แวววาวพราวระยับประดับฟ้า ดาริกาเดียวดายคล้ายคนเหงา ถึงล้านดวงรุมล้อมรายรอบเรา มิบรรเทาร้าวรานสะท้านใจ รุ่งอรุณเยี่ยมฟ้าอุษาสาง ดาวคงจางสิ้นหมดเคยสดใส หากตะวันลับลาฟ้าเมื่อใด เริ้มต้นใหม่ค่ำคืนดาษดื่นดาว
1 สิงหาคม 2549 01:23 น. - comment id 594218
เยี่ยมในการใช้สัมผัสคำกลอน และถ้อยคำ แต่สื่อความหมายน้อยไปนิด
1 สิงหาคม 2549 01:23 น. - comment id 594219
เยี่ยมมากครับ...... สะท้อนอารมณ์ของผุ้เขียน.. ได้น่ารักครับ
1 สิงหาคม 2549 09:58 น. - comment id 594252
ดาริกาดาษดื่นเป็นหมื่นดวง ที่หล่นล่วงพุ่งไต้กลายเป็นผี เช่นหญิงสาวคราวรุ่นดรุณี ไม่กี่ปีโทรมทรุดลงมุดดิน ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ยืนยงแม้แต่ดาว
1 สิงหาคม 2549 11:46 น. - comment id 594290
ชีวิตคนเราหากจะเปรียบดุจดวงดาวก็ไม่ผิดนัก เพราะบางครั้งก็กระพริบแสงแวววาวแล้วก็หรุบหรู่ จนถึงล่วงหล่นจากฟ้า หากเราคำนึงพิจารณาแล้ว ก็จะเห็นซึ่งแก่นธรรมอันแท้จริงดุจบุบผาเริ่มต้น แล้วก็ถึงกาลเวลาย่อมล่วงโรยเป็นธรรมดา มาเยี่ยมครับอย่างน้อยก็บรรเทาเหงาได้นิดๆหน่อยๆ ครับ แก้วประเสริฐ.
1 สิงหาคม 2549 12:26 น. - comment id 594299
แวะมาอยู่เป็นเพื่อนยามเหงาจ้า
1 สิงหาคม 2549 16:16 น. - comment id 594373
แวะมาทักทายค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
16 สิงหาคม 2549 12:05 น. - comment id 597914
แม้โลกนี้สิ้นแสงแรงอาทิตย์ ไม่มืดมิดเพราะดาราเวหาหน
5 กันยายน 2549 01:11 น. - comment id 603533
2 มกราคม 2550 15:24 น. - comment id 642486
ดาวดวงเล็กส่องแสงที่สุดฟ้า ไกลลิบตาเหว่ว้าใช่อับแสง เป็นมณีเรืองรองไม่อ่อนแรง ดังสวรรค์ที่ยลยินในนิยาย หาผู้รู้สู่ทาง ณ ปลายฟ้า ธารดาราช้างเผือกดั่งเส้นสาย ตามรุ้งงามทอดผ่านแม้เปรี่ยวกาย ดั่งจันทร์ฉายนำสู่ดาริกา งามแท้วาบวาว มณีเด่น นพคุณเหลืองอ่อนเช่นค้นหา งามนักยามเจ้าเพียงปลายตา ดาริกาพร่างพราวสกาวใจ ร้อยดวงล้อมรอบอยากใกล้ชิด โคจรแนบสนิทมอบรักไว้ เพียงเจ้าตื่นกลัวเพราะเร็วไป ยลยินมิรักตอบเพราะกลัวใจ