ลูกแหง่

นกตะวัน

ในขณะที่เราเดินเลียบคลองและยกกล้องส่องดูนกมาเรื่อยๆ ควายฝูงใหญ่เกินครึ่งร้อยพากันเดินสวนทางมาโดยมีชาวบ้านคนหนึ่งเดินต้อนควายรั้งท้าย นอกจากนี้ยังมีนกยางควาย (Cattle Egret) จำนวนมากเดินปะปนกันมา ทั้งยังมีนกแซงแซวหางปลา (Black Drongo) และนกเอี้ยงหงอน (White-vented Myna) อีกหลายตัวเกาะติดอยู่บนหัวและหลัง ควายแต่ละตัวเดินเล็มหญ้าริมถนนมาเรื่อยๆ บางตัวมีลูกควายตัวเล็กๆเดินเคียงข้างมาด้วย
เห็นควายน้อยค่อยเดินเพลินข้างแม่			
เป็นลูกแหง่ขี้งอนอ้อนเรียกหา
ไม่ยอมห่างข้างไหนจนไกลตา			
คอยเล็มหญ้าอยู่ใกล้ไม่ห่างกัน
นึกถึงเด็กเล็กหนามารดารัก				
อ้อนนั่งตักตามใกล้ไม่เหหัน
มีความสุขสนุกไปได้ทั้งวัน				
ด้วยแม่นั้นน่าชิดคอยติดกาย
เจ้าลูกแหง่แง่งอนนั่งนอนสุข			
มารดาปลุกป้อนนมระทมหาย
เฝ้าดูแลชะแง้เสมอเผลอวุ่นวาย			
มิเคยหน่ายแหนงลูกรักผูกพัน	
โถควายน้อยคอยเคียงไม่เกี่ยงข้าง			
แม่เดินห่างเรียกหาหัวตาหัน
ต้องคอยชิดสนิทใกล้ไปทุกวัน			
เมื่อใดนั้นเดินเดี่ยวเที่ยวได้เอง	
คำว่า ลูกแหง่ นั้น  บางครั้งเรียกว่า ลูกหม่อ หรือ ลูกกะแอ นอกจากมีความหมายว่า ลูกควายตัวเล็กๆ  โดยเรียกตามเสียงร้อง หรือ เด็กตัวเล็กๆ  แล้ว โดยปริยายยังหมายความถึง คนที่โตแล้วแต่ยังติดพ่อติดแม่หรือยังทำอ้อนเหมือนเด็กหรือลูกควายตัวเล็กๆ  อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคำว่า ลูกคอก ซึ่งหมายถึง ลูกวัวหรือลูกควายที่เกิดจากแม่ที่เลี้ยงไว้ในคอก ทำให้เกิดคำว่า ลูกนอกคอก คือ ลูกที่ประพฤติไม่ตรงตามที่พ่อแม่สั่งสอน
เมืองนกกิ้งโครง 10
16 มกราคม 2548