เวลา 15.00 น. รถตู้ของเราลงมาจอดที่ปากทางเข้าไปยัง หน่วยจัดการต้นน้ำแม่แรก เราเดินไปเรื่อยๆแต่ไม่ค่อยพบนกเท่าไรนัก เพราะท้องฟ้าเริ่มครึ้ม จึงมองดูแต่ต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยไม้ดินชนิดหนึ่งที่มีดอกสีขาว พอเดินมาถึงหัวโค้งที่เต็มไปด้วยดงกล้วย แต่มีต้นบุกต้นหนึ่งขึ้นโดดเด่น ฝนตกลงมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกคนจึงต้องงัดร่มและเสื้อกันฝนออกมา แล้วตัดสินใจเดินกลับ แต่ขากลับทางเดินเปลี่ยนไปเป็นทางน้ำไหลราวกับลำธารสายเล็กๆ ท่ามกลางฝนล้นหลั่งสะพรั่งป่า เหล่าพฤกษาสดเชียวเขียวสุกใส เราทยอยค่อยเดินเพลินกันไป เลิกใส่ใจสายฝนหล่นลงมา บนหนทางหว่างป่าเดินมานั้น เปลี่ยนไปพลันเพราะฝนรินล้นหนา เป็นสายธารซ่านไหลไกลสุดตา ต้องลุยฝ่าน้ำฝนนองล้นไป แต่เราเดินเพลินใจได้ไวมาก แม้ลำบากเบื่อฝืนลื่นไถล เพราะพื้นเอียงเฉียงลาดน้ำสาดไว ลื่นล้มได้ด้วยแฉะน้ำแซะดิน คือมนตราหน้าฝนน้ำล้นหลั่ง ไหลสะพรั่งสู่ผืนพื้นภูผา หล่อชีวิตชนิดไหนใกล้ไกลตา สัตว์พฤกษาสดใสใต้ฝนงาม ในเวลาขากลับ เราเดินเร็วกว่าในเวลาขามามาก เพราะตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยมิได้สนใจมองอะไรข้างทางเลย แม้ว่าต้องเดินฝ่าสายฝนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกได้โดยง่าย แต่พอเดินมาใกล้จะถึงปากทาง หนทางที่ค่อยๆลาดลงเปลี่ยนมาเป็นลาดชันมากลงมาเรื่อยๆ จนแลเห็นน้ำฝนไหลเป็นทางลงไปราวกับน้ำตก เราต้องเดินเก็งเท้าอยู่เกือบตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะลื่นล้มได้โดยง่าย แล้วในไม่ช้าเราเดินมาถึงปากทางที่รถตู้ของเราจอดอยู่ ตามหาลมปีกที่คิดถึง ปลายทางหิมาลัย 29 1 สิงหาคม 2547
25 สิงหาคม 2547 10:46 น. - comment id 316408
สายฝนในป่าคอนกรีตมันดูว่าเหงา ต่างกับสายฝนในขุนเขามันดูร่าเริง ๚ะ๛ size>
25 สิงหาคม 2547 13:38 น. - comment id 316518
สายฝนเหมือนกัน.....แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างนะคะ
25 สิงหาคม 2547 18:20 น. - comment id 316652
อ่านงานชิ้นนี้แล้วให้คิดห่วงคุณนกตะวันจังเลย กลัวสายน้ำที่ไหลมันจะกลายเป็นน้ำป่าที่หลากล้นกระชากผู้คนล้มตายไปเหมือนที่เป็นข่าว..ค่ะ ขอบคุณค่ะ
25 สิงหาคม 2547 22:19 น. - comment id 316772
เคยเจอกับบรรยากาศคล้ายๆ แบบนี้เช่นเดียวกันค่ะ...ลื่นดีแท้เชียวค่ะ ............................................................................................................ ลี่...ผู้มาเยือน .