แสงสว่างเล็กๆจากปลายอุโมงค์
ศิลป์กีรติ ว่าโร๊ะ
ประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่เคยรู้ว่าเคยมีอยู่กับการเมืองไทยหรือไม่
อำนาจเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน
ประชาธิปไตยที่คล้ายเป็นเพียงแค่นามธรรม มากกว่า รูปธรรม
ฉันไม่เคยมองเห็นประชาธิปไตยเที่ยงแท้ในประเทศไทย
ถึงแม้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร,วุฒิสภา มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน
แม้ รัฐบาล คือเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
เลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่าผลสุดท้ายอำนาจอธิปไตยนั้นไปเป็นของใคร
ประชาชนไม่เคยรู้เรื่องราว รัฐบาล,รัฐมนตรีแต่ละสมัยไม่เคยโปร่งใส
รัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่าถูกฉ๊กทิ้งด้วยเหตุเพราะยังมีช่องโหว่
รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถูกเขวี้ยงทิ้งเพราะยังมีช่องทางคอรัปชั่น,คดโกงกินบ้านเมืองทำมาหากินบนหลังคนของเหล่ารัฐมนตรีเกือบทุกยุคสมัย และอย่างยิ่งรัฐมนตรีคณะรัฐบาลที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ที่สุดประชาธิปไตยถูกพรากไปด้วยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการรัฐประหารโดยกองทัพทหาร
เหตุผลเพื่อเยียวยาสร้างความสมานฉันท์,แก้ปัญหา3จังหวัดชายแดนใต้
หากมองจากบางมุม ดูเหมือนมันจะเป็นทางออกแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
เพราะสังคมไทยแหลกเหลวเน่าเฝะเต็มที
ต้องการการกอบกู้สังคมคืนมาจากความห่วยแตก
หากมองจากอีกบางมุม อำนาจอธิปไตยของประชาชนกลับคืนไปตกอยู่ในมือใคร
กฏอัยการศึก,รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว,การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก็เรียกไม่ได้ว่า
เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ยังเป็นข้อกังขา
นายกรัฐมนตรี,คณะรัฐมนตรี,สภานิตืบัญญัติ,คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
เกิดมาอย่างเฉพาะกิจ ..เป็นเพียงความหวังเล็กๆ
การเดินทางกลางอุโมงค์มืดของประเทศไทย คล้ายการมองเห็นแสงสว่างเล็กๆ..จากปลายอุโมงค์อย่างมีความหวัง....................
เพียงแต่.....ระยะทางการเดินทางของแสงจากปลายอุโมงค์กี่ล้านปีแสงเท่านั้นเอง
16 ตุลาคม 2549