สายัณห์
นกตะวัน
ผมกับคุณแป้นยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งเกือบถึงหัวโค้งของถนน แสงเกือบสุดท้ายในยามเย็นยังคงส่องกระทบหินผาของเทือกเขาหินปูนทางด้านขวา แลเห็นเป็นสีแดงไปทั่วทั้งขุนเขา สลับกับสีเขียวเหลืองของต้นไม้ที่ขึ้นอยู่เป็นหย่อมๆตามซอกหิน นกออก (White-bellied Sea Eagle) ตัวหนึ่งถลาร่อนออกมาจากหน้าผา เป็นนกตัวสุดท้ายที่ผมได้เห็นในวันนี้ แต่ในไม่ช้าเราต้องเดินกลับ เมื่อแสงสุดท้ายของวันนี้ส่องกระทบเหลี่ยมเขา เพราะพลบค่ำแล้ว
ตะวันดับลับฟ้าต้องลาจาก
แดดถูกพรากพ้นน้ำหยุดฉ่ำใส
ทุ่งเงียบเหงาเศร้าสร้อยจนน้อยใจ
ขาดแสงไล้ลูบทาเมื่อสายัณห์
กกแขมอ้อล้อลมพัดข่มไหว
เอนต้นไกวแกว่งตามยามลมหัน
คล้ายเงาดำคล้ำไปในฉับพลัน
ทั่วดงนั้นแน่นติดมืดมิดไกล
ฟ้าหยุดจ้านภาคล้ำพลบค่ำแล้ว
เสียงนกแผ่วตัดพ้อรอวันใหม่
แสงเคยรอนร้อนกล้ามาโลมไล้
ค่อยเลือนไปปิดฟ้าอ่อนล้าแรง
สนธยามาเยือนแสงเลือนหาย
แดดมลายมืดมนทุกหนแห่ง
แม้เห็นน้ำคล่ำไปไม่แห้งแล้ง
แต่หมดแสงสิ้นวันสวยพลันลา
เมื่อเดินมาใกล้จะถึงรถตู้ เรามองเห็นตากล้องทั้งหลายกำลังเก็บอุปกรณ์ถ่ายภาพเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถ นกยอดหญ้าหัวดำนายแบบตัวนั้นคงบินกลับไปนอนในพงแล้ว ในไม่ช้าความมืดเข้ามาครอบงำจนทุกหนทุกแห่งมืดมิดไปหมด ทุกคนจึงขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ รถตู้ของเราแล่นออกจากที่จอด แล่นไปตามถนนเลียบทุ่งสามร้อยยอดไปเรื่อยๆ แต่ความงามของท้องทุ่งเมื่อบ่ายวันนี้สูญหายไปหมดแล้ว มองเห็นแต่ความมืด เมื่อรัตติกาลมาเยือน
เที่ยวชุมพร ย้อนมาประจวบฯ 45
25 ตุลาคม 2547