หมอปุ๊

นกตะวัน


เราเดินมาเรื่อยๆ สบายๆ ผ่านหัวโค้งหลายโค้ง แต่ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด ทั้งยังรู้สึกเย็นเสียด้วยซ้ำ เพราะตลอดเวลาเราเดินอยู่ภายใต้ร่มเงาของหมู่ไม้สูงใหญ่ที่แผ่เรือนยอดเบียดชิดกัน จนแทบบดบังมิให้แสงแดดส่องผ่านลงมาได้ บางช่วงจึงร่มครึ้ม แต่บางช่วงมีแสงแดดส่องลงมาได้บ้าง จนกระทั่งมาพบหมอปุ๊กำลังพาน้องต้นและสมาชิกชมรมฯ ล้านนาดูนกด้วยท่าสบาย ภายใต้แสงแดดยามบ่ายที่ส่องผ่านม่านไม้เป็นลำลงมา 
เธอเก่งกาจฉลาดล้ำช่ำชองนก		
มองวิหคเหินใส่ไม่เสาะหา	
นำเพื่อนพ้องน้องรักพักสายตา		
แนบพื้นป่าประดับดินนอนสิ้นแรง
มือยกกล้องส่องสูงยอดยูงยาง		
ตาไม่ว่างเว้นจ้องมองฝ่าแสง	
หูเงี่ยฟังชั่งใจให้เคลือบแคลง			
ยังไม่แจ้งเจอนกวิหคใด
แสงแดดส่องล่องลงตรงเป็นลำ		
ใบหน้าคล้ำค่อนหมองเห็นผ่องใส
ได้พักผ่อนนอนสบายคลายจิตใจ		
คงแจ่มใสสดชื่นตื่นรับงาน
แล้วบอกผองน้องพี่ที่มีเห็น
นกซ่อนเร้นร้องรับขับเสียงขาน
เกาะแนบกิ่งพิงไปใต้ใบบาน		
มีแสงผ่านพร่ำเพรื่ออย่าเบื่อชม
หลังจากทักทายพูดคุยกับหมอปุ๊ น้องต้น และสมาชิกชมรมฯ ล้านนาแล้ว พวกเรายังเดินกันต่อ แต่เดินไปได้สักพักต้องเปลี่ยนใจเดินย้อนกลับเพราะไม่ค่อยเห็นนกอะไรนัก ตั้งใจจะออกไปเดินดูนกรอบๆด่านตรวจที่ 2 เราจึงรีบเดิน สวนกับนักดูนกสองสามคนที่พึ่งเดินเข้ามา และผ่านนักดูนกหลายคนที่กำลังเดินออกไป จนกระทั่งออกมาถึงปากทาง จึงเดินไปหยุดยืนดูนกอยู่ริมถนน แม้ว่าจะมีรถแล่นผ่านไปผ่านมาให้หวาดเสียว แต่ดูเหมือนจะเห็นนกมากกว่าข้างใน				
comments powered by Disqus
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    12 มีนาคม 2547 08:09 น. - comment id 229425

    เขียนได้ดีนะครับ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    12 มีนาคม 2547 11:29 น. - comment id 229483

    แต่งได้ไพเราะมากๆๆๆๆเลยค่ะ  ชื่นชมในฝีมือเสมอนะค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน