.......ศรีเอย..จงสวัสดิ์...

...สียะตรา..


......ศรีเอย...จงสวัสดิ์
...เรืองจำรัสประภัสสร
...เปรมปรีดิ์นรีอร
...ด้วยสุนทรพรประพันธ์
......ชีพรุ่งอำรุงชื่น
...ดังห้อมหมื่นบุบผวรรณ
...ยศยิ่งสมมิ่งสรรค์
...ราวสุพรรณมารององค์
...สวรรยามหาศาล
...เกินประมาณที่ประสงค์
...สฤษฏ์ซึ่งพึงจำนง
...ประคองคง..นิรันดร์วาร				
comments powered by Disqus
  • แม่จิตร

    4 มกราคม 2548 15:47 น. - comment id 399580

    ขอชมและกันนะ
    ภาษาแปลกดี ไม่เคยได้เห็น
    ขอบคุณครับ
    
  • tiki

    4 มกราคม 2548 16:57 น. - comment id 399630

    สวมชีพสฤษดิ์พ้อง.............วาระ
    เบิกร่ายถวายพระ.....................แต่อ้าง
    สุพรรณใส่จำปาดะ...................วางคู่
    เทียนเล่มธูปสล้าง...................ยกขึ้นเทอญครู
    
    แวะมาชมกาพย์ยานี(๑๑) ที่ส่งมาให้ชม
    สมศรีศุภฤกษ์เบิกฟ้าปีใหม่ให้พี่น้อง
    เลยย่องมาหยิบพานทองคุณใส่ของถวาย
    เสียเลย
    สวัสดีปีใหม่ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    4 มกราคม 2548 22:05 น. - comment id 399777

    ใช้ภาษาได้สวยจังเลยค่ะ...
    ............................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .
  • ผลิใบสู่วัยกล้า ( ไม่ได้ล๊อกอิน)

    5 มกราคม 2548 06:59 น. - comment id 399859

    สวัสดีปีใหม่นะ
    
    
  • น้องสาวคนหนึ่งค่ะ

    7 มกราคม 2548 11:22 น. - comment id 401268

    ขอให้พี่ยูมีความสุขตลอดไปนะคะ
    ระลึกถึงพี่สาวเสมอ 
    งามทุกบทกลอนเลย
  • ...สียะตรา..

    21 มกราคม 2548 06:06 น. - comment id 410206

    (  เก็บกลอนเก่า )
    
    ......ขอเอนอิงพิงเวหานภากาศ 
    ...ให้พิลาสผ่องแพ่งแห่งแสงโสม 
    ...เป็นประหนึ่งสายธารามาประโลม 
    ...เมื่อทุกข์โถมโทมนัสยามรัตติกาล
    
    
  • ...สียะตรา..

    21 มกราคม 2548 18:55 น. - comment id 410630

    ร้อยเรียงไล้มาลัยรัดแทบหัตถ์เจ้า
    ประหนึ่งกล่าวคำสัญญาหน้าดวงแข
    ใจพี่นั้นไม่มีวันจะผันแปร
    เพราะมั่นแน่บุพเพไซร้ใช่บังเอิญ
    ยากจะหานางแก้วมีแนวคิด
    ถูกจริตใจประหวัดมิขัดเขิน
    ขอแน่วแน่แม้หลบหน้าไม่มาเผชิญ
    ก็จะเดินหน้ารอเคียงเพียงอนงค์
    
  • ...สียะตรา..

    19 กุมภาพันธ์ 2548 06:36 น. - comment id 414093

    
    
    ......ลูบปรางพลางประแป้ง...สารภี
    
    ...อบร่ำเรือนอินทรีย์...........แน่งน้อย
    
    ...อวลน้ำปรุงแต่งฉวี...........นวลผ่อง
    
    ...เชยกรุ่นยามชดช้อย.......ย่างเยื้องเยือนเรียม
    
    
  • ...สียะตรา..

    23 ตุลาคม 2549 11:31 น. - comment id 414806

    ทางเลือก..ซึ่งจักนิรันดร์
    
    
    ขอบคุณ  พี่  คนหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจเขียนเรื่องนี้  พี่  ที่นำพาให้พบสิริมงคลสูงสุดและให้สัมผัสความคิดอันงดงามอีกแนวทางหนึ่ง
    
    บทที่  ๑  
    
    
    
     กุล  กุล  ทางนี้   ..
    .ก่อนวันคริสมาสมีปาร์ตี้เล็กๆของผู้คนที่กุลคุ้นเคยจากตัวหนังสือในเวปบอร์ด ไซเบอร์..โลกใหม่ที่ทำให้กุลค้นพบความปรารถนาลึกๆในใจของตัวเอง  โลกที่ทำให้กุลสนุกที่ได้สื่อสารกับผู้คนมากมายด้วยตัวหนังสือตามจินตนาการบรรเจิดและ ได้รู้สึกภูมิใจถึงการยอมรับในคุณค่าความสามารถที่กุลมีอยู่แต่มันก็ยังไม่ใช่ปลายทางที่กุลฝันไว้หรอกมันน่าจะดีกว่านี้นา   แต่กุลตั้งกฎล้อมกรอบตัวเองว่าจะสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดความรู้สึกกับผู้คนก็เพียงในจอสี่เหลี่ยมด้วยตัวหนังสือเท่านั้นหลังจากที่พบว่ามันเปราะบางเกินไปที่ปล่อยให้สัมพันธภาพที่คิดว่าดีก้าวล่วงเข้ามาดำเนินในชีวิตจริงๆแล้วจบลงด้วยรอยร้าวในความรู้สึกมีเพียง..อ้อมกับดลคู่รักที่วัยต่างกับกุลร่วม๑๐ปีแต่ก็สนิทสนมกันพอจะเรียกว่าเพื่อนได้เต็มปากที่คุ้นเคยในชีวิตจริงๆของกุลกำแพงหนาทึบที่กุลสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากอารมณ์ผันแปรของผู้คนของโลกไซร์เบอร์รวมทั้งตัวของกุลเองถูกเจาะเป็นช่องเล็กๆพอให้หัวใจของกุลเล็ดลอดออกดูโลกอีกครั้งในคืนนี้นาทีสุดท้ายที่กุลตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัวมาที่นี่ เพราะคิดว่าก็ดีกว่านั่งเงียบเหงาอยู่ที่ร้านหนังสือของกุลในคืนที่ดูเหมือนโลกเริ่มหรรษากับเทศกาลของการเริ่มต้นไม่เลวนักหรอก กุลนั่งฟังผู้คนคุยกัน หัวเราะกับมุกขันๆได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆเบญจอาจารย์มหาวิทยาลัยที่วัยเดียวกับกุลกับวงวาดคนรักที่เป็นพยาบาลจนดึกทีเดียวสำหรับคนติดบ้านอย่างกุล ห่วงพริกขี้หนู  หมาน้อยเจ้าหัวใจของกุลอยู่รอนๆเสียงเบญจก็ขรมโบกไม้โบกมือให้คนที่ก้าวเข้าประตูร้านมา พี่โมมมม  ทางนี้ค่ะมาเสียดึกเชียว มาจ่ายตังค์แหงเลย  ..เสียงหัวเราะเย้าแหย่กุลได้แต่ยิ้มกับผู้มาสาย นั่งค่ะพี่ ทานอะไรสั่งเร็ว 
    กุลถูกแนะนำให้รู้จักพี่โมตัวกลมๆที่นั่งลงตรงข้ามกุล  กุลไหว้พร้อมกับนึกขำตัวเองที่ดีใจขึ้นมาครามครันที่ได้พบเจอคนที่แก่กว่าให้กุลได้ยกมือไหว้บ้างเพราะปกติกุลมีแต่ต้องรับไหว้  ก็กุลแก่แล้วนี่นา 
     ดีใจจังที่เจอคุณกุลพี่เป็นแฟนคลับเรื่องที่คุณเขียนนะคะ กุลมักปลื้มเสมอเวลามีใครชื่นชมตัวหนังสือของกุล
     ขอบคุณค่ะ  กุลก็อ่านกระทู้ชวนเที่ยวที่โน่นที่นี่ของพี่โมประจำล่ะค่ะ นึกอยากไปแต่ก็หาโอกาสยาก 
     พี่โมกินอะไรสั่งเร็วๆอย่ามัวแต่โม้  เดี๋ยวเค้าจะปิดร้านจับสลากกันแล้วค่ะ เสียมอ้อมแทรกขึ้นมา
      เอาข้าวมาจานนึง กับข้าวยังเหลือเต็มโต๊ะเลยไม่สั่งอะไรใหม่ล่ะจ้ะเออๆๆๆแล้วจะรีบกินเร็วๆ แล้วคืนนั้นพี่โมก็จับสลากได้ของขวัญของกุลส่วนกุลจับได้หมวกใบนึงที่กุลคงต้องไปเกิดใหม่เป็นวัยรุ่นกุลอาจจะกล้าสวมมัน.งานปาร์ตี้แสนสนุกจบลงด้วยชอคโกแลต๒ แท่งที่กุลสอดไว้ในหนังสือ..ของขวัญที่กุลเอามาจับสลาก..พี่โมเอื้อเฟื้อเอามาตัดแบ่งให้เพื่อนพ้องได้ลิ้มกันถ้วนทั่วกุลกลับบ้านบ้านที่เป็นห้องแถว..ร้านหนังสือเล็กๆสมบัติชิ้นเดียวที่กุลมีอย่างสนุกแล้วหลับไปพร้อมๆกับ พริกขี้หนู ตัวเล็กในอ้อมกอดของกุล
    
    บทที่๒
    
    .กุลกำลังเอาหนังสือใส่ถุงให้ลูกค้ารายแรกของวันอยู่พอดีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียงนั้นไม่คุ้นหูกุลเลย
     คุณกุลหรือเปล่าคะ 
     ค่ะ 
     พี่โมเองจ้ะ  แฟนคลับตัวหนังสือคุณกุล เสียมารยาทขอเบอร์โทรจากอ้อมคงไม่ว่ากันนะคะ 
     ไม่ว่าหรอกค่ะ  กุลตอบไปพร้อมสมองในส่วนความทรงจำเริ่มถูกขุดคุ้ยอืมมกุลจำได้แล้วว่าพี่โมเป็นใคร นึกย้อนไปที่ปาร์ตี้เมื่อปลายปี พี่โมที่ตัวอ้วนๆกลมๆหน้าตาไม่เข้าสมัยนิยมเอาเสียเลย แต่ดูใจดี แล้วยังรู้รอบในสิ่งที่กุลสนใจแต่ยังไม่รู้ตั้งมากมายกุลยิ้มออกมานิดนึงเมื่อนึกถึงคนชื่อ พี่โม
     มีธุระอะไรให้กุลทำรึเปล่าคะ 
     เปล่าค่ะ จะชวนไปทำบุญ ที่มหาวิทยาลัยที่พี่ทำงาน วันสถาปนามหาวิทยาลัยนะค่ะ แล้วก็ไปเที่ยวพระที่นั่งที่คุณกุลบ่นอยากไปคราวก่อนโน้นน่ะค่ะ พี่โมเอ่ยชื่อมหาวิทยาลัยที่ทำให้กุลกระตุกวูบในหัวใจนะ ..ทั้งภูมิใจแล้วก็เสียใจ
     ไปกันหลายคนรึเปล่าคะ กำแพงหนาเริ่มก่อตัวป้องกันอย่างระแวดระวัง
     ก็อีกสองสามคนน่ะค่ะ พี่ก็ชวนหมดแล้วแต่ใครสะดวก กุลถามถึงเวลานัดหมาย สถานที่แต่ก็ไม่ได้รับปากมั่นเหมาะ
    แต่เมื่อถึงวันนั้นกุลก็ไปตามคำชวนของพี่โม
    เช้ามืดวันที่อากาศสดใส  ผู้คนสวมเสื้อผ้าสีชมพูเต็มลานที่จัดไว้ให้พระสงฆ์รับบิณฑบาต กุลนึกครึ้มขนาดฮัมเพลงเก่าๆที่คิดว่าลืมเลือนไปแล้ว..
     เมื่อต้นปีจามจุรีงามล้น.เครื่องหมายของสิ่งมงคลเริ่มเวลา. รับ.น้องใหม่เบิกบานสำราญฤทัยน้องเรามาใหม่หลายคน.พบกันเมื่อวันนี้เองร้องเพลงครื้นเครงเต็มที่หมายเอาเอาจามจุรีเป็นเกียรติเป็นศรีของชาว
    
     .กุลเห็นพี่โมโบกมือให้แต่ไกลแล้ววันนั้นตั้งแต่เช้าจรดบ่ายก็มีแค่กุลกับพี่โม ไม่มีคนอื่นที่พี่โมชวน แต่กุลสบายใจที่ตลอดเวลาพี่โมไม่มีท่าทีเลาะเล็มให้กุลอึดอัดขัดเขินแบบที่กุลเคยพบเจอ
    กุลคุ้นเคยกับโมมากขึ้นเรื่อยๆได้รับรู้อย่างขำๆว่าคนสูงวัยตัวโตๆอย่างโมกลัวผี  กลัวหมาอย่างสุดใจขาดดิ้น กุลซาบซึ้งกับความมีใจอารีและรู้คุณของโมในเรื่องที่ส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ครูเก่าสมัยยังเด็กถึงจะไม่มากมายแต่กุลคิดว่าคงมีน้อยคนที่คิดจะทำสิ่งเหล่านี้วันที่กุลรู้สึกเป็นสุขกับสิ่งเล็กๆน้อยๆกุลกล้าที่จะโทรไปเล่าสู่ให้โมฟังและวันที่กุลอับเฉากุลก็ไม่อายที่จะทอดถอนลมหายใจให้โมได้ยินกุลได้ฟังเป้าหมายชีวิตของโมว่าวันนึงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่โมอยากหยุดชีวิตข้าราชการก่อนเวลาไปซื้อที่ทางทำสวนผักทางเมืองเหนือ
     พี่จองที่ดินไว้ผืนเล็กๆน่ะกุล คนรู้จักกันเค้าขายให้ไม่แพง  ได้เงินเกษียณมาก็พอดี เหลือไว้ปลูกกระต๊อบอีก  หน่อยเผื่อเพื่อนขึ้นไปเที่ยวจะได้มีที่พัก   แล้วที่มันใกล้วัดที่พี่ไปปฎิบัติธรรมด้วยไง  ไปอยู่สงบๆค้นหาตัวเอง  แก่ปูนนี้แล้วบางทีพี่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากมีอยากเป็นอะไรสนใจไปอยู่บ้านนอกไหมล่ะกุล กุลก็อายุมากแล้วนาไม่เห็นวางแผนชีวิตเลยว่าทำอะไรจะอยู่ยังไงตอนแก่กุลส่ายหน้าแบบไม่ต้องคิด
     ม่ายยยยล่ะค่ะพี่โม กุลยังมีกิเลสเยอะแยะอยากทำโน่นทำนี่ร้อยแปด  แล้วกุลคิดว่าตัวเองคงไม่ชอบอยู่ในป่าในดงแบบนั้นหรอกค่ะ  พริกขี้หนูไม่สบายจะพาไปหาหมอที่ไหนล่ะคะแหม  ทำไมกุลจะไม่มีเป้าหมายแต่บอกแล้วพี่โมอย่าหัวเราะเยาะนะคะ 
     ฮึยยย..ไม่หรอก 
     กุลอยากเป็นนักเขียนอยากดังอยากได้ซีไรส์  แล้วกุลก็หัวเราะเสียงใสพร้อมๆกับแสงวาววามเหมือนดวงดาราในดวงตาคู่เรียว
    
    บทที่ ๓ ..
    
    โลกของกุลเปิดกว้างมากขึ้น  บ่อยครั้งกว่าเดิมที่กุลออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆกลุ่มสูงวัยที่โมแนะนำให้รู้จัก  พี่ๆที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวบางคู่อายุอานามสูงวัยกว่าพี่โมเสียอีก  อย่างพี่ปิ่นกับพี่คิมเป็นชีวิตคู่ที่กุลมองด้วยความชื่นชม..เออนะแล้วก็หวังลึกๆอยู่เหมือนกันว่ากุลอาจโชคดีมีคนที่ทั้งกุลและเค้าเข้าใจและพึงใจกันร่วมชีวิตเป็นครอบครัวแบบพี่ปิ่นกับพี่คิมบ้าง.. แล้ววันนึงที่นัดพบกันครบทีมรวมทั้งกุลด้วยนอกจากความคิดถึงเพื่อนกุลกับอ้อมมาเพราะอยากรู้เหลือเกินว่าอะไรหนอที่โมอยากอวดเพื่อนๆสาเหตุมาจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างอย่างคาดเดาว่าสงสัยโมจะมีคนรักเพราะยามใดที่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนโมมักมีคำถามแปลกๆกว่าที่เคยเช่น ซื้อดอกไม้อะไรให้สาวน้อยดี  สาวน้อยชอบกินอะไรเป็นอาหาร .คำถามเหล่านี้ล่ะที่ทำให้เพื่อนๆแปลกใจนักหนาประกอบกับโมมักไม่ค่อยว่างมาพบปะย่อยๆเหมือนเคยได้แต่ผลัดว่าไว้ฤกษ์ดี  จะมีอะไรมาอวด แล้ววันนี้ท่าทางจะเป็นฤกษ์ดีของโมที่ตกปากรับคำว่าจะมา
    กุลมาถึงบ้านพี่ปิ่น  จัดอาหารที่หิ้วมาสมทบเรียบร้อย  กำลังคุยกับเบญจเรื่องต้นไม้ใบหญ้าที่กุลชอบและกำลังจะเป็นงานใหม่ของกุล  วงวาดไปไหนเสียล่ะเบญจ 
     ติดเข้าเวรจ้ะ แต่ถ้าแลกเวรได้จะตามมา 
     กุลได้ต้นไม้ใหม่มาอีกต้นนะเบญจ  ต้นมะนาวเทศ  ดอก  กับลูกเค้าน่ารักมากเลย เบญจรู้จักไหมจ๊ะ 
     ไม่แน่ใจนะกุลเพราะชื่อต้นไม้นี่เรียกกันไปตามใจคนขายน่ะ ต้องชื่อตามตำราสิจ๊ะมันถึงจะตรงกัน กุลได้ความรู้เรื่องต้นไม้จากเบญจเยอะแยะ..ก็เบญจสอนเกษตรนี่นา
    ดูเหมือนวันนั้นทุกคนตั้งตารอโม.แล้ววินาทีสำคัญก็มาถึง เพื่อนๆทั้งกลุ่มชะเง้อเป็นกะเหรี่ยงคอยาวเมื่อเห็นรถกะบะสมัยสงครามโลกยังไม่เลิกลาของโมมาจอดนอกจากตัวอ้วนกลมชินตาเพื่อนพ้องน้องพี่ทันใดที่ด้านหน้าที่นั่งคู่มากับโมเปิดออกเหล่าเฒ่าพันปีทั้งกลุ่มรวมทั้งอ้อมที่เยาว์วัยที่สุดถึงกับเงียบงันแล้วความเงียบก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงเป่าปากอย่างทะเล้นของเบญจ.
    ภาพสาวน้อยเสื้อตัวนิดสายเดี่ยวร่างระหงที่ทุลักทุเลมุดออกมาจากรถโมรีบเข้าประคับประคองสาวน้อยผู้นั้นอย่างทะนุถนอม
     สวัสดีค่ะพี่โม อ้อมทำเหตุการณ์เบื้องหน้าให้เป็นปกติในขณะที่เพื่อนพ้องอยู่ในอาการไม่ปกติ
     สวัสดียัยอ้อม  เอ้าน้องแนนสวัสดีพี่ๆป้าๆเสียจ้ะ 
    หนอยแน่ะเจ้าโมมันควงเด็กแล้วมาเรียกเพื่อนว่าป้าพี่ปิ่นพึมพำพร้อมค้อนโมหนึ่งวง
    ทุกคนนั่งเข้าที่เรียบร้อยเสียงจ้อกแจ้กสนทนาเริ่มขึ้นอีกครั้งแต่ไม่มีใครถามโมถึงที่มาของน้องแนนสักคนแต่กุลเดาได้เลยว่าทุกคนคันปากยิบๆอยากถามโมว่าแอบไปจีบน้องแนนมาตั้งแต่เมื่อไหร่
    โมเอาอกเอาใจน้องแนนจนแทบไม่ต้องกระดิกตัวเลยก็ว่าได้ถ้าป้อนอาหารได้โดยไม่กลัวเพื่อนโห่โมคงทำไปแล้วแต่กุลว่าน้องแนนแกไม่ค่อยยิ้มแย้มพูดคุยเอาเสียเลยปั้นปึ่งชอบกลทั้งที่หน้าตาหวานหยด
     เปิดเพลงเถอะพี่ปิ่น  จะได้เจริญอาหาร เสียงเบญจงอแงเรียกร้อง พี่ปิ่นร้องนำเลยพี่  เสียงพี่เหมือนยาช่วยย่อย .พี่ปิ่นไม่รอช้าเปิดคาราโอเกะแบบไม่อิดเอื้อนแล้วเพลงตับ  สุนทราภรณ์ ก็บรรเลงยาวเหยียด
    กุลมองน้องแนนที่ปิดปากหาวววววอย่างเห็นใจ
     พี่ปิ่นเปิดเพลงใหม่ๆให้น้องแนนร้องบ้างสิคะ   กุลแนะทันทีเมื่อเพลงครูเอื้อเพลงที่๑๒จบลง
     เพลงใหม่ๆอะไรล่ะจ๊ะ พี่ไม่รู้จัก  พี่ปิ่นส่ายหน้า  เอ้าน้องแนนบอกมาเดี๋ยวพี่ปิ่นหาให้ 
    น้องแนนส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ  น้องแนนง่วงงงงงงงอยากกลับบ้านนนนนนนน  .เสียงร้องอ้าวววววววฮึมขึ้นมาจากทุกคน
     โอ๋ๆๆๆๆๆง่วงนอนแล้วเหรอจ๊ะ  ไป ไปพี่พากลับบ้าน  นอนดึกเดี๋ยวไม่สบาย    โมรีบเอาใจจนเพื่อนหมั่นไส้ พี่ปิ่นนึกขวางจนอดแหย่โมไม่ได้
     แล้วใครจะไปส่งเจ้าอ้อมกับกุลล่ะหึ 
     ไปสิ โมไปส่งเหมือนเดิมแหละ  เก็บของสิ 
     บ้าเหรอพี่โมอ้อมเพิ่งมาเดี๋ยวเดียวเอง เรื่องอะไรจะรีบกลับ จริงไหมกุล 
    กุลได้แต่ยิ้มยังไงก็ได้คิดถึงพริกขี้หนูอยู่เหมือนกัน กลับก็ดี
     กลับไปเลยเจ้าโมรีบๆไปซะ เดี๋ยวกูไปส่งสองคนนี่เอง 
    พี่ปิ่นเริ่มขึ้นมึง กู ทำเอาทุกคนเห็นลางร้ายของโม
     อ๊ะๆๆๆเย็นไว้โยม วันนี้เบญจโสดจ๊ะเดี๋ยวไปส่งเอง พี่โมอยากกลับก็ไปเหอะ อย่ากังวลนะพี่ เบญจไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีของพี่ๆทั้งหลาย 
     น้องแนนกลับแท๊กซี่เองก็ได้ค่ะ  ยุ่งยากกันจัง  สาวน้อยหน้าหวานลุกขึ้นโดยฉับพลัน ดึงกระโปรงลงปิดชั้นในนิดนึง ยกมือไหว้กราดไปทั่ววงแต่ไม่มีใครรับไหว้ทันสักคนเดียวโมทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนน่าสงสาร
     อาทิตย์หน้าไปหัวหินกัน เอ็งยังจะไปรึเปล่าเจ้าโม  พี่ปิ่นถามหน้าเคร่ง..
     เดี๋ยวโมโทรมาบอกอีกทีนะพี่ปิ่น   ถามน้องแนนก่อนว่าอยากไปรึเปล่า   โมไปก่อนนะ .ร่างอ้วนๆวิ่งตามสาวน้อยที่ไปยืนรอหน้าบอกบุญไม่รับอยู่หน้าบ้าน
     ดู๊..ดูเจ้าโมไหนว่ามันไปถือศีลถือธรรมไงทำไมยังมัวเมาไม่เข้าท่าแบบนี้ล่ะ  พี่ปิ่นบ่นเสียงเข้ม
     น่านะพี่ปิ่น อย่าโกรธพี่โมเลยความสุขของเพื่อนน่ะพี่ 
     พี่กลัวมันจะทุกข์ตามมาในไม่ช้าน่ะสิห่วงมันหรอกนะเบญจไม่ใช่โกรธ 
     งั้นพวกเราเป็นคนดูดีกว่านะทุกคนเลือกที่จะใช้ชีวิตตัวเอง สุขหรือทุกข์ก็ต้องรับไว้เองนะพี่.เอ้าร้องเพลงต่อดีกว่าเอาเก่ากว่าครูเอื้อก็ได้เลยมีแต่พวกเบบี้บลูมแบบเราแล้วนี่ บรรยากาศคลี่คลายไปได้กับคำพูดของเบญจ
     เออแล้วตกลงเรื่องหัวหินใครจะไปบ้าง ทุกคนรับคำยกเว้นกุล
     ไปค้างคืน กุลไปไม่ได้นะคะพี่ปิ่นห่วงพริกขี้หนู แล้วกุลก็มีงานพิเศษด้วย ช่วยเพื่อนรับจัดสวนน่ะค่ะหลังจากวันนี้กุลคงหายไปพักนึง รับรองไม่ได้แอบไปซุ่มจ๊ะจ๋ากับหนุ่มที่ไหนนะคะ 
     อืมมคบหาใครก็เล่าสู่เพื่อนฝูงพี่ๆบ้างก็ดีนะกุล กุลตัวคนเดียว อย่างน้อยพี่ๆก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนกุลหลายปี กุลยกมือไหว้พี่ปิ่นอย่างซาบซึ้งนัก
     กุลดีใจที่พี่โมพากุลมารู้จักคุ้นเคยกับพวกพี่ๆค่ะ .
    ยังไม่ดึกดื่นมากนักเมื่อวงสังสรรค์เลิกลา  เบญจขับรถเอื่อยๆไม่เร่งร้อนเสียงอ้อมคุยเจื้อยแจ้วเรื่องราวสารพัดสลับกับรับโทรศัพท์จากคนรักที่โทรเข้ามาเป็นระยะๆ.ไม่นานนักก็ถึงหน้าห้องแถว..บ้านของกุล
     กุลอ้อมปวดฉี่ขอเข้าห้องด้วยนะจ๊ะ 
     ได้เลยอ้อมลงมาเลย กุลเปิดประตูเชื้อเชิญทั้งอ้อมทั้งเบญจเข้ามา
     ร้านหนังสือน่ารักดีนี่กุล  เบญจเอ่ยชม
     ฮื่อ กุลก็ว่ามันน่ารักดี แต่ขายไม่ค่อยดีหรอก เบญจเอากาแฟไหม 
     ดีจ๊ะ  มีขนมด้วยยิ่งดีหิวอีกแล้ว ..กุลหัวเราะ..เมื่อผ่านหน้าห้องน้ำเคาะประตูถามอ้อมว่าสนใจกาแฟด้วยไหมเสียงใสของอ้อมไม่ปฎิเสธแถมร้องขอขนมเหมือนเบญจอีกเออสงสัยเมื่อกี้ที่บ้านพี่ปิ่นบรรยากาศไม่ดีเลยกินกันไม่อิ่มกุลจัดขนมมาต้อนรับเพื่อนพร้อมกับเผื่อตัวเองด้วยกุลก็หิวเหมือนกัน
     พี่เบญจ ดาดฟ้าบ้านกุลซ๊วยสวยล่ะ อ้อมเคยขึ้นไปปลูกต้นไม้เต็มเลย  ดอกไม้แปลกๆ ระหว่างที่กุลขอตัวไปรับพริกขี้หนูตัวน้อยที่ฝากไว้จากคลินิกสัตวแพทย์ห้องข้างๆ อ้อมก็คุยตามประสาคนช่างพูดช่างคุย
    กุลกลับเข้ามามีหมาน้อยตัวเล็กๆอยู่ในอ้อมแขน
     อูยยยยยมานี่เร็วคนสวย  ของน้าอ้อม .กุลปล่อยพริกขี้หนูที่กระดิกหางอย่างคุ้นเคยให้วิ่งไปหาอ้อม
     อ้อมเล่าว่ากุลปลูกต้นไม้บนดาดฟ้าเหรอจ๊ะ 
     ฮื่อ  ปลูกในกระถางน่ะเบญจ  เมื่อก่อนบัวเยอะเลยแต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นอะไร ไม่มีดอกให้เห็นอีกแล้ว เออ..อยากอวดต้นมะนาวเทศที่เล่าเมื่อกี้น่ะจ้ะ ดูไหม 
     กำลังจะขอดูอยู่เลย 
     ไปอ้อม ไปดาดฟ้ากัน เดี๋ยวกุลยกกาแฟกับขนมตามไป นำทางเบญจไปก่อน 
    ดาดฟ้าห้องแถว๓ชั้นร่มรื่นด้วยต้นไม้ในกระถางใหญ่บ้างเล็กบ้างเออแน่ะมีกระทั่งกะบะปลูกหญ้าเป็นลานเล็กๆใต้ร่มลั่นทมรูปทรงสวยที่โปรยปรายดอกเกลื่อนให้เจ้าพริกขี้หนูลงไปนอนกลิ้งอย่างสนุกทันทีที่อ้อมปล่อยลงกับพื้น
     เก่งจังกุล  ขนขึ้นมาปลูกยังไงกันล่ะนี่ 
     ขนเองบ้าง จ้างเค้าบ้างน่ะเบญจ อยากมีที่ซัก10ไร่จะปลูกให้เป็นป่าเลยนี่ไงต้นมะนาวเทศมาดูสิ กุลอวดต้นไม้ต้นใหม่อย่างภูมิใจ
     กุลเคยเห็นดอกกับลูกเค้านะเบญจน่ารักที่สุดดอกคล้ายดอกแก้วจ้ะแต่เล็กกว่าแล้วก็ดูขี้อายหลบๆอยู่ข้างใบแป๊บเดียวก็โรยเสียแล้วลูกเค้าก็เล็กๆสีสวยมากเลย..ชมพูอมส้มจ้ะ 
     อืมมคุ้นๆนะเจ้าต้นนี้แต่ยังนึกไม่ค่อยออกไว้วันไหนมีดอกออกผลเรียกมานะเบญจชักอยากเห็นจ้ะไหนดูบัวซิกุลที่ว่าไม่ค่อยมีดอกน่ะ 
    กระถางบัวใบใหญ่บ้างเล็กๆบ้างวางลดหลั่นอย่างมีชั้นเชิงเบญจควานมือลงในอ่างใบหนึ่ง
     กุลเปลี่ยนน้ำบ้างรึเปล่าล่ะนี่ บัวชอบน้ำสะอาดนะจ๊ะ  ต้องเปลี่ยนดินเติมดินด้วย 
    อืมมพอรู้เหมือนกันน่ะเบญจแต่พักนี้กุลไม่ค่อยได้ทำคิดว่ารดน้ำปล่อยให้น้ำไหลผ่านก็น่าจะสะอาดน้ำไม่นิ่งก็พอขอบคุณจ๊ะที่แนะนำ 
    เสียงโทรศัพท์ของอ้อมดังแจ้วขึ้นเป็นครั้งที่7ของคืนนี้
     จ้ะๆๆกำลังจะกลับจ้ะ นั่งเล่นกินขนมอยู่บ้านกุล.จ้ะๆๆๆๆๆคิดถึงเหมือนกัน 
     เจ้าดลคลุ้มคลั่งแล้วรึไงอ้อมงั้นก็กลับเหอะกุลจะได้นอนดูสิพริกขี้หนูหลับคาสนามแล้ว เบญจมองเจ้าตัวเล็กที่วิ่งเล่นจนเหนื่อย บทจะนอนก็หลับเอาเสียดื้อๆ.กุลอุ้มพริกขี้หนูอย่างเบามือ
     กุลไปส่งหน้าบ้านนะจ้ะ ขอบคุณที่มาส่งนะเบญจ กุลโบกมือให้เพื่อนทั้งสองคนเหลือบขึ้นมองท้องฟ้าสีน้ำเงินของค่ำคืนดวงดาววิบไหวกระจ่างกุลยังไม่ง่วงเลย.คืนนี้กุลอยากเขียนหนังสือมีพล๊อตเรื่องใหม่แจ่มจ้าในใจกุลแล้ว
    
    
    บทที่ ๔ 
    
    กุลห่างหายไปจากเพื่อนพ้องเกือบเดือนทีเดียวแทบไม่ได้ติดต่อกับใครเลยไม่ว่าพี่โมหรืออ้อมคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันได้แค่สองสามคำพอให้รู้ว่าต่างยังมีชีวิตอยู่กุลชอบงานจัดสวนที่เพื่อนให้มาช่วยทีเดียวล่ะ  ได้เลือกต้นไม้ต้นไร่ที่ชอบ  ได้วางแผนว่าจะปลูกลงตรงไหน.สรุปคือได้ทำตามใจตัวเองโดยไม่ต้องเสียเงินแถมยังได้เงินถึงแม้ว่าเมื่องานเสร็จสวนตรงนี้จะไม่ใช่ของกุลก็ตาม.กุลมองไปทั่วสวนอีกครั้งอย่างชื่นใจ 
     เอ้ากุล  ค่าแรงจ้ะ  เพื่อนยื่นซองหนาส่งให้กุล
     ขอบใจจ้ะ มีงานใหม่ก็เรียกกุลนะ สนุกดี 
     เจ้าของบ้านฝากชมนะว่าสวนสวย เค้าชอบต้นไม้ที่กุลเลือกมาก  .กุลยิ้มรับปลื้มกับคำชม..นึกถึงเจ้าของบ้านที่เพื่อนแนะนำให้รู้จักเมื่อวันแรกที่เริ่มงานฝรั่งตัวสูงที่เพื่อนเล่าว่าภรรยาคนไทยเพิ่งทิ้งเพราะความบ้างาน ไม่มีเวลาพาเจ้าหล่อนไปเที่ยวเตร่เฮฮา พ่อหนุ่มเลยประชดชีวิตด้วยการซื้อบ้านหลังเขื่องหลายล้านพร้อมๆกับไหว้วานหนุ่มไทยเพื่อนฝูงให้หาหญิงไทยอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนแบบที่แกเคยประทับใจว่าผู้หญิงไทยทุกคนจะเป็นเช่นนั้นให้หน่อยสนใจสมัครไหมล่ะกุล .จำได้ว่าวันนั้นกุลเบ้หน้าแล้วตอบหน้าตาเฉย
     กุลไม่เคยมีสามีเป็นผู้ชายสักที คงไม่สมัครหรอกจ้ะ เพื่อนหนุ่มตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของกุลทำหน้าพิกลจนกุลขำ
    กุลนั่งรถออกจากบ้านหลังงามเงินค่าแรงปึกใหญ่นอนอุ่นในกระเป๋ารางวัลปลอบขวัญพริกขี้หนูที่กุลเหินห่างเป็นอะไรดีหนอ กิ๊บ  ริบบิ้น ปลอกคอ  เสื้อสวยๆแบบใหม่.แล้วกุลก็คิดถึงพี่โมกับอ้อมจี๊ดขึ้นมาทันที
     อ้อมมมกุลเองจ้ะ งานเสร็จแล้วมาฉลองกันหน่อย อยากกินอะไรบอกมากุลเลี้ยงเอง 
     โอยยย คิดถึงๆๆๆๆๆไม่ได้คุยกันเลยนะกุล  งั้นตอนเย็นเจอกันนะกุลมีเรื่องเล่าเยอะเลย
      แล้วเจอกันจ้ะ
    พี่โมเป็นรายต่อไป
     พี่โม กุลค่ะสบายดีรึเปล่าคะ 
    เสียงที่ตอบกลับมาไม่เหมือนพี่โมที่เคยอารมณ์ชื่นบานเลย  ห่อเหี่ยวพิกล
     ไม่สบายรึเปล่าคะพี่โม   เสียงแหบเชียว 
     เปล่าจ้ะ  กุลหายไปไหนมาพี่โทรไปก็ไม่รับ 
     กุลไปจัดสวน งานพิเศษน่ะค่ะมันยุ่งๆ บางทีเลยปิดเครื่อง  วันนี้งานเสร็จแล้วรวยเลยล่ะค่ะจะพาพี่โมกับอ้อมไปเลี้ยงข้าวพาน้องแนนไปด้วยก็ยินดีค่ะ พี่โมเงียบกริบไปทันทีทันใดจนกุลคิดว่าสายโทรศัพท์หลุดไปเสียแล้ว
     พี่ขอตัวได้ไหมกุล  ไม่อยากไปไหนจ้ะ 
     ไม่ได้ค่ะ กุลทำเสียงแข็ง
     ไปนะคะพี่โม นานๆกุลถึงจะมีโอกาสเลี้ยงพี่โมบ้าง  กุลกินขนมพี่โมตั้งเยอะแล้ว  นะคะ  อ้อมก็มาค่ะ  ไม่รู้ล่ะเดี๋ยวกุลนัดอ้อมไปเจอกันที่ทำงานพี่โมก็แล้วกัน ..กุลได้ยินเสียงโมถอนหายใจเฮือกใหญ่
     อืมมงั้นก็ตามใจ แล้วเจอกันจ้ะ 
    กุลฟังอ้อมเล่าเรื่องราวต่างๆที่เหมือนไม่รู้จบจากเสียงเจื้อยแจ้วของอ้อม ได้รู้ว่าใครเป็นอย่างไรบ้าง ได้รู้ว่าโมหายเงียบไปจากพ้องเพื่อน นึกขันว่าไม่ถึงเดือนที่กุลไม่ได้ติดต่อใครๆประเทศไทยมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเหลือเกินอ้อมทำเสียงจิ้จ๊ะพร้อมมองนาฬิกา
     เฮ้ออออพี่โมทำอะไรอยู่น๊ามาสายตามเคยหน้าตาไม่ดีแล้วยังเล่นตัวอีกเนอะกุล   กุลได้แต่หัวเราะไปกับคำเหน็บแนมของอ้อมล่วงเลยเวลานัดหมายเกือบชั่วโมงกว่าที่กุลกับอ้อมจะเห็นโมเดินเข้ามาปรากฏในสายตากุลขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
    ..พี่โมที่เดินมาตามทาง..ใต้ร่มจามจุรีที่แผ่กิ่งก้านมาด้วยเวลายาวนานไม่เหมือนพี่โมที่กุลเคยเห็นเลยพี่โมดูซูบเซียวอมทุกข์แต่ยังคงความอ้วนกลมไว้เหมือนเดิม..กุลกับอ้อมยกมือไหว้พี่โม
     พี่โมไม่สบายรึเปล่าคะ  โทรมเชียว อ้อมปากไวเท่าความคิดพี่โมส่ายหน้าอย่างเนือยๆ
     พี่โมอยากทานอะไรดีคะ ให้พี่โมเป็นคนเลือกค่ะวันนี้เอาใจพี่โมนะอ้อมนะ    อ้อมพยักหน้าอย่างเห็นดีด้วย
    โมนั่งเงียบ ไม่เย้าแหย่กับอ้อมเหมือนเคยแม้แต่อาหารญี่ปุ่นที่เคยชอบตั้งอยู่ตรงหน้าก็ดูไม่เชิญชวนให้โมเจริญอาหารเอาเสียเลยช่วงหนึ่งเสียงโทรศัพท์ของอ้อมดังขึ้น
      ค่ะพี่ๆ  ค่ะๆ เดี๋ยวอ้อมเอาเอกสารมาอ่านให้พี่ฟังอีกทีนะคะ 
     กุลอ้อมไปคุยเรื่องงานที่รถแป๊บนะจ๊ะ ห้ามกินกุ้งหมดนะพี่โม เสียงอ้อมเจื้อยแจ้วห่างออกไปกุลหันมามองโมที่เหม่อมองออกไปนอกร้าน
     พี่โม ไม่สบายใจอะไรรึเปล่าซึมจังเลย ทำไมไม่ชวนน้องแนนมาด้วยล่ะคะ โมหันกลับมาพร้อมขยับแว่นที่ซ่อนน้ำตาปริ่มๆจากสายตากุลไม่พ้นกุลคิดว่าคงมีอะไรไม่ปกติกับโมแน่ๆ
     ถ้าอยากพูดก็พูดนะคะพี่โมจะได้รู้สึกดีขึ้น โมเงียบไปสักพักแล้วก็เหมือนตัดสินใจถอนใจยืดยาวก่อนที่จะเริ่มพูด..
     ไม่มีน้องแนนแล้วล่ะกุล เค้าทิ้งพี่ไปแล้ว 
     ทะเลาะกันรึคะ  งอนล่ะมั๊งเค้ายังเด็ก ง้อหน่อยสิ ..กุลยิ้มอย่างเอาใจช่วย
     ไม่หรอกกุลพี่ว่าพี่ไม่พิจารณาให้ดีก่อนมากกว่าน่ะว่าพี่เหมาะกับกับเค้าไหม..วัย..ความคิดแม้แต่สิ่งปลีกย่อยพี่ก็มองข้ามไปเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งมากกว่าน่ะกุลพี่ไม่โกรธหรอกกับเหตุผลที่น้องเค้าไม่อยากคบหากับพี่แต่มันก็เสียใจเหมือนคนทั้งหลายแหละกุลเออ..ก็พี่เป็นคนนี่นะ โมหัวเราะขำคำพูดตัวเองออกมานิดนึงกุลนึกดีใจที่เห็นวี่แววของความเป็นโมค่อยๆกลับมา
     น้องเค้าให้เหตุผลอะไรคะ โมนิ่งไปครู่หนึ่งเหยียดยิ้มหยันๆอีกหน่อย
     เค้าว่าพี่อ้วน  แก่  ขี้ริ้ว เดินไปไหนด้วยก็อายคนรถราก็บุโรทั่ง ไม่หรูหรา ไม่พาเค้าไปชอบปิ้งเหมือนแฟนเก่าเค้าเฮ้ออออ 
     โธ่พี่โมก็เป็นแบบนี้มาแต่แรกไม่ใช่รึคะ ถ้าเหตุผลแบบนี้อย่าเสียใจเลยพี่โม กุลว่าน้องเค้ายังเด็กยังมองอะไรแค่ผิวๆถ้าเค้ามองลึกๆเห็นถึงอะไรสวยๆงามๆของใจพี่โมกุลว่าน้องเค้าจะเสียดายพี่โมมากเลย 
     กุลเห็นแบบนั้นเหรอ 
     ค่ะ  งั้นเพื่อนๆจะรักจะห่วงพี่โมรึคะ เพราะเพื่อนเห็นแบบที่กุลเห็นไง  
     ได้พูดแล้วก็โล่งใจนะกุล แต่ก็ยังกลัวพี่ปิ่นกับพรรคพวกจะโกรธที่พี่เปลี่ยนไปพักใหญ่ 
     กุลว่าไม่หรอกค่ะ เป็นแบบที่พี่โมเคยเป็น แล้วอ้อนพี่ปิ่นเสียหน่อยเหตุการณ์ก็ปกติค่ะ 
     ขอบใจนะกุลที่รับฟัง 
     อืมมกุลว่ามันเป็นวิบากอย่างที่พี่โมเคยพูดให้กุลฟังไงคะมาพบกันบ้างก็ทำให้สุขบ้างก็ทำให้ทุกข์แล้วก็พลัดพรากกันไป 
     ใช่ๆๆๆ เออนะพี่เป็นคนสอนกุลเองกลับไม่คิดถึงตรงนี้เลย แย่จัง ดูโมอารมณ์ดีขึ้น จิ้มกุ้งตัวแรกเข้าปากแล้วก็ตัวต่อๆมาและก่อนจะถึงตัวสุดท้ายอ้อมก็กลับเข้ามาพอดี.
     อย่านะพี่โมๆๆๆๆดูสิบอกแล้วอย่ากินหมด ไม่เหลือให้อ้อมเลยพี่โมใจร้าายยย 
     สั่งใหม่เลยอ้อม ทานเยอะๆนะคะพี่โม โมเริ่มต่อล้อต่อเถียงหยอกเย้ากับอ้อมเหมือนเดิม กุลดีใจที่เห็นเช่นนั้นทุกอย่างค่อยๆสมานเป็นอย่างที่เคยเป็น พี่ปิ่นทำเป็นงอนพี่โมเสียหน่อยพอเป็นพิธีแล้วมิตรภาพก็คืนดังเดิม..โมโทรหากุลในวันหนึ่ง
     กุลอาทิตย์หน้าพี่ลางานจะไปถือศีลน่ะจ้ะ อยากได้อะไรทางเหนือมั๊ย 
     เอาบุญมาฝากก็พอค่ะ อย่างอื่นไม่เอา  ไม่โทรไปถามอ้อมล่ะคะ  กุลเย้าโม
     รู้ว่าถามแล้วเจ้าอ้อมต้องอยากได้ยาวเหยียดน่ะสิเลยไม่ถาม  โมหัวเราะเมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกมา
     ไปอยู่สงบๆจิตใจสติปัญญาจะได้ดีกว่าเดิม  ถ้ากุลว่างไปลองดูบ้างไหมล่ะ  
     ไว้โอกาสหน้าดีกว่านะคะพี่โม กุลอยู่เฉยๆนั่งนิ่งๆไม่เป็นน่ะค่ะพอสมองคิดอะไรปุ๊บต้องทำทันที  ขืนไปนั่งนิ่งๆอึดอัดตายเลย 
     ตามใจจ้ะ มีศรัทธาคิดอยากไปเมื่อไหร่ก็บอกนะจ๊ะ
     ค่ะ  เดินทางปลอดภัยแล้วกลับมาอย่างมีความสุขนะคะ 
    
    บทที่ ๕  ..
    
    ชีวิตแต่ละคนดำเนินไปตามเส้นทางการงานของตน  เหลืออีกครึ่งปีโมก็จะอำลาชีวิตราชการก่อนเกษียนอย่างที่ตั้งใจ   สะสางงานคั่งค้างอย่างโล่งใจพร้อมๆกับตื่นเต้นกับแผนการชีวิตอนาคตที่วาดไว้
     เมื่อครู่นี้เองที่โมเพิ่งวางสายโทรศัพท์จากกุล  แปลกจังกุลไม่ช่างซักช่างถามเหมือนที่เคย  แถมตัดบทโมเอาเสียดื้อๆดีเหมือนกันปวดฉี่อยู่พอดีโมเข้าห้องน้ำเสร็จเสียงโทรก็เรียกอีก
     พี่โม  อ้อมนะคะ กุลเป็นอะไรพี่โมรู้บ้างไหม  โมงงๆ   หึไม่รู้จ้ะ เป็นไรเหรอเมื่อกี้โทรไปก็ไม่เห็นพูดนี่ 
     กุลเอาแต่ร้องไห้  บอกแต่หมดแล้ว ไม่เหลืออะไร พูดแต่อยากตาย  ฝากให้อ้อมเลี้ยงพริกขี้หนู  พออ้อมถามกุลก็ไม่เล่าอะไรวางหูเฉยเลย  ห่วงกุลน่ะพี่โม 
     เหรอ  กุลเค้ารักหมานั่นจะตายไงอยู่ดีๆจะยกให้อ้อมล่ะ  เออๆๆ รอเดี๋ยวนะพี่มีสายเรียกเข้าจ้ะ 
     พี่โม  เสียงเครือของกุลดังมาตามสาย
     กุล  เป็นอะไรรึเปล่า  
    พี่โม  เอาพริกขี้หนูไปเลี้ยงได้ไหมคะ 
     โอยยยไม่เอ๊ากลัวหมา..กุลก็รู้นี่จัะเออกุลมีปัญหาอะไรรึเปล่าคุยกันก่อนนะจ้ะเรื่องหมาไว้ทีหลัง นะ 
     ไม่คุยค่ะพี่โม กุลหมดแล้วทุกอย่าง บ้านช่อง กุลห่วงแต่พริกขี้หนู ในเมื่อไม่มีใครรักเค้าเหมือนกุล กุลก็จะเอาเค้าไปด้วย แค่นี้นะคะพี่โม 
     เดี้ยววววว เดี๋ยวก่อนกุล กุลอยู่ไหนจ้ะ ที่บ้านรึเปล่า  
      ไม่ค่ะ 
     แล้วอยู่ที่ไหนล่ะจ้ะ พี่อยากเจอกุลจ้ะ 
     รับปากกุลก่อนสิคะพี่โมว่าจะเลี้ยงพริกขี้หนู  
     กุลรอแป๊บนะจ๊ะ พี่ปวดฉี่ 
    โมจิ้มเบอร์โทรของอ้อมด้วยมือที่สั่นเทา  อ้อมมมมมมมมม  กุลโทรมาน่ะ พูดเหมือนที่อ้อมเล่าเลย  
     พี่โมอ้อมว่ามันแปร่งๆนะ ห่วงกุลจังเลย พี่โมไปหากุลเถอะค่ะ 
    เออๆๆแล้วหาที่ไหนล่ะอ้อมเอ๊ย เออๆๆ..รู้แล้วอ้อมวางสายไปนะแล้วไงพี่จะส่งข่าวนาทีนั้นเองที่โมคิดออกหันกลับไปเรียกกุล
     กุลกุล ตอบหน่อยเร้วๆๆๆๆๆๆ. 
    เงียบจนโมใจหาย..ได้ยินเสียงหวู่ๆๆๆเหมือนลมพัดแรงคุณพระคุณเจ้ากุลอย่าทำอะไรที่โมคิดอยู่เลยนะ
     พี่โม แล้วก็มีเสียงของกุลตอบมาในที่สุด
     กุลจ๋าพี่รักพริกขี้หนู อยากเลี้ยงมันมากเลยจ้ะ..จะให้พี่ไปรับที่ไหนล่ะจ๊ะ 
    โมทำเสียงปกติที่สุดขณะรีบวิ่งตัวกระเพื่อมมาหน้าปากซอย หันรีหันขวางหารถสาธารณะสักคันแล้วก็นึกได้ว่าโมก็มีรถนี่นาทำไมไม่ขับมันออกมาเล่า.มอร์เตอร์ไซค์วินวิ่งอืดเอื่อยมาคันนึงไกลๆเอาวะไปกับเจ้านี่ดีกว่าขืนวิ่งกลับไปเอารถโมคงสลบไสลอยู่แถวนี้ล่ะ
     พี่โม  ฟังกุลอยู่รึเปล่าคะ 
      จ้ะ กุลอยู่ไหน บอกเร็วๆ อย่าเพิ่งทำอะไรนะจ้ะ รอพี่ไปรับพริกขี้หนูก่อน 
     พี่โมต้องเลี้ยงเค้าดีๆนะคะ อย่าดุ  พูดกับเค้าเพราะๆ
     อือๆๆ พูดเพราะๆ แล้วมันกินอะไรล่ะ  กุลต้องรอบอกพี่ก่อนนะจ๊ะ กุลอยู่ไหนล่ะนั่น 
    มอร์เตอร์ไซค์เวรเอ๊ยย วิน จอดพรืดตามมือที่กวักไกวของโม
     ไปไหนจ๊ะ พี่ดึกดื่นป่านนี้แล้วไม่หลับไม่นอน 
     กุลอยู่ไหนจ๊ะ 
     สะพานพระรามเจ็ดค่ะ 
     อยู่ตรงไหนล่ะกุล 
     กลางสะพานค่ะ พี่โมกุลเอาพริกขี้หนูผูกไว้กับราวสะพานพี่โมอย่าทิ้งเค้านะคะเค้าชอบกินเปปซี่  ชอบให้เกาหัวชอบบบบ.
     เดี๋ยวนะกุลพี่จำไม่ค่อยได้ว่าหมามันชอบอะไรมั่ง รอแป๊บนะจ๊ะ 
     ไปไหนพี่ 
     กลางสะพานพระรามเจ็ด ด่วนเลยน้อง 
     สัญญาก่อนนะจ๊ะพี่
     สัญญาอะไรวะ  โมงงกับเจ้าหน้าเหลี่ยมที่คร่อมอานมอร์เตอร์ไซค์
     หนูส่งพี่แค่ตีนสะพานนะจ๊ะจ้ำม่ำขนาดพี่  หนูกับน้องแมวพาพี่ขึ้นไปถึงกลางสะพานไม่ไหวนะจ้ะ 
     ใครวะน้องแมว โมวิงเวียนเจียนจะเป็นลมกับเหตุการณ์ก็มาเจอเจ้าคารี้สีคารมเข้าอีกนึกพาลอยากดีดเจ้านี้ลงไปกองแล้วชิงมอร์เตอร์ไซค์ให้รู้แล้วรู้รอดไปคิดได้ก็กลัวติดตะรางอีก
     เออๆๆๆเอ็งจะส่งตรงไหนแล้วแต่จะกรุณา  รีบๆไปก็แล้วกัน 
    โอยยๆๆๆ..โว้ยยยยยยยมันขี่รถเหมือนป่อเต๊กตึ๊งก็ไม่ปาน ปาดซ้ายปาดขวาตลอดทางเร็วดังใจโมแท้ๆ
    เออแน่ะมันทำตามสัญญาจริงๆจอดเอาดื้อๆตั้งแต่ยังไม่ถึงเชิงสะพาน
     ส่งแค่นี้นะพี่  หนูง่วง น้องแมวก็วิ่งทั้งวันแร่ะ  เหนื่อย 
    โมพยุงสังขารลงจากอานควักเงินส่งให้หนูหน้าเหลี่ยมแต่ก็ขอถามให้หายสงสัยซะหน่อยเถอะ..ลืมตัวว่ากำลังรีบสนิท
     ใครคือน้องแมว 
     เอ๊า..พี่ก็..นี่ไง๊น้องแมวแบกพี่มาเป็นสิบกิโล  เจ้าหน้าเหลี่ยมลูบมือลงบนมอร์เตอร์ไซค์รุ่นแรกของเมืองไทยอย่างแสนรักอืมมม.โมพยักหน้าเหมือนเข้าใจเนี่ยนะน้องแมว
     เออๆ ขอบใจที่มาส่งพี่ไปล่ะ 
    โมเดินเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ไต่ความชันของสะพานไปเรื่อยๆเหนื่อยจนอยากเลื้อยเชียวล่ะมีรถราวิ่งสวนไปมาบางตาแล้วเก

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน