เทพธิดาไพร

นกตะวัน

สองข้างทางในช่วงถัดมาค่อนข้างรกทึบและร่มครึ้ม ต้นไม้สองข้างถนนสูงใหญ่แผ่กิ่งก้านและเรือนยอดเบียดเสียดกันจนแสงแดดส่องลงมาไม่ค่อยถึงพื้น เราเห็นไม้พุ่มชนิดหนึ่งซึ่งดอกร่วงโรยหมดแล้ว เหลือแต่เมล็ดสีดำที่มีกลีบรองสีแดงสดรองรับอยู่ข้างใต้ แต่ไม่ทราบว่าเป็นต้นอะไร ผีเสื้อมีให้เห็นตลอดทางแต่ไม่มากนัก และมักเป็นชนิดเดิมที่เห็นแล้ว เราเดินมาเรื่อยๆ ทันใดนั้นนกตัวหนึ่งโผร่อนจากต้นไม้ทางขวาข้ามถนนไปทางซ้ายหายเข้าไปในพุ่มไม้รกทึบ
เจ้ากางปีกหลีกลี้หนีใครหรือ			
จึงบินหวือว่องไวแทบไม่เห็น
ดั่งนางฟ้าถลาร่อนผ่อนลมเย็น		
ละลิ่วเล่นลอยไปไกลเกินมอง
แต่แสงส่องต้องหลังยังจำได้			
เขียวสุกใสสดสีไม่มีหมอง
อกท้องแดงแฝงน้ำตาลหวานชวนมอง		
ใยนวลน้องหนีหน้าพาพี่ตรม
รีบส่องกล้องมองหาแม่ตาหวาน		
หล่อนมุดพ่านเพ่งมองจ้องสาสม
เห็นหนังตาทาแดงแต่งเฉี่ยวคม		
ปากเขียวข่มเคลือบล้วนยียวนใจ
หางยาวใหญ่ใสหวานน้ำตาลเขียว		
ช่างงามเฉี่ยวชวนพะวงลุ่มหลงใหล		
เทพธิดาปักษางามอร่ามไพร			
สวยแค่ไหนน่ามองสอดส่องชม
นกตัวนี้คือ นกบั้งรอกเขียวอกแดง (Chestnut-breasted Malkoha) 	เป็นนกที่พบเห็นได้บ่อยในป่าดิบชื้นทางภาคใต้ แต่สามารถพบเห็นได้บ้างในภาคตะวันตกตอนใต้ เช่น อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และยังพบเห็นขึ้นไปถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี ด้วย นอกจากนกชนิดนี้แล้ว อุทยานฯ แห่งนี้ยังมีนกที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ใน เขตย่อยซุนดา (Sundaic Sub-region) อีกหลายชนิด จนไม่มีความจำเป็นต้องลงไปดูให้ไกลถึงภาคใต้
ท่องไพร ในเมืองเพชร (7)
1 พฤษภาคม 2547