ป่าไม้
นกตะวัน
จากจุดชมวิวจุดสุดท้าย ผมมองเห็นพื้นที่เขาใหญ่ทางด้านเหนือเด่นชัดมาก แลเห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์จนทำให้นึกถึงคำขวัญของกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพรรณพืช คือ ป่านั้น คือมณี มีค่าอนันต์ และ ป่าดง คงไพร ไทยยั่งยืน ซึ่งมักพบเห็นเป็นประจำตามป้ายที่ติดไว้ภายในอุทยานฯ เขาใหญ่ ผมจึงนำคำขวัญทั้งสองมาแต่งเป็นบทกวี ป่าไม้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และคนไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ที่มีต่อสัตว์ป่าและประเทศชาติ
ป่านั้นหรือคือมณีมีค่าอนันต์
ผองเรานั้นร่วมพิทักษ์รักษ์ไม่หมอง
มิปล่อยให้ใครมาถางป่าจอง
ผู้ครอบครองควรฉิบหายเลวร้ายจริง
ผืนป่าดงคงไว้ไทยยังอยู่
สัตว์เมียผู้ได้อาศัยใช้สู่สิง
ไร่นาฉ่ำน้ำใสชื่นใจจริง
ป่าไม่นิ่งนำความชื้นคืนสู่เรา
เกิดหมอกเมฆเสกฝนให้หล่นหลั่ง
พฤกษ์สะพรั่งเพราะฝนหล่นฉ่ำเขา
หมู่ไม้งามยามมองต้องตาเรา
ยากเงียบเหงาเศร้าใจเมื่อได้เดิน
คงเอาไว้ไพรพนาป่าผืนไหน
ยั่งยืนให้ไทยประชาพาสรรเสริญ
ต้องช่วยกันทันใดอย่าได้เมิน
เราจะเพลินเจริญใจเมื่อไพรงาม
หลังจากนั้น เราเดินทางย้อนกลับไปตามถนนธนะรัชต์ ผ่านทางเข้าไปหนองผักชี ข้ามลำตะคอง ผ่านร้านอาหารและสำนักงานใหญ่ของอุทยานฯ เขาใหญ่ ผ่านทางเข้าไปค่ายพักกองแก้วและสนามกอล์ฟ อ่างเก็บน้ำมอสิงโต และหนองขิง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนกลับไปยัง หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ผากล้วยไม้ อีกครั้งเพื่อเก็บเต็นท์ นักท่องเที่ยวเริ่มบางตาลง และเต็นท์ในสนามเหลืออยู่ไม่กี่หลัง คงเดินทางกลับกันเกือบหมดแล้ว
ปลายฝน บนเขาใหญ่ 28
12 กันยายน 2547