงียบงามเท่ากับภิกษุนั่งบำเพ็ญภาวนา สงบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติภายในและภายนอก ในยามที่จิตประภัสสรนั้นย่อมได้มาซึ่งปัญญาญาณ พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวไม่แจ่มฟ้า วิสาขาบูชากำลังจะมาถึง ทำให้ข้าพเจ้านึกประหวัดไปถึงบรรยากาศริมฝั่งน้ำเนรัญชรา ณ ตำบลอุรุเวฬาเสนานิคม ดินแดนพุทธคยา ครั้งสมัยพุทธกาล พร้อมกับบทเพลงบรรเลงดนตรีสายธารธรรม อุรุเวฬาเสนานิคม มหาอุบาสิกานามสุชาดา และเพลงบรรเลงพระโพธ์แก้ว กำลังบรรเลงในยามนี้อย่างเงียบลึกในห้วงใจ การเดินทางของใจที่เที่ยงแท้เยี่ยงดวงหทัยขององค์พระสัมมาฯ ตั้งแต่บำเพ็ญเพียรภาวนา ณ รัตนบัลลังก์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ จวบจนลุวิสาขปุณณมีกาล มหาอุบาสิกานามสุชาได้นำข้าวมธุปายาสถวาย ทรงอธิฐานลอยถอดทอง ลงห้วงน้ำเนรัญชรา ผจญหมู่มาร ตลอดจนตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์ ความตอนหนึ่งในพุทธประวัติบรรยาย ณ เวลาตรัสรู้ในยามรุ่งอรุณไว้ว่า "ในขณะนั้น ก็พอเป็นเวลาที่แสงทองแห่งอรุณทอแสงขึ้นจับขอบฟ้า พระบรมโพธิสัตว์ก็ตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ ดับสูญสิ้นกิเลสาสวะ เป็นสมุจเฉทปหาน พร้อมด้วยความมหัศจรรย์ หมื่นโลกธาตุบันลือลั่น ด้วยการหวั่นไหวแห่งปฐพีดล พระทศพลจึงเปล่งสีหนาทเป็นปฐมอุทาน เยาะเย้ยตัณหาด้วยพระคาถาว่า อเนกชาติสํสารํ.." การตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์บ่งนำถึงการตั้งมั่นของดวงหทัยที่เที่ยงแท้ ตลอดการบำเพ็ญเพียรภาวนา ------------------------------------------------- ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์ รจนาบูชาในวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖
31 พฤษภาคม 2550 01:36 น. - comment id 703722
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem78494.html โพธิศรัทธา ผสานจิตน้อมพลีรจนาดั่งพุทธบูชา ด้วยศรัทธาคารวะค่ะ
31 พฤษภาคม 2550 01:54 น. - comment id 703724
เหมือนฝันไปว่าลำน้ำน่านจะเปิดโรงเรียน ทางจิตวิญญาณ สานงานกวี ที่*วิมานโมก* เช่นนั้นมั้ยละคะ
31 พฤษภาคม 2550 02:11 น. - comment id 703725
เรือนแห่งขวัญ..ฝัน..
31 พฤษภาคม 2550 06:18 น. - comment id 703734
ธรรมะสวัสดีค่ะ
31 พฤษภาคม 2550 06:36 น. - comment id 703743
กลอนก็เพราะ ดนตรีก็เพราะค่ะ
31 พฤษภาคม 2550 07:29 น. - comment id 703762
เห็นภาพเลยอ่ะครับ
31 พฤษภาคม 2550 08:04 น. - comment id 703763
สวัสดีค่ะ คุณลำน้ำน่าน ดอกบัวได้ยินเสียงนกร้อง เหมือนได้นั่งอยู่กลางป่าที่สงบเย็นใจ กลอนและทำนองเพลงให้ความรู้สึกมากมายค่ะ ขออนุญาตนะค่ะ พี่พุดค่ะ อุทยาน ร.2 ในนั้นสงบสวยงามนะค่ะ บัวไปกันบ่อยมากค่ะต้องไปตอนบ่ายๆหน่อยค่ะ
31 พฤษภาคม 2550 18:39 น. - comment id 703933
สองมือสงบนิ่ง ใจดวงนี้รำลึก ตลอดมา
1 มิถุนายน 2550 07:27 น. - comment id 704033
ภาพสวย กลอนก็เพราะเหมือนเดิมนะคะพี่นิว ไม่เจอกันนานเลยสบายดีนะคะ ปล: เห็นพี่แล้วคิดถึงพี่ น้ำ จังเลยค่ะ
1 มิถุนายน 2550 10:02 น. - comment id 704106
งดงามจริงๆค่ะ
1 มิถุนายน 2550 10:06 น. - comment id 704110
บทกวีของท่านลำน้ำน่าน ควรแก่การคารวะอย่างยิ่ง ตลอดกาล ครับผม