สาวใจเดินนำหน้าไปก่อน เพราะใจร้อนอยากไปให้ถึงยอดดอยเร็วๆ ส่วนผม พี่หนู และสาวเจี๊ยบนั่งพักผ่อนสนทนากันจนเพลินใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จนเวลาล่วงเลยไป เข้าใจว่าสาวใจคงใกล้จะถึงระดับ 2,000 เมตรซึ่งเต็มไปด้วยป่าดิบเขาระดับสูงที่นิยมเรียกกันว่า ป่าดึกดำบรรพ์ แล้ว บริเวณนั้นเป็นดอยหัวแม่แรงซึ่งครั้งหนึ่งเราเคยขึ้นไปกางเต็นท์พักแรม โดยอาศัยน้ำจากห้วยแม่แรงสำหรับหุงหาอาหาร แต่ฟืนบนนั้นหายากเต็มทนและเปียกชื้น ป่าผืนนั้นฉันไปในครั้งก่อน พื้นดินดอนขอนไม้ใส่สีเขียว มอสปกคลุมรุมแน่นเป็นแผ่นเชียว เดินลดเลี้ยวเหลียวที่ใดเขียวใสจริง ไม้ต้นใหญ่ไม่มากแต่หลากหลาย แผ่กระจายขยายกิ่งพาดพิงยิ่ง ฝอยลมย้อยห้อยเฟินเพลินเต็มกิ่ง กล้วยไม้พิงอิงแนบแอบคบไม้ ว่านไก่แดงแฝงส้มกุ้งขึ้นรุงรัง เถาวัลย์รั้งลำพังเลื้อยพาดเฟื้อยไต่ ทั่วลำต้นบนกิ่งใดในต้นไม้ ห่มหุ้มใส่ไม่สร่างซาผืนผ้าเขียว ในยามเช้าหมอกเร้ารุมโปรยคลุมทั่ว อากาศมัวสลัวป่าพาให้เสียว เหมือนหลงมาป่าโบราณล้านปีเชียว มองคอยเหลียวเอี้ยวทางใดให้ระแวง จากดอยหัวแม่แรงที่เราเคยไปพักแรม ถ้าเดินขึ้นไปอีกหน่อยจนผ่านพ้นป่าดึกดำบรรพ์ จะแลเห็นยอดดอยอยู่ไม่ไกลนัก แต่ดูคล้ายเขาหัวโล้น เพราะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าโลงที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเลย เนื่องจากพื้นดินบางและลมพัดแรงจัด และในเวลากลางวันร้อนจัดเช่นกัน เพราะดวงตะวันส่องแสงลงมาถึงได้เต็มที่ ใครๆจึงนิยมมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกเหนือยอดดอยผ้าห่มปกแห่งนี้ สุดขอบฟ้าชายแดนไทย
14 มกราคม 2547 12:58 น. - comment id 202539
อากาศเย็นมากสินะคะ
14 มกราคม 2547 16:14 น. - comment id 202577
นึกถึงเพชรพระอุมาเลย มีตอนป่าดึกดำบรรพ์ด้วยค่ะ
15 มกราคม 2547 10:44 น. - comment id 202892
เขาหัวโล้น คิดว่าคงไม่ต่างจากเขาหัวล้าน ของจังหวัดที่ผู้หญิงไร้เงาอยู่แน่เลยค่ะ ส่วนป่าดึกดำบรรพ์ผู้หญิงไร้เงาว่าถ้าอยู่ตอนกลางวันยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรนะค่ะ แต่ถ้าอยู่ตอนกลางคืนแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันค่ะ (กลอนไพเราะเสมอนะค่ะ)