ดงตาล
นกตะวัน
นอกจากนกหงส์หยกแล้ว เรายังเห็น นกเอี้ยงด่าง (Asian Pied Starling) นกแอ่นพง (Ashy Woodswallow) นกกระจอกตาล (Plain-backed Sparrow) นกอีแพรดแถบอกดำ (Pied Fantail) และ นกเอี้ยงหงอน (White-vented Myna) บนต้นไม้ริมทางด้วย แต่เพื่อมิให้เสียเวลามากเกินไป เราจึงสอบถามชาวบ้านคนหนึ่งที่เดินผ่านมา จึงรู้ว่าเหยี่ยวดำพากันมารวมฝูงเกาะพักผ่อนหลับนอนในดงตาลที่เรามองเห็นอยู่ไกลลิบตรงขอบนาทาบทับท้องฟ้าสีคราม
อยู่แสนไกลในนาแดดจ้าส่อง
ตะวันต้องต้นตาลยืนต้านไหว
ไม่กลัวแดดแผดเผาเฝ้าทุ่งไป
ต้นสูงใหญ่อยู่ยั้งแรงยังมี
ขึ้นเป็นดงตรงเด่นเห็นแต่ไกล
ทาบฟ้าใสสีครามงามสุดสี
เกิดทิวทัศน์มัดใจได้ทั้งปี
สวยเต็มที่ทุกฤดูอยู่เรื่อยมา
สัญลักษณ์สลักไว้ให้คนรู้
ดงตาลคู่เคียงเมืองลือเลื่องหนา
สุนทรภู่ครูเราเฝ้าพรรณนา
ทั่วพาราพริบพรีมีแต่ตาล
มองทางไหนให้เห็นเป็นโตนด
ลำต้นโดดตรงดิ่งไร้กิ่งสาน
ใบกลมโตโย้หยักขอบจักบาน
ยืนสะท้านท้องนาท้าแดดดี
เราไม่รอช้ารีบตรงไปยังดงตาลนั้นทันที ยิ่งใกล้จะถึงดงตาลมากเท่าไร เขาย้อยยิ่งห่างไกลออกไปมากเท่านั้น พอนายโต้งเลี้ยวขวาขับรถไปตามคันนากว้างๆซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยดงตาล เขาย้อยที่เราผ่านมาจึงเห็นเป็นเพียงโขดหินที่ขอบนา ในไม่ช้าเราได้เข้ามาอยู่ท่ามกลางดงตาล สัญลักษณ์แห่งเมืองเพชรบุรีหรือพริบพรีในอดีต สมกับที่สุนทรภู่ได้กล่าวไว้ใน นิราศเมืองเพชร ว่า ทั่วประเทศเขตแคว้นแดนพริบพรี เหมือนจะชี้ไปไม่พ้นแต่ต้นตาล