ถวายเทียน บรรจงจุดเทียนแจ้งส่องแสงทั่ว ขับความมืดขุ่นมัวที่ข้นหมอง แล้วลงนั่งนิ่งตรึกลองนึกตรอง พิจารณ์จ้องโดยใจเข้าใจจริง จึงเห็นตน เห็นตัวดีชั่วชัด เห็นโศกซ้ำกรรมซัดกำสรวลสิง เห็นคนไทยไร้ผู้ให้พักพิง ข้าวของยิ่งยื้อแย่งแข่งราคา หมายพึ่งรัฐ รัฐเล่าก็เปล่าประโยชน์ คนจนโอดร้องโอยวายโวยผวา ต้องสูญเสียทรัพย์สินไม่สิ้นซา ทนซีดหน้าแสนนานทุกวารวัน ถวายเทียนพรรษาบูชาสงฆ์ เพื่อถอดปลงทุกข์ทิ้งทุกสิ่งสรรพ์ ขอบุญพร่ำอำไพชาติไทยพลัน ให้พ้นอับคับขันครอบนาคร ขอแสงเทียนส่องปัญญาแก่นายกฯ อย่าแลบลิ้นปลิ้นตลกละเลงหลอน ให้เห็นผิดเห็นถูกในทุกตอน เลิกตีต้อนประชาตกลงเตียนตาย พิรุณหลั่งถั่งมาพรรษาใหม่ ราคีไข้แค้นขัดกำจัดหาย ขอแสงเทียน แสงธรรม เจิดกำจาย เชิดชูฉายเฉิดฉินทั่วถิ่นเทอญ (เขียนไว้ตั้งแต่ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘)
11 กรกฎาคม 2549 12:04 น. - comment id 589605
ขอส่งใจมาร่วมถวายเทียนด้วยคนนะครับ
11 กรกฎาคม 2549 22:24 น. - comment id 589677
ข้าเจ้าไปถวายเทียนเหมือนกัน วันนี้ทำบุญเข้าพรรษา รับบุญเท่าๆกันนะ
11 กรกฎาคม 2549 22:32 น. - comment id 589678
เขียนถวายเทียน อ่านจากหัวข้อก็ดูดีนะคะ แต่พอมาอ่านกลอนเนื้อในแล้ว ดูเหมือนจุดมุ่งหมาย ไม่ได้เกี่ยวเนื่องเดียวกันกับสิ่งที่อัลมิตราเดาไว้ตั้งแต่แรก อัลมิตราไปถวายเทียนพรรษามาเหมือนกันค่ะ ที่วัดตานวน จ.ศรีสะเกษ ในขณะที่ถวายเทียน ถวายสังฆทานนั้น ไม่ได้คิดเรื่องการเมือง และไม่ได้คิดเรื่องใด ๆ นอกจากทำใจให้ว่างเปล่า และสงบ อยากบอกเช่นนั้นค่ะ แต่แนวการการของคุณก็ไม่ได้ผิดอะไร .. ตามสไตล์ซึ่งไม่มีรูปแบบผูกมัด กลอนชุดนี้อาจจะมีความรู้สึกผสมกันอยู่ มีกลิ่นไอการเมืองวนกรุ่นอยู่ในโบสถ์ ..
12 กรกฎาคม 2549 07:52 น. - comment id 589709
ขอบพระคุณครับ คุณกันเอง คุณแสงดาว คุณอัลมิตรา และเพื่อนๆทุกท่าน บทนี้ ตอนเขียน (ปี ๒๕๔๘) ก็ตั้งใจเหน็บอยู่แล้วครับ พอเขียนเสร็จก็มานั่งขำอยู่คนเดียว ก็อย่างว่าแหละครับ ตราชูปากบอน อดไม่ไหวจริงๆครับิ
20 กรกฎาคม 2555 15:42 น. - comment id 1239126
ไพเราะเสนอะหูมาก เจ้าค่ะ