หลังจากเก็บเต็นท์และสัมภาระเรียบร้อยแล้ว แต่อาไกยังมาไม่ถึง เพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงจึงจะถึงเวลานัด ผมจึงถือโอกาสออกไปเดินเล่นเพื่อมองดูสิ่งต่างๆที่ผมพบเห็นที่นี่เป็นการอำลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลานกางเต็นท์ บ้านเอเฟรม ต้นนางพญาเสือโคร่ง ประตูรั้วด้านหน้า และทางเดินขึ้นสู่ยอดดอยผ้าห่มปก แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงานของหน่วยจัดการต้นน้ำ ผมจึงได้เห็นชาวเขาเผ่าม้งรดน้ำกล้าไม้บ้าง แต่บางคนเดินเข้าป่าไป แผ่นดินนี้ที่เขาเคยเผาป่า ทำไร่นาเนิ่นนานร้าวรานหลาย ถางหมดสิ้นดินดอนถอนพืชตาย เกิดผลร้ายสลายดินน้ำสิ้นนอง ณ บัดนี้มีเขาเฝ้าดูแล สร้างป่าแน่แท้ทนเลิกหม่นหมอง ต้นไม้ฟื้นคืนใหม่ให้คอยมอง ฝนตกต้องตามกาลยาวนานไกล เขาคือคนด้นป่ามาช้านาน เคยล้างผลาญเผาสิ้นถิ่นป่าไหน แต่กลับตัวกลัวจนทั้งพ้นภัย รับจ้างไว้หวังเงินเดินชีวี ตื่นแต่เช้าเข้าป่ามุ่งฝ่าไป ปลูกต้นไม้ให้งามตามวิถี เปลี่ยนดอยโกร๋นโล้นป่ามาหลายปี เขียวเต็มที่มีต้นไม้สดใสงาม ผมถือโอกาสเดินไปทักทายนักดูนกทั้งหลายเพื่ออำลาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะดูนกของหมอหม่องและนายวัชระ พวกเรารู้สึกเป็นสุขและสนุกเสมอที่ได้พบปะพูดคุยและดูนกร่วมกันบนดอยผ้าห่มปกแห่งนี้ ทั้งๆที่เรามิได้นัดหมายกันมาก่อน แต่ตามปกติเรามักพบกันเสมอในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์นก เช่น โครงการสำรวจนกประจำปีบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการดูเหยี่ยวอพยพ ประเทศไทย จังหวัดชุมพร
25 มกราคม 2547 00:03 น. - comment id 207340
กลอนไพเราะมากเลยค่ะ
25 มกราคม 2547 09:06 น. - comment id 207398
ฤดูกาลดวงดอกไม้ สาวบ้านนา ฤดูกาลผ่านมาก็ผ่านไป กี่ร้อนใจกี่ฝนหนาวกี่เศร้าฝัน ฤดูกาลดอกไม้หวานบานร่วงพลัน ชีวีสั้นใช่ยืดยาวราวฤดูกาล.. ใบไม้ร่วงควงสู่พื้นซ้ำแล้วก็ซ้ำเล่า มากเรื่องราวในราวใจไหวผันผ่าน ทั้งสุขโศกโลกหยิบยื่นฝันตระการ ทั้งแสนหวานแสนเศร้าคลุกเคล้าใจ มีใบไม้มากมายนักในโลกนี้ ทั้งใบดีหนอนชอนไชไม่ถึงไหน มีใบหนึ่งฉันซึ้งค่าในราวไพร ใบสวยใสใจน้ำค้างพร่างระวี เป็นใบไม้ในราวป่าเลอค่ายิ่ง ธรรมชาติจริงธรรมดาใจใครคนนี้ สร้างคุณค่าคืนพสุธายอดคนดี หวังพร้อมพลีฝากชีวีและร่างกลางสายธารนิพพานธรรม.......
25 มกราคม 2547 12:42 น. - comment id 207447
ผมว่าคุณน่าจะเอามาเขียนเป็นนิราศดีกว่าไหมครับ กลอนเพราะมาก
25 มกราคม 2547 13:35 น. - comment id 207493
เคยเขียนนิราศเหมือนกันครับ แต่รู้สึกเหนื่อยมากกว่าจะเขียนจบ และทนที่จะคิดเขียนกลอนยาวๆกว่าจะจบไม่ไหว และอีกอย่างหนึ่งคนในสมัยปัจจุบันไม่ค่อยสนใจอ่านกลอนยาวๆกันเท่าไร เขาชอบอ่านกลอนสั้นๆกันมากกว่า ผมจึงคิดรูปแบบในการเขียนใหม่ เป็นร้อยแก้ว 4 บรรทัด สลับด้วยกลอน 4 บท แล้วตามด้วยร้อยแก้วอีก 4 บรรทัด เพื่อใช้บรรยายเรื่องราวจนกว่าจะจบ
27 มกราคม 2547 10:31 น. - comment id 208260
ชอบอ่านกลอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนิราศ หรือกลอนแบบไหน เพราะคนที่เขียนกลอน กว่าจะเรียบเรียงออกมาได้ ต้องใช้ทั้งประสบการณ์จริง จินตนาการ รวมไปถึงความหวานของภาษา พออ่านปุ๊บเนี่ยรู้สึกได้ด้วยค่ะ อยากเขียนกลอนเก่ง ๆ แบบคุณนกตะวันนะคะ แต่คงอีกนาน เข้ามาเยี่ยมค่ะ เป็นน้องใหม่ จะพยายามอ่านให้ครบทุกบทกลอนที่คุณแต่งค่ะ