ปกติไม่ค่อยชอบเลยบรรยากาศของช่วง ที่มีกลิ่นไอของวันแม่ จะได้ยินเสียงเพลง ค่าน้ำนม อิ่มอุ่น และเพลง ที่ลำรึกถึงพระคุณแม่ ฟังแล้วน้ำตารื้นทุกทีเลย คิดถึงแม่ แปลกน๊ะ ไม่ว่าเราจะอายุมากขึ้นเท่าไหร่ก็ตาม เราก็ยังนึกถึงอดีต ที่เราเป็นลูกเล็ก ๆ ของแม่อยู่เสมอ คิดถึง ท่าทาง อิริยาบทต่าง ๆของแม่ที่เราคุ้นตา ซึ่งเรายังเห็นภาพได้ชัดเจนเหลือเกิน แม่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง แม่ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ ดูแลลูกทั้งสามคนโดยลำพัง ด้วยอายุแม่เพียง สามสิบปลาย ๆ เปล่า พ่อเราไม่ได้เสียชีวิต แต่พ่อเราเป็นคนมีเสน่ห์ กับเพศตรงข้าม และ มนุษยสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามดีมาก จนแม่เราก็ไม่สามารถทนได้ ก็เท่านั้น แม่ว่า แม่ขาดพ่อไม่เป็นไร แต่แม่ขาดลูกทั้ง สามคนแม่ต้องตายแน่ เพราะฉนั้น แม่จึงเลี้ยงดูลูกเอง โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากพ่อ แม่หยิ่ง พ่อก็เลยสบายไป ตัวเองเป็นลูกคนกลาง โดยมีพี่สาว ที่พ่อรักนักหนา และน้องชายคนสุดท้อง แม่ก็รักและหวังมาก ส่วนเราเอง อยู่แบบเบิร์ด ๆ ไม่ใช่แม่ไม่รักน๊ะ เพียงแต่ เราไม่ค่อยทำตัวให้เป็นปัญหา ทุกอย่างเหมือนจะกลาง ๆไปหมด ซึ่งตอนเด็ก ๆ เคยคิดว่าแม่รักเราน้อยกว่า พี่สาว กับน้องชาย ยังนึก ขำตัวเอง คิดได้ไง ก็เราเองนั่นแหละ ที่ทำตัวเป็นลูกที่ดี ซะจนเค๊า ไม่ต้องกังวล (ยอตัวเองซะหน่อย ) เรียนก็ดี ถึงจะไม่เก่งมากมาย แต่ แม่ไม่เคยต้องเสียตังจ่ายค่า เทอม ใน โรงเรียนเอกชน เราจะขวนขวาย เพื่อจะไปสอบเข้า ใน โรงเรียนของรัฐ และก็สอบได้ซะด้วยซิ เก่งจริง เรานี่ 555 ถึงเวลา จูงมือแม่ให้พาไป มอบตัว แล้วจ่ายค่าบำรุง (สมัยนั้น ไม่กี่ร้อยเอง) เสื้อผ้าก็ ไม่ค่อยเรื่องมาก แม่ซื้อใหม่ก็ได้ ไม่ซื้อใหม่ก็ไม่เดือดร้อน สิ่งสำคัญของเราคือเพื่อนๆ จะเพื่อนมาก เป็นแก๊งค์เลย ครูมักจะเรียกว่า *แก๊งค์หลังห้อง* คือชอบจองที่นั่งเป็นกลุ่ม อยู่ด้านหลังสุดของห้อง แต่เรื่องเรียน ไม่เคยสอบได้เลข 2 ตัวเลยน๊ะ นี่คือสิ่งที่แม่ ยอมรับในตัวเรามากที่สุด แม่เคยพูดเสมอว่า * โตขึ้น ลูกคนนี้ ต้องเอาตัวรอดได้แน่นอน * วันแม่ ทุกครั้ง เราจะมีความรู้สึก ผิด เสียดาย เสียใจ อยากย้อนเวลา รู้สึกซึมซับความหมายของประโยคที่ว่า * รักแม่ในขณะที่ยังมีแม่ให้รัก * ที่จริง ความรูสึกนี้อยู่กับเราตลอดเวลา แต่วันแม่ ความรู้สึกนี้ รบกวนจิตใจ ค่อนข้างรุนแรง เป็นเหมือนบาปในใจ คือแม่เสียชีวิต ด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ แต่เราไปไม่ทันเห็นใจแม่ พี่สาวกับน้องชายเล่าให้ฟัง ว่าแม่ ถามหาเราตลอดเวลา ขนาด ตัวเองเจ็บ ก็ยังถามว่าเมื่อไหร่เราจะไปถึง ทำไมมาช้าจัง ในที่สุด แม่ก็สิ้นใจ แต่ก็ได้ฝากของไว้ให้เรา พอเราไปถึงพี่สาวเรา บอกว่า สร้อยที่แม่สวม อยู่กับจี้ห้อยคอ แม่ถอดออกเมื่อวันที่เข้าโรงพยาบาล แล้วบอกให้พี่สาวเราเก็บไว้ให้เรา ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ และคิดเสมอว่า แม่รักเรา แม่รักเรา ไม่น้อยไปกว่าลูกคนไหนเลย แต่เราซิไม่ได้ทำหน้าที่ลูก ที่สมบูรณ์ จำได้ว่า เมื่อเราต้องเดินทางลงมาอยู่ ภาคใต้ครั้งแรก แม่กอดเรา ให้ศีลให้พร ให้เดินทาง แล้วมีแต่โชคลาภ ทำมาหากินให้เจริญรุ่งเรือง แล้วก็ร้องไห้ และทุกครั้งที่เรากลับไปเยี่ยมแม่ ก่อนเดินทางกลับ แม่ก็กอดและ จะให้ศีลให้พร ทุกครั้ง แต่ พอถึงเวลาที่แม่ต้องเดินทางบ้าง เรากลับไม่ได้ อยู่ส่งแม่ ไม่ได้กอดแม่เป็นครั้งสุดท้าย เรายังไม่ได้บอกแม่ก่อนที่แม่จะเดินทางว่า รักแม่ มีมะลิลูกจะมอบเต็มอ้อมแขน ตอบแทนความรักแม่อันยิ่งใหญ่ อยากกราบตักที่เคยหนุนคุ้นกลิ่นไอ แต่ฉันทำไม่ได้..........แม่.........ไม่มี
12 สิงหาคม 2548 21:04 น. - comment id 503136
พี่ศรีฯคะ ผ่านไปแล้วคือผ่านไป สิ่งที่อยู่ในใจก็คงอยู่นะคะ ไว้รำลึกไว้จดจำ หลั่งน้ำตาก็ได้นะคะ ถ้าจะบรรเทาความรู้สึกผิดทั้งหลายลงได้บ้าง จะไปกอดแม่อีกที แล้วบอกว่า พี่ศรีฯฝากมา คงถูกค้อนแบบงง ๆ กับลูกตัวเองตามเคย แบ่งแม่ของพระจันทร์ให้พี่ศรีฯกอดคนละครึ่งนะคะ
12 สิงหาคม 2548 21:09 น. - comment id 503137
แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อคุณ แม้คุณจะไม่มีพ่อคอยดูแลในขณะนั้น น่าคิดนะคะ.. เพราะไม่รู้ว่า หากกลับด้านกัน พ่อจะทำได้ทุกอย่าง อย่างที่แม่ทำ ได้หรือเปล่า ครอบครัวที่ไม่พร้อมหน้า .. แต่คุณแม่ของคุณก็สามารถประคับประคอง ส่งเสียลูกทั้งสามให้เติบโต อย่างที่เรียกว่า มีคุณภาพเสียด้วย น่านับถือมาก .. ขอให้ท่านเป็นสุข ในสุขคติ ค่ะ
12 สิงหาคม 2548 21:22 น. - comment id 503141
อย่าเศร้านะครับ ช่วงนี้ผม คิดถึงแม่ แม้ว่าผมกับท่านจะอยู่ใกล้กัน แต่ผมคิดไปถึงตอนทีไม่มีท่านผม เข้าใจความรู้สึกนะครับ เมื่อวานได้ดูรายการ ชัยบดินทร์โชว์ หม่ำได้ถามโหน่งถึงเรือ่งแม่ ผมเห็นโหน่ง ร้องไห้ ทันทีทันใด ผมรู้สึก อยากจะร้องตาม ทั้งที่มีแม่อยู่ใกล้ ๆ แปลกวันนี้เป็นวันแม่ ผมอ่านงานวันแม่ทุกคนที่โพสต์ ก็บรรยายถึงเรื่องความรักที่ดีต่อแม่ คุณเคยคิดบ้างไหนในตอนนี้ที่ไม่มีท่านแล้ว คุณจะรู้สึกอย่างไร อย่าเศร้านะครับ
12 สิงหาคม 2548 21:45 น. - comment id 503149
เชื่อว่าอย่างน้อย... การที่คุณไม่ทำให้ *แม่*กังวล การที่คุณทำให้ *แม่* ยอมรับและเชื่อมั่นว่า... ** โตขึ้น ลูกคนนี้ ต้องเอาตัวรอดได้แน่นอน ** การที่คุณไม่ได้ทำให้ *แม่* ต้องทุกข์ใจ เท่านี้... ถือว่า คุณได้ทำเพื่อ *แม่* มากพอแล้วค่ะ อย่าเสียใจ นะคะ....
12 สิงหาคม 2548 21:48 น. - comment id 503154
วันนี้..ไม่มีแม่ เพราะแม่จากไปตั้งแต่อายุได้ 8 ปี มีพ่อเลี้ยงมาเป็นทั้งพ่อและแม่ แต่ก็คิดถึงแม่เสมอ จำได้ว่าเคยร้องไห้ตามแม่ตลอดตอนเล็กๆไม่ยอมให้แม่ไปทำงาน
12 สิงหาคม 2548 23:39 น. - comment id 503204
ทราบซึ้งใจ..จริง ๆ... กับบทนี้... รู้...ว่าความคิดถึง.. ที่พี่บอก.. เป็นอย่างไร... แม้ไม่มีแม่..อยู่วันนี้... แต่พี่.. ก็มีแม่อยู่เต็มหัวใจ.. อยู่แล้ว.... มาชื่นชม.. คนรักแม่
13 สิงหาคม 2548 00:20 น. - comment id 503225
อ่านจนจบ แล้วก็เลิกขำแม่.. เพราะวันนี้ไปล้อเลียนมากกว่า จะรักแม่แท้จริง.. คิดแล้วยังบุญอยู่ที่มีแม่อยู่นะคะ.. เขียนได้ดียิ่งค่ะ
13 สิงหาคม 2548 22:57 น. - comment id 503496
...ถูกของพี่ศรีฯครับ...รักแม่ให้มากๆ..ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้รัก... ...รักแม่ให้มาก ๆในขณะที่คุณยังมีแม่ให้รัก... ...แต่แม่คนไหนล่ะครับไม่บอกให้กระจ่าง...(แซวเล่นนะครับ) สวัสดีครับ
14 สิงหาคม 2548 21:28 น. - comment id 503764
แม่คนเลือดข้นเข้ม แม่อิ่มเอมลูกเต็มอิ่ม แม่คนทนยากยิ้ม น้ำตาปริ่มพริ้มลูกดี
16 สิงหาคม 2548 18:50 น. - comment id 504392
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ทุกท่าน คุณ พระจันทร์ไม่เศร้า คุณ อัลมิตรา คุณ แม่จิตร คุณ ผู้หญิงช่างฝัน คุณไรไก่ คุณภูตะวัน คุณ ทิกิ คุณ ที่รักของฉัน คุณ plaing_piu ขอบคุณ ทุกท่านที่มาอ่านน๊ะค๊ะ ที่จริง นั่งดูทีวี เมื่อวันที่ 12 สิงหา ไม่ว่าจะเปิดช่องไหน เห็นแต่ภาพ ลูก ๆ กราบแม่ และก็มีแต่เพลงระลึกถึงพระคุณแม่ เป็นวันที่ ศรีวิจิตรา นั่งตาบวม ไม่ออกไปไหนเลย ร้องไห้ได้ทั้งวัน นึกอยากเขียนกลอน แต่เขียนได้ เท่าที่ลงไว้นั่นเองค่ะ ก็เลยเขียนเป็น เรื่องราวของแม่มีความรู้สึกเหมือนได้ระบาย อะไรที่มันอัดอั้นอยู่ในใจ แต่ก็ยังเชื่อว่า เราคงต้องอยู่กับความรู้สึกนี้ไปตลอดชีวิต ขอบคุณ ทุก ๆ ความเห็นของเพื่อน ๆ พร้อมทั้ง คำปลอบโยนอันอบอุ่น จากเพื่อน ๆค่ะ ขอบคุณมากจริง ๆ
6 ธันวาคม 2549 22:15 น. - comment id 634095
มาอ่านสิ่งดีดีนะครับ