ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาอยู่ตลอดเวลา ผมยังคงส่องกล้องมองดูนกพิราบป่านับร้อยที่อยู่เกลื่อนกลาดเต็มพื้นนาที่แตกระแหง เพราะน่ามองกว่านกพิราบป่าในเมืองหลายเท่านัก นานๆจึงมีนกเขาไฟบินลงมายังพื้นนาปะปนกับนกพิราบป่าสักตัว สองตัว แต่ไกลออกไปกลางทุ่งนาที่มีแต่พื้นดินแห้งๆจนสุดสายตา ผมแทบมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากไอแดดร้อนระอุที่แผดเผาพื้นนา กับกระท่อมหลังน้อยที่เห็นอยู่ไกลลิบ กระท่อมน้อยคอยใครคนไหนหนอ ปลูกไว้รอเราเยือนยากเลือนหาย ยามแดดรอนร้อนนักชักตาลาย เข้าแฝงกายใกล้กันร้อนพลันลา ครั้นมีฝนหล่นฝากจากฟ้าไกล เราไถลถึงกระท่อมเปียกมอมหนา แค่หลบพักสักหน่อยค่อยจากลา ให้เสื้อผ้าพอแห้งฝนแรงไป แม้บัดนี้มีฉันเหมือนวันก่อน ใยไม่ย้อนมาเยือนแชเชือนไหน ทิ้งให้เศร้าเหงาหงอยทนน้อยใจ ด้วยเหตุใดดลจิตคิดไตร่ตรอง หรือหน้าแล้งแห้งสิ้นพื้นดินแตก ผืนนาแยกฝนหยุดสุดหมางหมอง ยากทนทู้อยู่ไปไม่อยากมอง เธอจึงต้องตะลอนเลิกย้อนคืน ผมคิดอะไรไปเรื่อยเสียเพลิน จนกระทั่งแสงแดดเริ่มอ่อนล่าลง เพราะเป็นเวลากว่า 16.00 น. แล้ว ผมยังคงส่องกล้องดูนกไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะเห็นแต่นกชนิดเดิมๆที่เห็นแล้วในวันนี้ ในไม่ช้าเหยี่ยวดำเริ่มทยอยกันกลับมาทีละตัว สองตัว จากทุกทิศทุกทาง บินข้ามผืนนาอันกว้างใหญ่ที่มีแต่ดินแยกแตกระแหง กลับมายังหมู่ต้นตาลเพื่อเกาะพักผ่อนหลับนอนในยามพลบค่ำ ผมค่อยๆเดินกลับมาปักหลักอยู่ใกล้ๆรถที่จอด
26 มีนาคม 2547 13:16 น. - comment id 237244
:)
26 มีนาคม 2547 14:35 น. - comment id 237274
น่าสนใจนะค่ะ อยากไปดูบ้างจังเลย สงสัยต้องขอคำแนะนำบ้างแล้วนะค่ะ *-*
26 มีนาคม 2547 16:52 น. - comment id 237339
เมื่อมองเห็นกระท่อมย้อนนึกถึง ความหวานซึ้งตรึงใจในใจฉัน เคยใกล้ชิดกับหวานในชีวัน กับกระท่อมหลังนั้นที่ปลายนา *-*กลอนแต่งจากนิยายนะค่ะ มิใช่เรื่องจริง เพราะบ้านผู้หญิงไร้เงาไม่มีทุ่งนาค่ะ อิอิ กลอนคุณไพเราะมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมผลงานเสมอนะค่ะ)*-*