ไอ้หนุ่มรถไถ
นกตะวัน
นับตั้งแต่มาปักหลักอยู่ที่นี่ในตอนบ่าย ผมยังคงได้ยินเสียงรถไถนาดังอยู่ไม่ขาดระยะ ถึงแม้ว่าจะบ่ายคล้อยมากแล้วจนใกล้เย็น เพราะในผืนนาทางด้านซ้ายมีชาวนากำลังขับรถไถเพื่อไถพรวนพื้นนาอย่างขยันขันแข็ง ผมหันกลับไปดูอีกครั้ง แต่แทนที่จะได้เห็นหนุ่มใหญ่คนเดิมที่ขับรถไถมาตั้งแต่บ่าย ผมกลับเห็นหนุ่มน้อยวัยใสกำลังขับรถไถด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คงจะออกมาไถนาแทนพ่อเป็นแน่เชียว เพราะพ่อคงไถนามาตั้งแต่เช้าจนเหนื่อยแล้ว
กลางผืนนาท้าแดดส่องแผดกล้า
เขาไถฝ่าฟื้นดินทั่วถิ่นสถาน
แม้ดินแห้งแล้งน้ำหยุดฉ่ำนาน
ฤๅสะท้านทรหดขับรถไป
เพื่อผืนนาหน้าดินท้องถิ่นเขา
จึงเพียรเฝ้าฝ่าฟันไม่หวั่นไหว
ยอมตากแดดแผดร้อนตะลอนใส่
ขับรถไถเที่ยวท่องหมองลำเค็ญ
ตื่นแต่เช้าเข้านาลุยมาเรื่อย
ลืมเหน็ดเหนื่อยหน่ายแหนงแรงเคี่ยวเข็ญ
ไถพรวนดินถิ่นใดอย่างใจเย็น
มิเคยเว้นว่างงานสำราญใจ
รอเวลาหน้าฝนหล่นจากฟ้า
พลิกผืนนาหน้าดินทุกถิ่นไหน
ให้ชุ่มฉ่ำย่ำนุ่มชุ่มนาไทย
หนุ่มรถไถจึงทนไม่บ่นครวญ
ในระหว่างที่ชาวนากำลังไถนาไปเรื่อยๆเช่นนี้ ถึงแม้ว่าชาวนาจะไม่ได้ใช้ควายไถนาอีกต่อไปแล้ว เพราะมีเครื่องทุนแรงอย่างรถไถ แต่นกยางควาย (Cattle Egret) ยังคอยเดินติดตามรถไถเพื่อจิกกินแมลงที่บินหนีขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อรถไถแล่นผ่านอยู่ตลอดเวลา แม้แต่นกแซงแซวหางปลา (Black Drongo) ยังคงบินวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆเหมือนเช่นเคยเช่นกัน เพื่อคอยบินไล่โฉบจับแมลงที่บินหนีขึ้นมา นี่คือภาพชีวิตที่เปลี่ยนไปเหนือทุ่งนาไทย