เนื่องจากบิดาของสุนทรภู่ได้หย่าร้างกับมารดาของสุนทรภู่ตั้งแต่สุนทรภู่เกิด แล้วกลับไปบวชเป็นพระอยู่ที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง ซึ่งเป็นถิ่นฐานเดิม มารดาของสุนทรภู่จึงถวายตัวเป็นแม่นมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิดาในกรมพระราชวังหลัง (สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์) สุนทรภู่จึงต้องอยู่กับมารดาในพระราชวังหลัง และถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น ตั้งแต่เล็กเด็กอยู่เป็นผู้ใหญ่ พักอาศัยสิงสู่คู่วังหลัง แลเห็นน้ำฉ่ำใสไหลประดัง ล้นสองฝั่งบางกอกน้อยชดช้อยคลอง ต้องเล่าเรียนเขียนอ่านในย่านนี้ เป็นข้าที่ถูกใจเรียกใช้สนอง เด็กวังหลังฝั่งธนผู้คนมอง เขากลับหมองเมินหน้าบิดาไกล ฝากชีวิตลิขิตไว้ในวังหลัง ตราบชีพยังอยู่ยงคงไสว แม้ตายลับดับหายมลายไป ขอสิงในวังนี้ทุกวี่วัน ยามมานั่งฝั่งคลองมองด้วยญาณ โรงพยาบาลศิริราชลองวาดฝัน เคยเป็นวังตั้งไว้ใหญ่สำคัญ เมื่อคราวนั้นสุนทรภู่เคยอยู่เคียง เมื่อสุนทรภู่เติบโตขึ้นคงได้รับการศึกษาในสำนักพระราชวังหลัง หรือจากวัดที่อยู่ใกล้ๆพระราชวังหลัง ซึ่งอาจเป็นวัดบางว้าใหญ่ (วัดระฆัง) หรือวัดบางว้าน้อย (วัดอมรินทร) หรือวัดชีปะขาว (วัดศรีสุดาราม) ซึ่งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี สุนทรภู่พำนักอยู่ในพระราชวังหลังนี้จนกระทั่งสิ้นรัชกาลที่ 1 ทีเดียว มารดาได้สามีใหม่ และมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นหญิงทั้งคู่ คนหนึ่งชื่อฉิม อีกคนหนึ่งชื่อนิ่ม สุนทรภู่ กวีสี่แผ่นดิน สมัยรัชกาลที่ 1 (2329-2352) บทที่ 5
3 กันยายน 2547 07:03 น. - comment id 322622
มาอ่านเป็นกำลังใจให้ครับ เขียนได้น่าอ่านจังเลย
3 กันยายน 2547 08:37 น. - comment id 322661
เข้าใจถึงมูลเหตที่....สุนทรภู่ เก่งภาษาไทยแล้วครับ๚ะ๛ size>
3 กันยายน 2547 12:15 น. - comment id 322866
เก่งจริง ๆ ค่ะ ชื่นชมในผลงานเสมอนะค่ะ และขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาให้อ่านกันค่ะ