กำแพงน้ำฝน
นกตะวัน
ในไม่ช้าเราเดินทางมาถึง หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เนินหอม พอลงมาจากเขาใหญ่หนทางเบื้องหน้าชักไม่ค่อยปลอดโปร่งเท่าไรนัก เนื่องจากแสงแดดแทบไม่มี ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม แต่เราผ่านปราจีนบุรีและนครนายกมาได้โดยไม่เจอฝน พอเข้าเขตปทุมธานีท้องฟ้ากลับมืดมิดผิดปกติ แล้วในที่สุดฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนปริญญ์แทบขับรถต่อไปไม่ได้ เนื่องจากทัศนวิสัยเล็วเอามากๆ จึงต้องค่อยๆขับคืบคลานไปเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุ
ฟ้าปล่อยฝนล้นหลั่งพรูพรั่งสู่
สายน้ำซู่สาดรถแทบบดดับ
มองทางไหนให้มัวสลัวยับ
หยดน้ำจับเต็มกระจกหมอกปกคลุม
ดั่งกำแพงแห่งฝนท่วมท้นสิ้น
ทั่วทุกถิ่นท้องถนนล้นเป็นหลุม
เห็นแต่น้ำฉ่ำนองห้วยหนองรุม
ถนนชุ่มน้ำเชี่ยวไหลเลี้ยวไกล
รถต้องคลานผ่านยากลำบากหนัก
แล่นทุลักทุเลฝนเทใส่
ค่อยระวังหยั่งลองคอยมองไว้
ลุยน้ำใสสาดกระเซ็นใจเย็นรอ
เหมือนลุยคลองนองฝนน้ำล้นไหล
แล่นรถไปเป็นเรือเบื่อจริงหนอ
ต้องคอยถ่อท้อใจให้ชะลอ
อยากตัดพ้อพระพิรุณหนุนฝนมา
ผมจำไม่ได้เสียแล้วเราต้องลุยฝ่ากำแพงน้ำฝนนานแค่ไหน จำได้แต่เพียงว่ากว่าจะผ่านพ้นฝนหนักเราเลยธัญบุรีมาแล้ว อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าไม่มีฝนตกหนักอีกต่อไป แต่ฝนยังไม่ยอมหยุดตกอยู่ดี เพราะยังมีฝนตกเบาๆอยู่อย่างไม่ขาดระยะ จนกระทั่งเรามาเกือบถึงสี่แยกรังสิต ฝนจึงหยุดตกอย่างเด็ดขาด เราแวะซื้อกล้วยไม้ที่สนามหลง 2 ก่อน หลังจากขับรถไปส่งผมที่บ้านแล้ว ปริญญ์จึงรีบขับรถกลับระยองทันที เพราะกลัวว่าจะต้องเจอฝนตกหนักซ้ำสอง
ปลายฝน บนเขาใหญ่ 30
12 กันยายน 2547