เราพากันเดินออกมาจากสันเขื่อน แต่ยังไม่ทันจะเดินเลี้ยวไปทางซ้าย ผมเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งไม่สูงนักทางด้านขวาของทางเดิน มีลักษณะแปลกผิดไปจากต้นไม้ต้นอื่นที่อยู่โดยรอบ เพราะมีเถาวัลย์สีเขียวห้อยระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆจึงรู้ว่าเถาวัลย์เขียวๆนั้นที่แท้เป็น สังวาลพระอินทร์ (Cassytha filiformis) ซึ่งเป็นพืชเบียนที่ห้อยระโยงระยางเกาะกินเรือนยอดของต้นไม้นั้น นักพฤกษศาสตร์จัดพืชชนิดนี้ไว้ในวงศ์ Santalaceae เถาไม้เลื้อยเฟื้อยรัดกวัดแกว่ง เขียวใสแสงสุกปลั่งดั่งสร้อยไหว คล้องกิ่งก้านผลาญสิ้นเกาะกินไป ดูดน้ำในเนื้อต้นจนเฉาพลัน ชาวบ้านเพรียกเรียกกันสรรค์กล่าวขาน นามสังวาลพระอินทร์ถิ่นสวรรค์ หรือองค์อินทร์หมิ่นสร้อยเลิกห้อยพลัน ขว้างทิ้งนั้นในป่าพฤกษามี แล้วสังวาลนานไปได้ชีวิต ถูกลิขิตเคลื่อนไหวให้สุขี เป็นเถาเขียวเลี้ยวลดขดห้อยดี งามเต็มที่ทั้งเส้นไม่เห็นใบ เจ้าพืชเบียนเตียนใบมิไร้ดอก แทงรากตอกต้นเขาเหล่าพฤกษ์ไสว ปล่อยลำต้นจนห้อยลอยแกว่งไกว ลมพัดไหววูบวาบฉาบแสงทอง สังวาลพระอินทร์นี้ บางคนเรียกว่า เขียงคำ หรือ เขียวคำ เป็นพืชเบียนที่มีลำต้นอ่อนเรียวยาวคล้ายเส้นลวดสีเขียว ไม่มีใบ เพราะไม่ต้องสังเคราะห์แสง ยอดอ่อนและช่อดอกมีขนนุ่มสีเหลือง ดอกเล็กมากค่อนข้างกลมสีเหลืองอมเขียว ออกเป็นช่อตามข้อกิ่งและลำต้น ยาว 1-3 ซม. ผลแก่สีขาว เนื้อนุ่ม ค่อนข้างกลม เส้นผ่าศูนย์กลางราว 5 ม.ม. ปลายผลประดับด้วยกลีบเลี้ยง 6 กลีบ ชอบเกาะอาศัยอยู่ตามเรือนยอดของต้นไม้ในป่าดิบเขา ป่าชายหาด และป่าเสม็ด ชมหมู่ปักษา กลางป่าภูเขียว 9 13 พฤศจิกายน 2547
27 มกราคม 2548 11:35 น. - comment id 415702
ชอบที่เขียนเปรียบเทียบไว้จังค่ะ .................................................. ลี่...ผู้มาเยือน .
27 มกราคม 2548 15:49 น. - comment id 415775
บทกลอนเพราะดี อ่านแล้วได้อารมณ์ ใช้ได้ค่ะ
27 มกราคม 2548 20:42 น. - comment id 415850
จริงด้วยดิคะ .. ก็ พระอินทร์ ..ท่านตัวสีเขียว.. เนี่ยนา .. ได้ความรู้ .. ด้วยดิคะ .. เรน .. แวะมา ทักทาย .. พี่นกตะวัน .. นะคะ ..