พิซหลิว

นกตะวัน


รถของเราแวะเติมน้ำมันดีเซลที่ปั๊มแห่งหนึ่งทางด้านขวาของถนน เปิดโอกาสให้ผมและคนอื่นๆออกไปทำธุระและยืดเส้นยืดสาย บางคนคว้ากล้องสองตาออกมาส่องหานกกันบ้างแล้ว เพราะรอบๆปั๊มมีต้นไม้ขึ้นอยู่มากมาย และไกลออกไปทางด้านหลังเป็นท้องไร่ท้องนา ผมเดินไปทางด้านหลังเพราะได้ยินเสียง  จิ๊บจะลิ่ว จิ๊บจะลิ่ว  ดังติดต่อกันมาแต่ไกล และได้พบเจ้าของเสียงเกาะอยู่ในดงอ้อที่ขึ้นเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำฝางซึ่งไหลผ่านหลังปั๊ม
บนยอดอ้อล้อลมพัดข่มพลิ้ว			
จิ๊บจะลิ่วพิซหลิวร้องดังก้องหล้า			
เสียงกังวานหวานจังช่างเจรจา		
เกาะหันมาน่ามองส่องกล้องพลาง
แก้มนวลขาวสกาวใสจุดใต้แดง		
น้ำตาลแต่งแต้มทั่วหัวจดหาง
หงอนชูเด่นเป็นชฎาหน้าสำอาง		
ท้องสีข้างขาวหม่นก้นแดงดี
ยามอ้อไหวไกวแกว่งแข่งลมพัด		
หงอนสะบัดปัดพลิ้วปลิวเต็มที่
แต่เสียงร้องยังก้องใสไพเราะดี		
เพราะเหตุนี้จึงมีคนจับขนไป
นำไปขังลำพังเดี่ยวให้เที่ยวร้อง		
แผดเสียงก้องกังวานหวานชิดใกล้
อยู่กับคนจนกระทั่งนั่งสิ้นใจ			
สุขหรือไม่ใคร่ครวญชวนคิดดู
นกชนิดนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า นกปรอดหัวโขน (Red-whiskered Bulbul) แต่ชาวภาคเหนือเรียกกันว่า นกพิซหลิว ซึ่งเพี้ยนมาจากเสียงร้องของนกที่ดัง  จิ๊บจะลิ่ว จิ๊บจะลิ่ว  ส่วนชาวปักษ์ใต้เรียกว่า นกกรงหัวจุก และนิยมเลี้ยงกันเป็นล่ำเป็นสัน เป็นประเพณีนิยมที่ฝังรากลึกมานานแสนนาน ทำให้มีการดักจับนกชนิดนี้ไปเลี้ยงไว้ดูเล่นจนหมดไปจากป่าปักษ์ใต้ และแทบจะหมดไปจากป่าในภาคอื่นๆแล้ว				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    8 มกราคม 2547 23:45 น. - comment id 199926

    ชื่อแรกที่เรียกไว้
    อ่านแล้วงงสงสัยในที่นี้
    แต่พออ่านจบครบหมดที่มี
    จึงรู้ว่าเป็นนกกรงหัวจุกที่ภาคใต้นี้ใช้เรียกกัน
    
    *-*แหมต่างภาคต่างภาษาจริง ๆ เลยค่ะ  เรียกกันไปคนละอย่าง  อ่านหัวข้อก็ยังสงสัยว่าเป็นชื่ออะไรอยู่เลยค่ะ  แต่พออ่านไปอ่านมาจึงรู้ว่าเป็นชื่อนกกรงหัวจุกนี่เอง  จุดใต้ตำตอแท้ ๆ เลยค่ะ อิ อิ กลอนไพเราะมากเลยค่ะ*-*

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน