กะรองทองแก้มขาว
นกตะวัน
ฟ้าใกล้สางเข้ามาทุกทีในขณะที่รถตู้แล่นวกวนไต่เขาขึ้นมาถึงทางลาด แล้วแล่นตรงมายังสี่แยกซึ่งเป็นที่ตั้งของด่านสอง เรามาถึงในเวลา 06.00 น.พอดี รีบจัดการกับอาหารเช้าท้ายรถปิกอัพที่เปิดบริการอยู่แล้ว โดยมีสาวเอ๊ะหวานใจนายโต้งยืนเชื้อเชิญอยู่ใกล้ๆ พออิ่มหนำกัน ฟ้าสว่างพอดี พร้อมกับการเข้ามาเยี่ยมอย่างพลุกพล่านของนกมุ่นรกตาแดง และยังเห็น นกกะรองทองแก้มขาว (Silver-eared Mesia) พาฝูงมาหากินใกล้ด่านมากกว่าเมื่อวานนี้
กะรองทองร้องเรียกเพรียกหาคู่
ต่างเคลื่อนอยู่ยวบกิ่งไม่นิ่งหยุด
อวดขนเหลืองเรืองรองคล่องไต่มุด
บริสุทธิ์สีทองส่องอำไพ
ยามกระโดดโลดเล่นดำเด่นหัว
มิหวงตัวตามกันถลันไต่
ล้วนเผยแย้มแก้มขาวสกาวไว้
เหลือบเงินไล้ลูบทาหน้าผ่องพรรณ
ตัวผู้แต่งแดงใสใส่ตะโพก
นางเมียโศกแซมเหลืองเรืองเมื่อหัน
แต่แต้มแดงแต่งปีกไม่หลีกกัน
เทพช่างสรรค์เสกเจ้าเฝ้าพงพี
ทั้งสำเนียงเสียงเพราะเสนาะหู
รื่นน่าดูเมื่อดังฟังจนถี่
ยินกี่ครั้งยังก้องร้องเช่นนี้
เชียอี๋อี้ชิวอี้ชิวอี๊อู
สำหรับนกชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็นนกระวังไพรปากเหลือง นกหางรำดำ นกหางรำหลังแดง นกติ๊ดแก้มเหลือง และนกปรอดภูเขา ต่างพากันมาชุมนุมที่ด่านสองชนิดละหลายตัวเหมือนเช่นเมื่อวานนี้ เพราะผีเสื้อกลางคืนที่บินมาเล่นไฟเมื่อคืนนี้ยังคงซุกซ่อนอยู่ตามต้นไม้และส่วนต่างๆของอาคารรอบๆด่านเป็นอาหารอย่างดีของนก พวกเราจึงเพลิดเพลินกันอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย จนกระทั่งแดดเริ่มส่อง และป่ารอบด่านสว่างขึ้น นกต่างๆจึงเริ่มน้อยลง
ตามหาลมปีกที่คิดถึง ปลายทางหิมาลัย 33
2 สิงหาคม 2547