๑.เธอผู้จรร่อนเร่แห่งเมษา แสวงหาสิ่งใดจากใบไม้ เมื่อแดดร้อนราวเถ้าภูเขาไฟ โลกแทบไหม้เกรียมเหม็นกลายเป็นควัน เห็นรอยแล้งลำคลอง..เธอร้องไห้ ดับเถิดไฟโหดเหี้ยมแห่งคิมหันต์ ที่ทุ่มเทเวลาเพาะกล้าพันธุ์ หวังสักวันใบดอกจะงอกเงย ฝนจึงพลันกลั่นหยาดลงสาดซู่ โลกรับรู้เสียงไห้แล้วไพรเอ๋ย มรสุมชุ่มโชกแล้วโลกเอย เจ้าไม่เคยไหลหลั่งหรืออย่างไร ............................................ ๒.วสันตฤดูกาลช่างนานนัก เธอหลงรักการไหวของใบไม้ แหละหลงรักฝนแรก..การแตกใบ รักเสียงไหลรินร่ำของลำธาร เมื่อต้นกล้าใหญ่จนแทนต้นเก่า ต้นไม้เฒ่าก็สิ้นอวสานต์ เมล็ดพันธุ์ใหม่งอกพอดอกบาน ฤดูกาลก็เวียนมาเปลี่ยนแปลง เธอเรียนรู้สิ่งใดจากใบไม้ การเกิดใหม่..ร่วงโรยและโหยแห้ง ฤดูกาลกัดกร่อนจนอ่อนแรง สูญสิ้นแสงสุรีย์สีเงินยวง ............................................ ๓.หนาวนักมกรา..ยิ่งกว่าหนาว ขอถามข่าวได้ไหมใบไม้ร่วง อย่าเลยอย่าปรามผู้ถามทวง ถึงหนึ่งดวงวิญญาณที่หายไป ผู้ซึ่งเคยข้ามคืนที่ลื่นล้ม เคยกางร่มหลบฝนใต้ต้นไม้ ผู้เคยนับใบไม้แต่ละใบ ว่าเติบใหญ่กว่าเดิมหรือเริ่มโรย ................................................. เมื่อเธอพบความหมายจากปลายใบ วันแห่งวัยชีวิตก็ปลิดโปรย ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓
13 พฤษภาคม 2550 04:49 น. - comment id 694825
ป.ก็เคยได้ยินมาแบบนี้เหมือนกัน..ทำให้ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า อย่าเพิ่งตัดสินใคร หรือ อะไรจากบันทึกของประวัติศาสตร์ เพราะทุกอย่างย่อมมีเงื่อนงำ และเหตุผลเสมอ เพียงแต่ไม่ สามารถบอกกล่าวเรื่องราวได้ตรงความจริงทั้งหมดเท่านั้น ..*-*-*-เชื่อมั่นในบรรพบุรุษของเราเสมอ-*-*-*..
13 พฤษภาคม 2550 10:35 น. - comment id 694869
ผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกันนะครับ
13 พฤษภาคม 2550 11:27 น. - comment id 694880
เขียนได้เหมือนจริง และ เหมือนอยู่ในบรรยากาศย้อนไปในสมัยนั้นเลยจ๊ะ
13 พฤษภาคม 2550 11:31 น. - comment id 694882
13 พฤษภาคม 2550 13:26 น. - comment id 694899
คิดถึงหนังเรื่องพระเจ้าตากสิน
13 พฤษภาคม 2550 14:04 น. - comment id 694914
ปราณรวี ประวัติศาสตร์อาจจำเป็นต้องเขียนแบบนั้น ตามพระประสงค์ ถ้าความจริงรั่วไหลไป ต่างชาติจะว่าเราโกงเงินเขามา ถูกเขาตีแน่ ตอนนั้นเราอ่อนแอมาก มีโอกาสเสียเมืองด้วยซ้ำไป ...ขอบคุณมากคุณปราณรวีที่มาทักทายกันทุกครั้ง
13 พฤษภาคม 2550 14:07 น. - comment id 694915
เบรฟ ตามที่หลวงพ่อท่านเล่า พระเจ้าตากสิน เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งเหมือนกัน ...ขอบคุณที่มาทักทาย
13 พฤษภาคม 2550 14:18 น. - comment id 694918
เพื่อน....ตอนนี้อยู่ต่างแดน ขอบคุณครับ....ปรกติเวลาเขียนงานไม่ว่ากลอน หรือเรื่องสั้น ผมมักเอาอารมณ์ใส่ไปก่อน แล้วตามด้วยสัมผัสนอกแค่นั้นเองครับ แต่งานชิ้นนี้ไม่ค่อยมีมิติ ตัวละครค่อนข้างแบน ตอนเขียนง่วงมาก..ดึกแล้ว จุดประสงค์แค่อยากให้คนไทยมองภาพทั้งสองพระองค์ชัดเจนขึ้น ว่าพระองค์เสียสละมากแค่ไหน ยอมแลกที่จะเสียภาพลักษณ์มากกว่าเสียประเทศ
13 พฤษภาคม 2550 14:25 น. - comment id 694920
พี่ไรไก่ ผมได้ดูแค่ผ่านๆทางช่องสาม...นอกจากพระเจ้าตากสินแล้ว หลวงพ่อท่านยังเล่าเรื่องของพระนเรศวร ว่าตอนนี้พระองค์มาเกิดแล้วอยู่ในประเทศไทย และยังไม่หยุดทำสงคราม แต่คราวนี้เป็นสงครามกับความยากจน...ซึ่งพวกเรารู้ดีว่าเป็นใคร
13 พฤษภาคม 2550 15:26 น. - comment id 694946
กลอนเพราะมาก เขียนบรรยายเล่าเรื่องได้อย่างราบรื่น ดีนักค่ะ ท่านรักชาติ ยิ่งชีพ เหมาะสมแล้วค่ะ
13 พฤษภาคม 2550 21:23 น. - comment id 695059
เพิ่งรู้ครับ เป็นความรู้ใหม่เลย
13 พฤษภาคม 2550 22:32 น. - comment id 695111
ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
14 พฤษภาคม 2550 07:33 น. - comment id 695192
เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ คนเราต้องมองต่างมุมไว้บ้างเนาะ
14 พฤษภาคม 2550 11:24 น. - comment id 695336
ขอคารวะ ..ท่านอาจารย์ฤทธิ์ ศรีดวงครับ อาจารย์เยี่ยมมากครับ..ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยครับ
14 พฤษภาคม 2550 12:46 น. - comment id 695390
อืมมมมมม เก่งประวัติศาสตร์
14 พฤษภาคม 2550 20:18 น. - comment id 695600
โหว แต่งได้ยังไงค่ะเนี่ย อ่านแล้วอย่างกับได้ไปอยู่ในกรุงศรีในยุคสมัยนั้นเลย แต่งกลอนเก่งมากเลยค่ะ ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนค่ะ ข้าพเจ้า หนึ่งใน ลูกหลานไทย จะสำนึก เรื่อยไป นับแต่นี้ จะไม่ลืม อู่ข้าวน้ำ เลี้ยงชีวี จะยอมพลี ทดแทน คุณแผ่นดิน
15 พฤษภาคม 2550 02:16 น. - comment id 695736
เคยอ่านมาบ้างเหมือนกัน เคยอ่านงานเขียนของหลวงวิจิตรวาทการ แต่หนังสือที่อ่านไม่ได้แสดงเงื่อนงำในเรื่องเกี่ยวกับหนี้สินไว้
22 กันยายน 2550 10:44 น. - comment id 757748
อืมม เข้ามาอ่าน .. มีบางคนเล่าแบบนี้เหมือนกัน
8 ธันวาคม 2550 10:28 น. - comment id 798018
ไม่เชื่ออย่างแรง..สมัยก่อนมาการแย่งชิงบัลลังค์กันรุนแรง แล้วโอรสเจ้าตากจะยอมได้อย่างไร ให้ลูกน้องขึ้นครองบัลลังค์
17 กรกฎาคม 2551 16:36 น. - comment id 874849
คงไม่ช้าไปนะค่ะ เพิ่งค้นคว้าและได้อ่านวันนี้เองค่ะ เป็นอีกข้อนึงที่ยังค้างคาใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ประวัติศาสตร์ก็คือประวัติศาสตร์อย่างไรเสียถ้าไม่มีท่านป่านนี้เราจะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ประเทศอะไรก็ไม่รู้ น้อมรำลึกพระคุณของกระษัติร์ทุกพระองค์ค่ะ หากใช้คำที่ไม่เหมาะสมต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยค่ะ