พี่หนูยังคงนั่งพักผ่อนอยู่บนขอนไม้ เพราะยังไม่หายเหน็ดเหนื่อยกับการปีนป่ายขึ้นมาบนดอย ส่วนสาวเจี๊ยบเดินไปเดินมาอย่างร่าเริง พร้อมกับโทรศัพท์สวัสดีปีใหม่กับใครต่อใครไปด้วย เพราะตรงจุดนี้โทรศัพท์มือถือสามารถรับสัญญาณได้ น่าแปลกจริง ส่วนผมยังคงนั่งทอดอารมณ์ไปเรื่อยๆ เพราะรู้สึกสบาย เนื่องจากมีลมเย็นพัดโชยมาไม่ขาดระยะ ทำให้ใบไม้บนต้นทั้งใกล้และไกลสั่นพลิ้วไหวไปกับสายลม พลอยทำให้ผมต้องส่งใจไปหาใครสักคนที่อยู่ห่างไกล เห็นใบไม้ไกวกวัดลมพัดพลิ้ว ใจฉันปลิวลิ่วลอยคอยเรียกหา หวังเธอพ่านขานเสียงจำเรียงมา ปรารถนาหาเธอฉันเพ้อครวญ กอดฝากลมห่มหนาวคราวแดดอุ่น หอมละมุนกรุ่นไอให้พัดหวน โชยลูบเธอละเมอไปไล้รัญจวน ให้เธอหวนทวนคะนึงคิดถึงฉัน ขอเป็นคู่อยู่เคียงไม่เลี่ยงหาย แม้วางวายไม่คลายรักสลักมั่น ครองรักเธอเสมอจิตนิจนิรันดร์ ตราบลมนั้นสั่นพัดสะบัดใบ เฝ้านั่งรอขอลมโชยข่มมา หนาวกายาพาฉันเย็นสั่นไหว ยามลมพัดสะบัดโบยพัดโชยให้ เหมือนฉันไล้โลมลูบกอดจูบเธอ ในไม่ช้าเมื่อแดดเริ่มอ่อนแรง เราจึงเคลื่อนลงจากดอย ผ่านเนินหฤโหดซึ่งเราต้องค่อยๆเดินลงไป เพราะมีใบไม้แห้งกองอยู่ตามร่องดินที่เราต้องแหย่เท้าลง ทำให้เดินไม่ค่อยสะดวก เพราะลื่นไถลได้ง่าย จนกระทั่งลงมาถึงห้วยแม่สาว จึงนั่งพักผ่อนและลูบไล้หน้าตาด้วยสายน้ำอีกครั้ง จากนั้นจึงพากันเดินต่อเลาะเลียบห้วยแม่สาวไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงดงไผ่ ผ่านดงสาบเสือ หมู่ต้นนางพญาเสือโคร่ง และแนวต้นสนในที่สุด มองลงไปที่บ้านเอเฟรม แลเห็นผู้คนมากมาย คงมีใครขึ้นมาสมทบอีกเป็นแน่
14 มกราคม 2547 20:35 น. - comment id 202727
กลอนของคุณเพราะอีกแล้วครับ มาทักทายครับ
15 มกราคม 2547 12:56 น. - comment id 202955
แต่งได้เพราะดีจังเลยค่ะ แวะมาชื่นชมค่ะ
15 มกราคม 2547 15:37 น. - comment id 203015
สายลมโชยโบกพัดและปลิวไหว อยากบอกคนไกลเหลือเกินว่า ฉันคิดถึงตัวเธอทุกเวลา วานช่วยลมพัดพาไปบอกเธอ *-*กลอนไพเราะเหมือนเดิมนะค่ะ แต่งเก่งมากเลยค่ะ*-*