กระโถนฤๅษี
นกตะวัน
ในขณะที่ผมและอีกหลายคนส่องกล้องมองดูนกระวังไพรปากเหลือง (White-browed Scimitar-Babbler) และนกเสือแมลงหัวขาว (White-hooded Babbler) ที่เคลื่อนไหวตามกันไปในระหว่างกอไผ่สูงซึ่งขึ้นเนืองแน่นอยู่สองข้างลำห้วยแห้งนั้น เก่งกับอ็อฟกำลังง่วนอยู่กับการถ่ายภาพดอก กระโถนฤๅษี ซึ่งขึ้นอยู่เกลื่อนพื้นดินทางด้านหลัง มีทั้งดอกตูม ดอกบาน และดอกเหี่ยว พอนกเหล่านี้บินจากไปแล้ว ผมกับคนอื่นจึงเดินไปมุงดูดอกกระโถนฤๅษีริมทางบ้าง
ขึ้นริมทางกลางป่าหญ้าเตียนโล้น
ต้นกระโถนฤๅษีมีดอกเด่น
กลีบแดงส้มพรมเหลืองจุดเรืองเน้น
แค่เหลือบเห็นให้จ้องมองเต็มตา
ยามดอกตูมอูมปุดผิวผุดผ่อง
คลี่กลีบมองเหมือนถ้วยสวยนักหนา
บางคนเห็นเป็นกระโถนใครโยนมา
ครั้นดอกอ้าอบอวลชวนอาเจียน
ดมแล้วเหม็นเช่นซากตากทิ้งเน่า
แมลงวันเข้าคลึงบุบผาน่าคลื่นเหียน
ถ่ายละอองของเกสรซอกซอนเพียร
สะอิดสะเอียนส่งกลิ่นกลางถิ่นไพร
ทั้งน่าแปลกแทรกปุดขึ้นผุดออก
เพียงแค่ดอกบนดินกินรากไหล
คอยเบียนเขาเจ้าดอกออกจัญไร
สวยแค่ไหนใครเห็นเป็นเกลียดชัง
กระโถนฤๅษี (Sapria himalayana) เป็นพืชเบียน (parasite) ล้มลุกที่ไม่สังเคราะห์แสง ในวงศ์ Rafflesiaceae อาศัยเกาะกินน้ำเลี้ยงจากรากของพืชอื่น เช่น หุ่นแป (Tetrastigma cruciatum) เครือเขาน้ำ (T. lanceolarium) และเถาส้มกุ้ง (Illigera trifoliata) ลำต้นยาวไม่เกิน 1 ซม. ใบไม่มีสีเขียวและลดรูปไปเป็นกาบหุ้มลำต้นและโคนดอก มี 10 ใบ ค่อนข้างกลมปลายมน แต่ละต้นออกดอกเพียงดอกเดียวแล้วเหี่ยวไป พบในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้
ต้อนรับปีใหม่ ทุ่งใหญ่นเรศวร 11
31 ธันวาคม 2547