รถตู้ของเราเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านอำเภอทองผาภูมิ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ เนื่องจากพลบค่ำแล้วเราจึงแวะรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งชานเมืองกาญจน์ รสชาติของอาหารค่อนข้างดีแทบทุกอย่าง แต่การบริการกลับตรงกันข้ามจนไม่คิดจะเข้าไปอุดหนุนอีก แม้ว่าททท.จะโปรโมทร้านนี้อย่างมากมาย พวกเรากลับขึ้นมานั่งรถตู้อีกครั้งเมื่อค่ำมืดแล้ว เนื่องจากนั่งอยู่ริม ผมจึงมองดูเดือนดวงเดิมไปตลอดทาง เดือนดวงเดิมเติมแต่งสาดแสงส่อง สวยน่ามองมีเสน่ห์เก๋นักหนา ฟ้าไม่มืดจืดนักจ้องพักตา ท้องนภานวลผ่องดาวปองเดือน ครั้นเมฆน้อยคล้อยเลื่อนเคลื่อนมาถึง บดบังครึ่งของจันทร์แบ่งปันเฉือน เห็นเพียงซีกฉีกไปให้แสงเลือน คอยเป็นเพื่อนพิงกันจันทร์เมฆี พอลับฟ้าคราเดือนเมฆเฉือนหาย แสงมลายลาลับดับแสงสี ฟ้ามืดปิดมิดไปในราตรี ดาวเคยมีหม่นหมองไม่ผ่องตาม โอ้เมฆจ๋าอย่าทำเดือนช้ำนัก ดาวประจักษ์เมื่อจันทร์ปันแสงหวาม หากเมฆบังดั่งไฟลุกไล่ลาม ฟ้าเลิกงามเงียบสนิทปิดเดือนดาว พอผ่านพ้นตัวเมืองกาญจน์มาหน่อย เราลงจากรถตู้อีกครั้งที่หน้าร้านขายของฝาก ส่วนใหญ่เป็นของกินจำพวกขนมหวานต่างๆ เช่น วุ้นกะทิ มะพร้าวแก้ว ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้กวน ผลไม้อัดแห้ง ทอฟฟี่และกะละแม พวกเราจึงได้ยืดเส้นยืดสายกันอีกครั้งและเสียเงินกันอีกคนละหลายร้อย ต่างหิ้วของฝากกลับบ้านกันคนละถุงสองถุง พอขึ้นนั่งในรถตู้หลายคนรวมทั้งผมจึงนอนหลับจนถึงกรุงเทพฯ ผมตื่นลุกขึ้นเมื่อมีคนปลุก เพราะรถตู้มาจอดที่หน้าบ้านแล้ว ต้อนรับปีใหม่ ทุ่งใหญ่นเรศวร 45 2 มกราคม 2548
9 เมษายน 2548 18:38 น. - comment id 451415
เริ่มวันใหม่ใจจ้าฟ้าสว่าง รอนแรมทางกลางเถื่อนเลื่อนสู่หมาย ดาวล้อมเดือนเอื้อนเอ่ยเผยลอดลาย กว่าชีพวายเวลาพาโลกวน
10 เมษายน 2548 09:30 น. - comment id 451571
เห็นนวลจันทร์ปันแสงเพียงแบ่งเสี้ยว คล้ายจะเหลียวก่อนลาให้ฟ้าหมอง จะรู้ไหมใครหนึ่งเพ้อละเมอมอง มิอาจครองเอื้อมคว้าค่าความจริง .