@เดือนสิบสองคืนวันเพ็ญสิบห้าค่ำ เหมือนเตือนย้ำความสนุกครั้งสุขสม ประเพณีลอยกระทงตามนิยม ดวงจันทร์กลมงามเลิศล้ำสุดรำพัน เงาจันทร์ทาบบนผิวน้ำปานสร้างสรร เธอและฉันเหมือนเคียงคู่อยู่สวรรค์ กระทงน้อยคล้อยเคียงคู่อยู่นิรันดร์ สุขอนันต์ดังสวรรค์ประทานพร @ลอยความทุกข์ให้หายไปกับสายน้ำ หลอมความจำครั้งร้อยเรียงเคียงสมร กรองความหวานกลั่นความชื่นเอื้ออาทร สร้างนุสรณ์แห่งชีวิตติดตรึงใจ สิบห้าค่ำเดือนสิบสองของปีนี้ น้ำล้นปรี่มีมากมายเกินพิสัย เพราะน้ำตาที่ล้นร่วงจากดวงใจ มาเติมใส่ให้ล้นหลามฝั่งนที @ดวงจันทร์เพ็ญเด่นนภาฟ้าสลัว ใจมืดมัวไม่สดใสไร้ราศรี ไร้กระทงที่ลอยทุกข์เหนือนที เพราะไม่มีนวลนางมาข้างกาย ยืนระทมอมทุกข์ความสุขหาย อยู่เดียวดายบนตลิ่งสิ้นความหมาย กายสงบนิ่งสนิทจิตมลาย ช่างวุ่นวายจริงหนอวันลอยกระทง @จิตสลดรันทดถมจมความทุกข์ มลายสุขที่ตรึงใจใฝ่ไหลหลง ท้อแท้ทาบจับจิตใจได้แต่ปลง ความทนงในใจกายมลายไป อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายใจไฟเศร้าสุม ความทุกข์รุมร้อนเร่งเร้าเข้าเสือกใส เปรียบเหมือนนอนบนกองฟอนที่สุมไฟ รอเมื่อไรจะเผาใจให้ละลาย
11 พฤศจิกายน 2546 01:57 น. - comment id 180415
อ่านแล้วค่ะแต่งเก่งค่ะ อย่าลืมแกว่งแขน วันละห้าร้อยครั้งแก้กลุ้มค่ะอิอิ
11 พฤศจิกายน 2546 03:53 น. - comment id 180423
ที่ตลิ่งริมฝั่งน้ำสิบห้าค่ำ ยังจดจำย้ำติดพินิจเพ่ง มองมองไปเห็นชายหนึ่งยืนเกรง ท่านนั่นเองนึกว่าใครที่ไหนเอย ***เพราะแต่เศร้า เหมือนเราเลย
11 พฤศจิกายน 2546 21:47 น. - comment id 180650
แต่งได้ไพเราะมากเลยค่ะ แต่เศร้ามากเหมือนกัน