สดุดี อมตะกวีแห่งแผ่นดิน... ...ประกายเกล็ดเพชรรัตน์จำรัสเลิศ งามชูเชิดโชติชื่อบรรลือสยาม ศักดิ์ไทยเพิ่มเสริมยศปรากฏตาม เหมือนสูรย์ยามเยือนส่องอัมพร เริงระบำรำเต้นเล่นทีท่า เป็นลีลาเอกลักษณ์เอกอักษร เหมือนเกิดแก้วแพ้วพร่างกลางนคร เสริมสุนทรวรรณกรรมให้กำจาย เมื่อกล่าวเกริ่นกาพย์กลอนสุนทรถ้อย เป็นรุ้งร้อยรอยงานประมาณหมาย คำแปดคำเรียงคำจำเรียงราย งามเฉิดฉายยงอยู่คู่ขวัญกัลป์ หวนสะท้อนให้สะท้านธารความคิด ปลุกชีวิตด้วยคุณค่าภาษาสวรรค์ คำกวีไหววิเวกเศกวงวรรณ เพื่อรังสรรค์วรรณศิลป์ถิ่นแหลมทอง ทุกคำคมคมคำยังย้ำผ่าน ทุกผลงานบทกวีไม่มีสอง นามท่านภู่พริ้งสะพรั่งยังเรืองรอง ยังคงครองความวิจิตรนิจนิรันดร์...(หมึกมรกต) เรื้องเรืองรองเรืองรามงามวิศิษฐ์ เรืองลิขิตเรืองกวินศิลป์เฉิดฉัน เรื่องร้อยเรียงรังรักษ์ถักประคัลภ์ เรื้องรังสรรค์เรืองค่าเรืองธานินทร์...[เบิ้ลผู้วิพุทธ) บังคมคัลย์พระคุณสุนทรภู่ บรมครูสร้างสรรค์วรรณศิลป์ ปฏิภานกวีสี่แผ่นดิน เป็นยอดจินตกวีที่เชี่ยวชาญ...(ประจักษ์ประภาพิทยากร) ไทยผ่องเพ็ญเด่นท้าสายตาโลก ไม่ใช่โชคหรืออำนาจอันอาจหาญ แต่ที่เลิศเจิดจรัสชัชวาล นั้นเพราะงานศิลปวัฒนธรรม พระสุนทรโวหารชาญอักษร บิดากลอนครบคล้อยสองร้อยฉนำ และสหประชาชาติประกาศย้ำ เป็นปราชญ์ล้ำเลิศหล้าในสากล...(กรมศิลปากร) งานวิจิตรพินิจลักษณ์เป็นศักดิ์ศรี ชายชาตรีเมืองแกลงทำไม่ไร้ผล นามช่วยกู้ชูชาติไม่อับจน ด้วยได้ชนปราชญ์กวีศรีเมืองไทย(NaRu) ทั้งลีลาร้อยรสทุกบทล้วน อัศจรรย์ถ้วนให้เห็นเด่นพิศมัย แฝงข้อคิดข้อควรข้อความนัย ให้ลูกหลานนั้นไซร้ใฝ่ตรึกตรอง ขอนอบน้อมเคารพครูผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านอักษรด้วยหัวใจให้ลือก้อง วรรณศิลป์กวีไทยใช่เป็นรอง นามผุดผ่องนักปราชญ์เก่งกาจไกล ฯ(เมจิคเชี่ยน) ศาสตร์ศิลป์สายลายสือสื่อสร้างศักดิ์ ฉลุลักษณ์อักขรศาสตร์พิลาสสมัย ประทีปทองประเทืองทรรศน์ประพรรฒน์ไทย ลักษณ์วิไลร้อยรสบทประพันธ์ ช่วยกันสืบช่วยกันสานสืบงานศิลป์ ร้อยลักษณ์รินเรียงถ้อยร้อยสีสัน สอดซ้อนซ่อนซอนแทรกความงามนิรันดร์ ร้อยรังสรรค์เทิดกวีสี่แผ่นดิน(เบิ้ลผู้วิพุธ) อันความเพียรที่เขียนร่างกระจ่างแจ้ง แม้ชะตาจะแตลงผกผันผิน ในครานั้นถูกจองจำช่วงชีวิน แต่ในใจยังไม่สิ้นกวินญาณ์ ช่วงเวลาต้องโทษไม่สิ้นสูญ บริบูรณ์งานสร้างในเนื้อหา อภัยมณีสินสมุทรสรรหามา เป็นถ้อยท่าลีลาเชิงกวี(NaRu)
25 มิถุนายน 2547 21:56 น. - comment id 289918
มาชื่นชมรอบสอง อยากจะต่อกลอนด้วยนะค่ะ แต่กลอนแบบนี้ไม่ถนัด เลยขอชื่นชมอย่างเดียวดีกว่าค่ะ อิอิ
26 มิถุนายน 2547 15:15 น. - comment id 290190
ต่อจนจบแล้วมาชวนทำไม
26 มิถุนายน 2547 22:40 น. - comment id 290350
ขอลองต่อดูนะครับ คงไม่ว่าอาจจะไม่เพราะเท่าคุณแต่ก็อยากลองครับ ขอบคุณ ........ชเลชราผ่านมาเพียงภพ โอ้เอยอกชกชอกออกรัศมี เด่นระดับวับวามกลางราตรี กับชีพนี้เป็นหนี้แก่แผ่นดิน เกิดวังหลังเป็นผู้ดีบางกอก คลื่นระลอกชนรุ่นหลังประจวบสินธ์ กับเล่าลือที่ว่างวาในด้าวดิน สิ้นไม่สิ้นไม่ใช่ในโกงการ ว่า ภู่นี้เป็นชายชู้พิศวาส โอ้ ชีวาตเอยข้าใช่ดั่งสาร คงแต่เพศบรรพชิตเป็นถ้ำธาร แล้วบริวารบริเวรก็เป็นไป ที่อาจเอื้อมเด็ดดอกเทพธิดา ใช่ในราคาราคีที่หมองไหม้ รักแต่ชื่อคู่เคียงเป็นจินตนัย ได้แต่พึ่งใบบุญเจ้าจอมปิ่นองค์ .............สุนทรภู่: อาลักษณ์เจ้าจักรวาล...เรียนรู้เท่าทันโลก....เกิดวังหลังเป็นผู้ดีบางกอก
26 มิถุนายน 2547 22:48 น. - comment id 290354
มาไม่ทัน ปีนี้ไม่ได้เขียนกลอนเลย ค่ะ พวกคุณเขียนได้ดีนะคะ
26 มิถุนายน 2547 22:49 น. - comment id 290357
มาไม่ทัน ปีนี้ไม่ได้เขียนกลอนเลย ค่ะ พวกคุณเขียนได้ดีนะคะ