แม่น้ำมรกต

นกตะวัน

ในขณะกำลังเดินดูนกอยู่ที่ระเบียงกาแฟนั้น น้ำในแม่น้ำแควใหญ่เริ่มไหลแรงขึ้น เพราะเขื่อนท่าทุ่งนาที่อยู่ถัดไปทางต้นน้ำระบายน้ำออกมาเพื่อนำพลังงานจากน้ำมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำแควใหญ่นำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกด้วย หลังจากนั้นผมจึงเดินขึ้นไปข้างบน แต่พอผมหันหลังกลับมาดูแม่น้ำอีกครั้ง แม่น้ำแควใหญ่กลับเปลี่ยนไปเป็นสีเขียวราวกับมรกต เพราะป่าอันเขียวชอุ่มริมแม่น้ำสะท้อนลงมาจนเต็มลำน้ำ
โอ้แควใหญ่ใสแจ๋ววาวแวววับ		
สะท้อนกลับเกิดภาพฉาบน้ำใส
เห็นพรรณไม้ในน้ำสวยฉ่ำใจ			
น้ำจึงใสสีเขียวน่าเหลียวมอง
เหมือนกับลำน้ำไหลไม่มีลด			
มรกตก่องเก็จจนเพชรหมอง
รับแสงแดดแผดกล้าธารารอง		
วูบวาบต้องแสงตะวันอัศจรรย์ตา
หากสายน้ำฉ่ำใสไหลเช่นนี้			
พฤกษามีสองฝั่งสะพรั่งหนา
มรกตสดใสในคงคา			
คงเจิดจ้าแจ่มใสไปนิรันดร์
ถ้าพวกเราเข้าไปในธรรมชาติ			
เห็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ดุจสวรรค์
ดั่งแควใหญ่ใสมรกตเขียวสดกัน		
ชีวิตนั้นน่ายินดีสุขีจริง 			
เนื่องจากการประชุมในวันนี้ยังไม่เริ่มขึ้นเพราะวิทยากรอำนวยการยังมาไม่ถึง ทั้งๆที่พักอยู่ในเมืองกาญจน์ ผมจึงเดินส่องกล้องดูนกภายในรีสอร์ทไปเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยพบนกที่น่าสนใจเท่าไรนัก ไกลออกไปทางมุมสุดของรีสอร์ทซึ่งคนงานกำลังปลูกต้นไม้อยู่ ผมแลเห็นนกกระแตแต้แว้ด (Red-wattled Lapwing) 2 ตัว กำลังเดินหากินอยู่ห่างๆกัน ส่วนบนกอไผ่แห้งยังคงเห็นนกเอี้ยงสาลิกาอยู่เช่นเดิม มันคงอาศัยหลับนอนอยู่ในรีสอร์ทแห่งนี้
ประชุมเชิงปฏิบัติการ ริมแม่น้ำแควใหญ่ 21
5 กันยายน 2547